ขณะที่ยอดป่วยอาการหนักปอดอักเสบลดลงแต่คงสูงอยู่ 1,391 ราย ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจมากขึ้น 511 ราย กทม.มียอดป่วยปอดอักเสบในรพ.วันนี้เยอะสุด 186 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้พบ 27,071 ราย มาจากต่างประเทศ 49 ราย แต่เมื่อรวมกับผู้ป่วยจากการตรวจ ส่วนผู้ป่วยเข้าข่ายจากการตรวจ ATK วันนี้ขยับเพิ่มเป็น 23,157 ราย ทำให้ไทยมีผู้ติดเชื้อบวกเพิ่มเป็น 50,228 ราย ส่วนยอดเสียชีวิตจำนวน 80 ราย ป่วยติดเตียงถึง 15 ราย ทั้งนี้กลุ่มเสี่ยงเสียชีวิตส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มโรคเรื้อรัง และส่วนใหญ่ติดเชื้อจากคนใกล้ชิด และพบว่าจำนวน 26 ราย ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อีกด้วย สำหรับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุด คือ กทม. จำนวน 3,252 รายซึ่งเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน(3,703) และพบการเสียชีวิตกระจายในทุกภาคทั่วไทย เสียชีวิัตสูงสุดรายจังหวัดอยู่ที่ กทม.14 ราย ส่วนยอดติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง มีจำนวน 103 ราย รักษาหาย 21,522 ราย กำลังรักษาอยู่ 230,603 ราย
วันที่ 18 มี.ค.2565 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 27,071 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 27,022 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 49 ราย ติดเชื้อในประเทศ (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพสูงถึง 26,826 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 93 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 103 ราย) รวมยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 3,303,169 ราย อย่างไรก็ตามหากรวมยอดผู้ป่วยจากการตรวจ ATK จำนวน 23,157 ราย ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จะมี 50,228 ราย
วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 80 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 24,075 ราย หายป่วย 21,522 ราย รวมยอดรักษาหาย 3,048,491 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 230,603 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.68,776 ราย ในรพ.สนาม/HI-CI 161,827 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,391 ราย (จากเมื่อวาน1,402 ราย) ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 511 ราย (จากเมื่อวาน 504 ราย)
สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต จำนวน 80 ราย พบเป็นคนไทย 78 ราย อังกฤษ 1 ราย เมียนมา 1 ราย เพศชาย 39 ราย เพศหญิง 41 ราย อายุ 30-101 ปี พบทุกภาคทั่วไทยโดยเสียชีวิตมากสุดใน กทม.14 ราย โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความรุนแรงของโรคและเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น ซึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิต 80 ราย พบ 67 รายอายุ 60 ปีขึ้นไป และอายุน้อยกว่า 60 ปีแต่มีโรคเรื้อรัง 8 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 ราย ส่วนผู้ป่วยติดเตียงยังมีการรายงานเสียชีวิตต่อเนื่องวันนี้พบ 15 ราย
วันที่ 18 มี.ค.2565 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 27,071 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 27,022 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 49 ราย ติดเชื้อในประเทศ (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพสูงถึง 26,826 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 93 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 103 ราย) รวมยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 3,303,169 ราย อย่างไรก็ตามหากรวมยอดผู้ป่วยจากการตรวจ ATK จำนวน 23,157 ราย ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จะมี 50,228 ราย
วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 80 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 24,075 ราย หายป่วย 21,522 ราย รวมยอดรักษาหาย 3,048,491 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 230,603 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.68,776 ราย ในรพ.สนาม/HI-CI 161,827 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,391 ราย (จากเมื่อวาน1,402 ราย) ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 511 ราย (จากเมื่อวาน 504 ราย)
สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต จำนวน 80 ราย พบเป็นคนไทย 78 ราย อังกฤษ 1 ราย เมียนมา 1 ราย เพศชาย 39 ราย เพศหญิง 41 ราย อายุ 30-101 ปี พบทุกภาคทั่วไทยโดยเสียชีวิตมากสุดใน กทม.14 ราย โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความรุนแรงของโรคและเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น ซึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิต 80 ราย พบ 67 รายอายุ 60 ปีขึ้นไป และอายุน้อยกว่า 60 ปีแต่มีโรคเรื้อรัง 8 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 ราย ส่วนผู้ป่วยติดเตียงยังมีการรายงานเสียชีวิตต่อเนื่องวันนี้พบ 15 ราย