การแต่งตั้งโยกย้ายชั้นนายพล กลางปี 238 นาย ที่คลอดออกมาเมื่อคืน 16 มี.ค. 2565 ที่ผ่านมา เป็นการโยกย้ายเท่าที่จำเป็น แต่ก็มี นายพลใหม่ มากถึง 93 นาย ในส่วน กลาโหม 26 นาย กองทัพไทย 10 นาย กองทัพบก 44 นาย กองทัพเรือ กองทัพอากาศ 5 นาย
ในส่วนของ กองทัพบก “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. พยายามย้ายให้น้อยที่สุด ไม่แตะในส่วนที่อ่อนไหว
โดยเฉพาะ กองทัพภาค 1 แม้ “บิ๊กหลอด” พล.ต.ฐกัด หลอดศิริ รองแม่ทัพภาค1 ที่จะเกษียณ ต.ค.2566 นี้แล้ว ควรต้องขยับขึ้น พลโท ในโยกย้ายครั้งนี้ เพราะเสมือนเป็นรถไฟขบวนสุดท้าย ที่จะเกษียณยศพล.อ. ได้ทัน
แต่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ เลือกที่จะไม่ขยับ เพราะเกรงว่า หากขยับ นายทหารระดับ ผบ.พล ขึ้นมา เป็นรองแม่ทัพภาค 1 แทน จะมีความได้เปรียบเสียเปรียบ กันในแง่อาวุโส เพราะ ผบ.พล หลายคน ที่ถึงคิวต้องขยับ จึงให้รอ ต.ค. เลย เพราะศึก ตท.27 และ ตท.28 กำลังแรง
เพราะมีทั้ง “บิ๊กใหญ่” พล.ต. อมฤต บุญสุยา (ตท.27) ผบ.พล.ร.2 รอ. สายทหารเสือราชินี ที่อยู่ในคิว ที่จะขยับขึ้นมาเป็น รองแม่ทัพภาค 1 เข้าไลน์ ชิง แม่ทัพภาค 1 ในอนาคต โดยมี “รองเสก” พ.อ.เสกสรรค์ พรหมศักดิ์ (ตท.28)รองผบ.พล.ร.2รอ. จ่อคิวอยู่ ที่จะขึ้น ผบ.พล.ร.2 รอ. อยู่ โดยที่ตท.28 รุ่นที่มีพลังภายใน ก็ยังจัดสรรตัว เพื่อนตท.28 คนอื่น มาลงแทนไม่ได้ และเตรียมยึดเก้าอี้ ผบ.พล. ที่จะว่างลง ให้ได้มากที่สุดด้วย
ขณะที่ ระดับ ผบ.พล ของ ตท.27 ก็ยังมี คนที่รอคิว จะขยับขึ้นรองแม่ทัพภาค 1 ทั้ง พล.ต. บรรยงค์ ทองน่วม ผบ.พล.ร.9 และ “บิ๊กตั้ง” พล.ต.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล ผบ.พล.ร.11 ที่จะต้องขึ้นมาพร้อมๆ โดยเฉพาะ พล.ต. อมฤต กับ พล.ต.ธวัชชัย ที่ต้องชิง แม่ทัพภาค1 และ ผบ.ทบ. คอแดง กันในอนาคต ที่จะทำให้ เก้าอี้ ผบ.พล.ร.2 รอ . ผบ.พล.ร.9 และ ผบ.พล.ร.11 ว่าง และคาดว่า ตท.28 จะเข้าเสียบ ยึดแทน เพราะมีทั้ง “รองแอ้ม” พ.อ.ณัฐเดช จันทรางศุ รองผบ.พล.1รอ. และ “บิ๊กกอล์ฟ” พล.ต. สราวุธ ไชยสิทธิ์ ผบ.มทบ.11 รออยู่
ดังนั้น พล.อ.ณรงค์พันธ์ จึงรอโยกย้าย ต.ค.นี้ จัดใหญ่ จัดเต็ม ทบ.คงวุ่นวาย ไม่น้อย ไม่แค่นั้น พล.อ.ณรงค์พันธ์ ก็ไม่ขยับ กองทัพภาค 4 เพราะก็ชิงเก้าอี้ กันหลายคน จากที่ มีกระแสข่าวว่า “แม่ทัพเกรียง” พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาค4 ส่งชื่อ “บิ๊กครุฑ” พล.ท.ธิรา แดหรา แม่ทัพน้อย 4 เพื่อนรักตท.22 ขึ้น พล.อ. ไปเตรียมรอเกษียณ ต.ค.นี้ แล้ว ดึง พล.ต. อุทิศ อนันต์รัตนานนท์ (ตท.24) รองแม่ทัพภาค 4 ขึ้น แม่ทัพน้อย 4 แทน นั้น ที่จะทำให้ พล.ต. อุทิศ เป็น เต็งหนึ่ง แม่ทัพภาค4 คนต่อไป นั้น
แต่ที่สุด ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เพราะจะมีการได้เปรัยบเสียเปรียบกัน อีกทั้ง ยังไม่รู้ว่าโยกย้ายต.ค. นี้ พล.ท.เกรียงไกร จะขยับ ขึ้น พล.อ. หรือไม่ เพราะมีข่าวว่า จะนั่งถึง เม.ย. 2566 แล้วจึงขึ้น พล.อ. 6 เดือนสุดท้าย ก่อนเกษียณ ต.ค. 2566
และจะเป็นจังหวะ รอให้ “รองต้น” พล.ต. ศานติ สกุนตนาค (ตท.25) รองแม่ทัพภาค 4 น้องรักสร้างอาวุโส ขึ้นมา เป็นแม่ทัพภาค 4 ต่อได้ เพราะรู้กันดีว่า พล.ต.ศานติ ถูกวางตัวเอาไว้ ตั้งแต่ยุคที่ “บิ๊กเดฟ” พล.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ เป็นแม่ทัพภาค 4 แล้ว ต่อด้วย พล.ท.เกรียงไกร
นอกจากนั้น ยังมี พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาค 4 ตท.25 เป็นแคนดิเดทอีกคน ด้วย ส่วนโผนี้ พล.ต. ปราโมทย์ พรหมอินทร์ ผบ.มทบ.41 ขึ้น รองแม่ทัพน้อยที่ 4 โดยมี พ.อ.ธนัช ฉิมพาล ขึ้น พล.ต. เป็น ผบ.มทบ.41 แทน
ขณะที่ ทบ.ส่วนกลาง พล.อ.ณรงค์พันธ์ ขยับ “บิ๊กช้าง” พล.ท.เอกรัตน์ ช้างแก้ว รองเสนาธิการทหารบก ขึ้นพล.อ. เป็น ที่ปรึกษากองทัพบก และ “บิ๊กหนุ่ย” พล.ต. วรวุฒิ วุฒิศิริ รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัย ทางอากาศกองทัพบก (นปอ.) เป็น ผบ.นปอ.
และมีการเปลี่ยน กรมฝ่ายอำนวยการ หลายกรม จาก พล.ต. ขึ้น พลโท ทั้ง พล.ต. นุกูล โล่ห์ประเสริฐ เป็น เจ้ากรมกำลังพลทหารบก พล.ต.ดิเรก บงการ เป็น เจ้ากรมข่าวทหารบก พล.ต. เทวมิตร พลภักดี เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบก พล.ต. สรรเสริญ คล้ายแก้ว เป็น เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก พ.อ.เกรียงศักดิ์ ไข่ถาวร เป็นเจ้ากรมการเงินทหารบก พ.อ. สัมพันธ์ ดำรงค์กุล เป็นเจ้ากรมสวัสดิการทหารบก พ.อ.วรพินิจ ขันธุปัฏน์ เป็น ผบ.มทบ 23 พ.อ.ประพัฒน์ พบสุวรรณ เป็นผบ.มทบ.37 พ.อ.ธนัช ฉิมพาลี ผบ.มทบ.41 พ.อ.นันทโชติ ภู่วัฒนา ผบ.บชร.4 พ.อ.อิศรา ดำรงค์ศักดิ์ เป็นเสนาธิการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
โผนี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ตัองบริหารจัดการ เพื่อน ตท.22 ที่เป็น ผบ.หน่วย หลายคน เช่นที่ กองทัพภาค 3 ขยับ พล.ต. นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ (ตท.24) ผบ.พล.ม.1 ขึ้น รองแม่ทัพภาค 3 แล้วดัน “บิ๊กป้อม” พล.ต. ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผบ.มทบ.37 เพื่อนร่วมรุ่น ตท.22 ของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ที่จะเกษียณ 2566 มาเป็น ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 คุมกำลังทหารม้า ภาคเหนือแทน
ขณะที่ ผบ.มทบ.นั้นส่วนใหญ่ เพื่อน ตท.22 เป็นต่อ เพราะตำแหน่ง พลโท มีน้อย หลายคน ต้องเกษียณคาตำแหน่ง ในยศ พล.ต. ตค.2565 นี้ เช่นผบ.มทบ.17,21-24-25-26-28 ผบ.มทบ.31 ผบ.มทบ.32 ผบ.มทบ.34 ผบ.มทบ.36 ซึ่ง บางคนก็เต็มใจ เกษียณในตำแหน่ง ดีกว่า เป็น พลโท ตำแหน่งลอย
แต่ที่เตรียมร้อนในโยกย้ายตุลาคมนี้คือในระดับห้าเสือกองทัพบก ที่แม่ทัพโต พลโทสุขสรรค์ หนองบัวล่าง แม่ทัพภาค1 สายบูรพาพยัคฆ์คอแดง ที่ จะขยับขึ้นห้าเสือทบ. กลายเป็นแคนดิเดต ผบ.ทบ. เพิ่มมาอีก1 คนจากที่มี “บิ๊กต่อ” พล.อ. เจริญชัย หินเธาว์ ผู้ช่วยผบ.ทบ. เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 23 ด้วยกัน สายทหารเสือราชินี คอแดง จ่ออยู่แล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรแน่นอน
ส่วน บก.ทัพไทย ที่ถูกจับตามอง คือผบ.ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) หรือ หัวหน้า CIA หน่วยข่าวกรอง ทัพไทย คนใหม่ ก็เป็นไปตามที่ พล.ท.วัฒนะ พลจันทร์ ผบ.ศรภ.เสนอ คือ “รองอ้อ” พล.ต. ทวีศักดิ์ มณีวงศ์ รอง ผบ.ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) น้องรักสายรบพิเศษ ขยับขึ้น เป็น ผบ.ศรภ. ที่จะต้องมาเตรียมรับงาน ประชุมเอเปก และ ข่าวลับต่างๆ
ที่ต้องรอลุ้นคือโยกย้ายตุลาคมนี้ว่า “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด คอแดง ที่จะนั่งต่อเป็นปีที่ 3 จะเลือกใครขึ้นมาเป็นทายาทจะเป็นทหาร คอแดงหรือคอเขียว ที่จะเป็น ผบ.ทหารสูงสุดคนต่อไป
ขณะที่ กองทัพเรือ ร้อนสุดในโผนี้ “บิ๊กเฒ่า” พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. เด้ง “บิ๊กปู” พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผช.ผบ.ทร. พ้นแคนดิเดท ผบ.ทร. ไปเป็น รองเสนาธิการทหาร อยู่ บก.กองทัพไทย สลับ กับ “บิ๊กจอร์จ” พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ กลับมานั่ง 5 ฉลามทัพเรือ เป็น ผช.ผบ.ทร. จ่อเป็น ผบ.ทร.คนต่อไป ต.ค. นี้
ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ เพราะ พล.ร.อ.สุทธินันท์ และ พล.ร.อ.เชิงชาย แม้เป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.22 แต่ พล.ร.อ.สุทธินันท์ อาวุโส กว่า เพราะติดยศ พล.ร.อ.ก่อน ตั้งแต่ ต.ค.2563 ส่วน พล.ร.อ.เชิงชาย เพิ่งติดยศ พลเรือเอก เมื่อ ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา เพราะอีกทั้ง.ทร. อาวุโส กว่า รองเสนาธิการทหาร จะย้ายสลับกันไม่ได้
แต่ทั้งหมดนี้ เป็นเพราะ พล.ร.อ.สุทธินันท์ เป็นน้องรักของ “บิ๊กลือ” พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีตผบ.ทร. วางตัวเป็นทายาทอำนาจ นั่นเอง เพราะ เป็นที่รู้กันดีว่า พล.ร.อ.สมประสงค์ และ พล.ร.อ.ลือชัย มีปัญหาคาใจกัน
แม้ ในทร.จะมี แคนดิเดท ผบ.ทร. อยู่แล้ว แต่ถูกมองว่า เป็นแคนดิเดท ที่ พล.ร.อ.ลือชัย ผลักดันขึ้นมา ทั้ง “บิ๊กโต้ง” พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ (ตท.21) รองผบ.ทร. ที่อาวุโสสูงสุด เพราะเป็น พลเรือเอกพิเศษ และ “เสธ.แจ๊ค” พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ (ตท.23)เสธ.ทร.
ก่อนหน้านี้เมื่อ ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา เทื่อแรก ที่ พล.ร.อ.สมประสงค์ ได้ข้ามจาก รองปลัดกลาโหม มาเป็น ผบ.ทร. ก็สั่งรื้อถอน ตัดต้นไผ่ แบบจีน ที่ปลูกไว้สมัย บิ๊กลือ ที่เน้นฮวงจุ้ย ตามความเชื่อแบบจีน ทั้งที่ กองทัพเรือ พระราชวังเดิม และ บก.ทร. วังนันทอุทยาน และการรื้อป้ายมอตโต้ของ บิ๊กลือ ทิ้ง แล้วสร้างใหม่
ทั้งนี้ เพราะในยุค พล.ร.อ.ลือชัย ขึ้น ผบ.ทร. พล.ร.อ.สมประสงค์ ถูกเด้งไปเป็น รองปลัดกลาโหม อยู่ 2 ปี และ พยายามกลับทร. แต่ถูก พล.ร.อ. ลือชัย สกัดกั้น แต่ ในที่สุด พล.ร.อ.สมประสงค์ ก็ได้กลับมาเป็น ผบ.ทร. ในปีสุดท้าย ด้วยพลังเพื่อนตท.20 จึงถึงเวลาล้างบาง
โผนี้ พล.ร.อ.สมประสงค์ ยังเด้ง พล.ร.ต.เอกสิทธิ์ วุฒิเผ่า (ตท.27) ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กรมยุทธการทหารเรือ อดีตฝ่ายเสธ.หน้าห้อง พล.ร.อ.ลือชัย พ้นตำแหน่งหลัก ที่เกี่ยวข้องกับ แผนการจัดหายุทโธปกรณ์ ต่างๆ ในด้านยุทธการ ไป เป็น หัวหน้าฝ่ายวิชาการ กรมยุทธศึกษาทร.
ท่ามกลางการจับตามอง ไปที่ พล.ร.อ.สุทธินันท์ ที่ถูกเด้ง ว่าจะยอมรับสภาพ หรือจะต่อสู้ เรียกร้องความเป็นธรรมในศาลปกครอง
แต่อย่างไรก็ตามในโยกย้ายตุลาคมนี้แม้ พล.ร.อ.เชิงชาย จะเป็นเต็งหนึ่งไปแล้วแต่แคนดิเดตคนอื่น ก็คงไม่ถอยง่ายๆ โดยเฉพาะ พล.ร.อ. ธีระกุล ที่อาวุโสสูงสุดและมีความชอบธรรม ที่คาดกันว่าศึกฉลามรออยู่เบื้องหน้า
ขณะที่ กองทัพอากาศ “บิ๊กป้อง” พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ. ดัน พล.อ.ท.ณรงค์ อินทชาติ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรืออากาศ นวมินทกษัตริยาธิราช (รร.นนก.)เป็น ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพอากาศ ติดยศ พล.อ.อ.เลย เพื่อเตรียมขึ้น 6 เสืออากาศ นั่ง ผบ.คปอ. หรือ ผช.ผบ.ทอ. ในโยกย้าย ต.ค.นี้ โดยเกษียณ ต.ค.2567 พล.อ.ท. ณรงค์ ตท.23 เป็นนักบิน F16 เคยเป็น ผู้บังคับฝูงบิน 103 ผู้บังคับการกรมนักเรียนนายเรืออากาศรักษาพระองค์ และ ผู้บังคับการกองบิน 1
พร้อมดัน “เสธ.เอก” พล.อ.ต.กฤษฎา สุพิชญ์ (ตท.25) ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพอากาศ นักบิน F16 อดีตผบ.กองบิน1 อดีตผช.ทูตทหารอากาศ ประจำวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐ ฯ ทีมฝ่ายเสธ. “บิ๊กป้อง” ขยับลงตำแหน่ง เป็น รองผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรืออากาศฯ เพื่อเติบโตในอนาคต
ขณะที่การแต่งตั้งโยกย้ายตุลาคมนี้กองทัพอากาศก็ร้อน เพราะต้องเปลี่ยน ผบ.ทอ. คนใหม่ แต่มีแคนดิเดตใน 6 เสืออากาศ ถึง 4 คน จึงน่าจะเข้มข้น เรียกได้ว่า โผทหาร ครั้งนี้ เป็นไปตามที่ ผบ.เหล่าทัพ ตัดสินใจ และเสนอขึ้นไป โดยที่ ฝ่ายการเมือง โดย บิ๊กตู่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ก็ปล่อยผ่าน เพราะไม่ค่อยสันทัด เรื่องใน ทร. ทอ. จะมองเฉพาะ ในทบ. และโดยเฉพาะกองทัพภาค1 เท่านั้น
