วันที่ 16 มี.ค.65 นายราเชลร์ จันทร์อ่อน ทนายความอาสา สำนักงานกฎหมายราเชลร์ อ.เมือง จ.กระบี่ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับการร้องขอความช่วยเหลือให้ติดตามเรื่องการขอเงินเยียวยา จากนางมณฑาทิพย์ นิลตะ อ.65 ปี ภรรยานายสุเทพ บัวกิ่ง อ.60 อาชีพขายไอติม หลังจากที่นายสุเทพฯฉีดวัคซีนเข็มป้องกันไวรัสโควิดเข็มที่ 3 ที่ รพ.กระบี่ เพียง 2 วัน ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ตั้งแต่ 10 มกราคม 2565 และมีอาการไม่พึงประสงค์ 12 มกราคม 2565 แต่ไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ เป็นเวลา 2 เดือนเศษ
นายราเชลร์ กล่าวอีกว่า หลังจากที่ได้ติดตามความคืบหน้าเพื่อช่วยเหลือนายสุเทพฯ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 ทาง สปสช.อนุกรรมการที่ 11 สุราษฎร์ธานี ได้พิจารณาและวินิจฉัยให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่นายสุเทพ แล้ว เป็นเงินประมาณ 240,000 บาท สร้างความดีใจให้แก่ นายสุเทพฯและครอบครัวของนายสุเทพฯเป็นอย่างมาก
ด้านนางมณฑาทิพย์ กล่าวว่า ขอขอบคุณสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวกรณีของครอบครัวตนเป็นกระบอกเสียงแทนประชาชน ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้ความช่วยเหลือเยียวยาสามีของตน รวมถึงทนายความที่ประสานงานติดตามความคืบหน้า จนสามีของตนได้รับการช่วยเหลือเยียวยา ตนทราบซึ้งและดีใจมาก เนื่องจากครอบครัวของตนมีฐานะยากจน บุตรชาย 2 คน เสียชีวิตไป ต้องอุปการะเลี้ยงดูหลานชายอายุ 11 ปี และสามีซึ่งป่วยติดเตียงในตอนนี้ตามลำพัง
ได้ขายรถพ่วงข้างซึ่งเป็นยานพาหนะขายไอติมไปแล้วและกู้ยืมเงินจากผู้อื่นมาเพื่อรักษาสามี และต้องหยุดขายไอติมไม่มีรายได้เลย จึงทุกข์ใจมากเพราะหลานชายก็ยังเล็ก สามีต้องมาป่วยติดเตียงเช่นนี้ จึงขอขอบพระคุณผ่านสื่อมวลชนมา ณ โอกาสนี้
ด้านนายราเชลร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า หากรัฐบาลต้องการรณรงค์ให้ประชาชนรับการฉีดวัคซีนเมื่อมีอาการไม่พึงประสงค์ หลังจากรับการฉีดวัคซีนแล้วนั้น ต้องเร่งรัดเยียวยาทันที เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และควรให้บุคลากรพิจารณาไปในแนวทางเดียวกัน ไม่เช่นนั้นอาจเป็นการทำร้ายหรือซ้ำเติมคนจนเช่นกรณีนี้ อย่าให้เกิดกับกรณีอื่นอีกเลยในการเยียวยาที่ล่าช้าเช่นนี้
