จากกรณี อุบัติเหตรถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้อ Chevrolet สีดำ หมายเลขทะเบียน บย 2745 ชุมพร ซึ่งขนแรงงานเถื่อนชาวเมียนมาร์หลบหนีเข้าเมือง มุ่งหน้าตำบลมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร รวมทั้งหมด 18 คน ได้ประสบอุบัติเหตุชนการ์ดเลนส์พลิกคว่ำ และถูกรถตู้ซึ่งวิ่งมาทางตรงชนซ้ำทำให้เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตรวม 6 ศพ แบ่งเป็นชาย 2 คน หญิง 4 คน เหตุเกิดบนถนนเพชรเกษม ฝั่งขาเข้า กทม.หลักกิโลเมตรที่ 316 + 800 หมู่ 9 บ้านหนองน้ำขาว ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เมื่อช่วงเวลา 03.00 น.ที่ผ่านมา
คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ พ.ต.อ.สุชิน กิจกสิกร ผกก.สภ.คลองวาฬ เจ้าของพื้นที่ที่เกิดเหตุได้เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ตนเองอยู่ในช่วงลาพักราชการเป็นเวลา 5 วัน และไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ แต่เปิดเผยข้อมูลเพียงสั้นๆ ในประเด็นที่สื่อถามกรณีผู้นำพาซึ่งเป็นคนขับที่ได้หลบหนีไป มีความคืบหน้าในการติดตามจับกุมตัวหรือไม่ ในประเด็นนี้ผู้กำกับไม่สะดวกให้ข้อมูล ส่วนประเด็นผลการตรวจหาเชื้อ covid-19 ได้แจ้งว่าต้องสอบถามทางสาธารณสุขอำเภอ และส่วนในประเด็นศพผู้เสียชีวิตทั้งหมด 6 รายมีการดำเนินการอย่างไรมีญาติมาติดต่อขอรับศพไปดำเนินพิธีกรรมทางศาสนาหรือไม่ ด้านผู้กำกับระบุว่าศพยังอยู่ที่โรงพยาบาลประจวบ เพื่อให้แพทย์ชันสูตรพลิกศพและขณะนี้ยังไม่มีใครติดมาติดต่อขอรับศพแต่อย่างใด ซึ่งถ้าหากไม่มีใครมาติดต่อขอรับศพก็จะต้องส่งให้มูลนิธินำไปเก็บรักษาไว้ในสุสานของมูลนิธิ เพื่อรอให้ญาติมาติดต่อขอรับในลำดับต่อไป ส่วนพม่าที่รอดชีวิตรวม 7 คนก็ต้องส่งตัวเข้ากักกันโรคเป็นเวลา 14 วันก่อนดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมถึงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย ถ้าหากรักษาหายแล้วก็ต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายด้วยเช่นกัน
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองระบุในประเด็นการตรวจหาเชื้อ covid-19 โดยการเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่ง หรือตรวจเชื้อด้วย ATK ระบุว่า นโยบายกระทรวงสาธารณสุขกรณีจับกุมแรงงานเมียนมาได้และต้องดำเนินคดีให้นำตัวผู้ต้องหาเข้ากักกันโรคเป็นเวลา 14 วันได้เลย และค่อยตรวจหาเชื้อ covid-19 ในวันที่ 13 ก่อนครบ 14 วันหากพบเชื้อก็ให้กักตัวต่อ แต่ถ้าไม่พบเชื้อก็ค่อยส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้เพื่อประหยัดงบประมาณแผ่นดินไม่ต้องตรวจถึง 2 ครั้งเหมือนเช่นอดีตที่ผ่านมา เมื่อจับกุมแรงงานเมียนมาได้ก็จะตรวจหาเชื้อ covid-19 ครั้งแรกก่อน 1 ครั้ง และหลังก่อนครบ 14 วันอีก 1 ครั้ง ซึ่งในเคสกรณีนี้ได้นำตัวแรงงานต่างด้าวที่รอดชีวิตจากการประสบอุบัติเหตุนำไปกักกันโรคที่บริเวณสนามกีฬาฟุตบอลของโรงงานบริษัททิปโก้อยู่บริเวณเส้นทางขึ้นด่านสิงขร และเมื่อครบ 14 วันและตรวจไม่พบเชื้อก็จะส่งดำเนินคดีตามกฎหมายที่ สภ.คลองวาฬต่อไป
คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ พ.ต.อ.สุชิน กิจกสิกร ผกก.สภ.คลองวาฬ เจ้าของพื้นที่ที่เกิดเหตุได้เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ตนเองอยู่ในช่วงลาพักราชการเป็นเวลา 5 วัน และไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ แต่เปิดเผยข้อมูลเพียงสั้นๆ ในประเด็นที่สื่อถามกรณีผู้นำพาซึ่งเป็นคนขับที่ได้หลบหนีไป มีความคืบหน้าในการติดตามจับกุมตัวหรือไม่ ในประเด็นนี้ผู้กำกับไม่สะดวกให้ข้อมูล ส่วนประเด็นผลการตรวจหาเชื้อ covid-19 ได้แจ้งว่าต้องสอบถามทางสาธารณสุขอำเภอ และส่วนในประเด็นศพผู้เสียชีวิตทั้งหมด 6 รายมีการดำเนินการอย่างไรมีญาติมาติดต่อขอรับศพไปดำเนินพิธีกรรมทางศาสนาหรือไม่ ด้านผู้กำกับระบุว่าศพยังอยู่ที่โรงพยาบาลประจวบ เพื่อให้แพทย์ชันสูตรพลิกศพและขณะนี้ยังไม่มีใครติดมาติดต่อขอรับศพแต่อย่างใด ซึ่งถ้าหากไม่มีใครมาติดต่อขอรับศพก็จะต้องส่งให้มูลนิธินำไปเก็บรักษาไว้ในสุสานของมูลนิธิ เพื่อรอให้ญาติมาติดต่อขอรับในลำดับต่อไป ส่วนพม่าที่รอดชีวิตรวม 7 คนก็ต้องส่งตัวเข้ากักกันโรคเป็นเวลา 14 วันก่อนดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมถึงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย ถ้าหากรักษาหายแล้วก็ต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายด้วยเช่นกัน
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองระบุในประเด็นการตรวจหาเชื้อ covid-19 โดยการเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่ง หรือตรวจเชื้อด้วย ATK ระบุว่า นโยบายกระทรวงสาธารณสุขกรณีจับกุมแรงงานเมียนมาได้และต้องดำเนินคดีให้นำตัวผู้ต้องหาเข้ากักกันโรคเป็นเวลา 14 วันได้เลย และค่อยตรวจหาเชื้อ covid-19 ในวันที่ 13 ก่อนครบ 14 วันหากพบเชื้อก็ให้กักตัวต่อ แต่ถ้าไม่พบเชื้อก็ค่อยส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้เพื่อประหยัดงบประมาณแผ่นดินไม่ต้องตรวจถึง 2 ครั้งเหมือนเช่นอดีตที่ผ่านมา เมื่อจับกุมแรงงานเมียนมาได้ก็จะตรวจหาเชื้อ covid-19 ครั้งแรกก่อน 1 ครั้ง และหลังก่อนครบ 14 วันอีก 1 ครั้ง ซึ่งในเคสกรณีนี้ได้นำตัวแรงงานต่างด้าวที่รอดชีวิตจากการประสบอุบัติเหตุนำไปกักกันโรคที่บริเวณสนามกีฬาฟุตบอลของโรงงานบริษัททิปโก้อยู่บริเวณเส้นทางขึ้นด่านสิงขร และเมื่อครบ 14 วันและตรวจไม่พบเชื้อก็จะส่งดำเนินคดีตามกฎหมายที่ สภ.คลองวาฬต่อไป