รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เต็มคณะ ที่ตึกสันติไมตรี ใช้เวลาการประชุมค่อนข้างรวดเร็ว เสร็จสิ้นการประชุมตั้งแต่ยังไม่ถึง 13.00 น. ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ในช่วงพักเบรกเดินทักทายรัฐมนตรีและหัวหน้าส่วนราชการรอบห้องประชุมถึง 3 รอบ อย่างไรก็ตาม ในการประชุม ครม. ครั้งนี้ใช้เวลาหารือนานที่สุดคือ เรื่องพลังงานที่ได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซียกับยูเครน โดยได้เชิญผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาน้ำมัน โดยช่วงหนึ่งผู้อำนวยสำนักงานกองทุนน้ำมันฯ ระบุว่า ราคาน้ำมันขณะนี้ผันผวนหนักมากในรอบ 13-14 ปี มีเหตุมาจากสงครามดังกล่าว ส่วนการชดเชยน้ำมันดีเซลในปัจจุบันชดเชยอยู่ที่ลิตรละ 7 บาท แต่หากราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงไปถึง 135 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะต้องชดเชยลิตรละ 8 บาท ถ้าสถานการณ์น้ำมันยังเป็นอยู่อย่างนี้ ราคานี้จะตรึงได้ถึงสิ้นเดือน มี.ค. แต่ถ้าราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงจะตรึงต่อได้ถึงต้นเดือน เม.ย. อย่างไรก็ตาม เงินที่อุดหนุนดีเซลตรงนี้ส่วนหนึ่งมาจากเบนซิน นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังได้พูดคุยถึงกรอบเงินของรัฐบาลที่เคยกู้มาก่อนหน้านี้ รวมทั้งสิ้น 1.5 ล้านล้านบาท ว่า ขณะนี้เหลืออยู่เพียง 7 หมื่นล้าน โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับที่ประชุมว่า เงินกู้ส่วนใหญ่ใช้ไปกับเรื่องสุขภาพ การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ฝั่งตรงข้ามชอบพูดว่ารัฐบาลใช้เงินผิดประเภท ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ อยากให้ช่วยไปชี้แจงทำความเข้าใจด้วยว่าเราเอาไปใช้อะไรบ้าง และขอเน้นย้ำเรื่องการจัดซื้อให้มีความโปร่ง อย่างเช่น เรื่องการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ เพราะชีวิตประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ เราจะละเลยชีวิตประชาชนไม่ได้