จากกรณีเด็กวัยรุ่นถูกถีบบนรถเมล์ สาย ปอ.80 บริเวณหน้าซอยเพชรเกษม 81 เขตหนองแขม กทม. เวลา 21.57 น. ของวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดวันที่ 15 มี.ค.2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางมาพบกับน้องกัปตัน เยาวชนชายวัย 17 ปี ที่ถูกถีบบนรถเมล์พร้อมเล่าว่า วันเกิดเหตุตนนั่งรถเมล์จากที่ทำงานเพื่อจะกลับบ้าน โดยนั่งมากับผู้จัดการร้านก๋วยเตี๋ยวที่ทำงานอยู่ด้วย ซึ่งระหว่างที่อยู่บนรถสังเกตเห็นวัยรุ่นชายจ้องมาที่ตนจากด้านหลัง แต่ไม่คิดว่าจะถูกทำร้ายเนื่องจากไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ปรากฏว่าถูกถีบเข้าที่ท้ายทอยอย่างแรงแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้รู้สึกมึนๆชาๆ โดยมีคนพยายามจะวิ่งไปจับตัวผู้ก่อเหตุแต่ไม่สามารถจับได้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุวิ่งลงจากรถเมล์อย่างเร็ว ด้านนางชมพูนุช อินทร์สว่าง แม่น้องกัปตัน กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุได้พาน้องกัปตันไปแจ้งความ สน.หนองแขม แต่ดูเหมือนว่าตำรวจจะไม่ค่อยสนใจ และไม่รับปากว่าจะหาตัวคนร้ายให้ได้ จึงทำให้ตนเองโพสต์เฟซบุ๊ก เพื่อเตือนภัย และให้โซเชียลช่วยหาตัวคนก่อเหตุ จนกระทั่งเวลา 01.00 น. วันที่15 มี.ค.65 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากพลเมืองดี พบเบาะแสคนก่อเหตุ และจับตัวเอาไว้ได้ ตำรวจจึงเชิญตัวน้องกัปตัน มาชี้ตัวผู้ก่อเหตุที่ สน.หนองแขม ซึ่งน้องกัปตัน ก็ยืนยันว่าเป็นคนเดียวกันกับที่ถีบตัวเองบนรถเมล์ โดย แม่น้องกัปตัน กล่าวอีกว่า ลูกชายเพิ่งไปทำงานพาร์ทไทม์ได้ 4 วัน ซึ่งก่อนหน้านี้แม่ไปรับไปส่งที่ทำงานตลอด มีวันเกิดเหตุวันเดียวเท่านั้น ที่น้องกัปตันนั่งรถเมล์กลับบ้านเอง ขณะที่เมื่อคืนนี้ช่วงประมาณเที่ยงคืน มีฝ่ายผู้ก่อเหตุโทรศัพท์มาหาแม่พร้อมกับขอให้ไกล่เกลี่ย แต่แม่ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ขณะที่นางสาวิตรี สาละวัน อายุ 61 ปี ยายน้องกัปตันเผยว่า สภาพร่างกายของหลานมีรอยพกช้ำบริเวณท้ายทอย หลังเกิดเหตุหลานอยู่ในอาการตกใจมาก ตนเองเลี้ยงหลานมาไม่เคยมีใครทำร้ายหลานมาก่อน ขอยืนยันว่าหลานเป็นเด็กดี เรียนเก่ง เกรดเฉลี่ย 3.50 ไม่เคยมีเรื่องกับใครหรือมีปัญหากับใครมาก่อน ทั้งนี้เมื่อคืนนี้เวลา 02.00 น.ที่ผ่านมา ตนเอง พร้อมหลานและแม่หลาน ได้เผชิญหน้ากับผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุมาด้วย โดยฝ่ายผู้ก่อเหตุยื่นเงินเป็นข้อเสนอในการไกล่เกลี่ย แต่ทางตนยืนยันว่าไม่ยอมไกล่เกลี่ย และจะให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งระหว่างพูดคุยกันต่อหน้าตำรวจ ผู้ก่อเหตุ ยกมือไหว้ ขอโทษแล้ว และอ้างว่า ที่ลงมือก่อเหตุไปเพราะ เข้าใจผิดคิดว่าน้องกัปตันเป็นคู่อริ เพราะมีบุคลิกลักษณะคล้ายคลึงกัน ตั้งแต่ศีรษะจนถึงช่วงลำตัว ไม่เกี่ยวกับที่ว่าน้องกัปตันใส่เสื้อช็อปและแม้ว่า ตร.จะจับตัวคนก่อเหตุได้ แต่ครอบครัวก็ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เนื่องจากน้องกัปตัน ยังมีอาการหวาดระแวงไม่กล้าเดินทางไปทำงาน ความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้สหวิชาชีพ อยู่ระหว่างสอบถามน้องกัปตันอย่างละเอียด โดยตำรวจยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ก่อเหตุ เนื่องจากอยู่ระหว่างรอผลตรวจร่างกายของน้องกัปตัน เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี และได้ปล่อยตัวผู้ก่อเหตุกลับบ้านไป แล้วจะเรียกมาสอบสวนใหม่ภายในวันนี้