จากกรณี นายอิศเรศ น้อยใจบุญ นักฟุตบอลกองกลางของทีมบางกอก เอฟซี หลังจากก่อเหตุรุนแรงด้วยการฟันศอกใส่ นายศุภสัณฑ์ เรืองศุภนิมิต นักเตะของทีมมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ในการแข่งขันมังกรฟ้าลีก ไทยลีก 3 รอบเพลย์ออฟ เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา
วันที่ 15 มีนาคม 2565 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลแขวง กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า ในเกมมีกรรมการ นอกเกมมีตำรวจ มีกฎหมายตัดสิน ถ้าอยากตัดสินเองต้องพร้อมตกเป็นผู้ต้องหา ในข่าวนักฟุตบอลฟันศอกซ้ายเข้าเต็มๆ ที่หน้า ดังนั้นสิ่งที่เห็นตามภาพข่าว คือเจตนาทำร้ายร่างกาย คิดถึงผลที่ตามมา คือข้อหาทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส คือถ้ารักษาเกิน 20 วัน โทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสองแสนบาท ถ้าไม่สาหัสโทษ จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนค่าเสียหายทางแพ่งต้องรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด ทำงานไม่ได้รายวันทั้งหมด หรือความเสียหายอื่นๆ ที่เกิดจากการใช้ชีวิตปกติไม่ได้ ต้องรับผิดชอบด้วย คิดเป็นเงินคงหนักหนาสาหัสเช่นกัน ตามข่าวเห็นว่าเข้าเอกซเรย์ สแกนสมอง พบว่ากระดูกหน้าร้าว แผลแตกเย็บไป 24 เข็ม ยังไม่สามารถรับประทานอาหารได้ ทีมฟุตบอลต้นสังกัดของผู้บาดเจ็บประกาศเอาเรื่องเต็มที่ ต่อไปนี้คงเจอทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาตามมา เพราะขาดสติเปลี่ยนประเภทฟุตบอลเป็นมวยนอกเกม ต้นสังกัดประกาศขับนักฟุตบอลหัวร้อนออก ชาวบ้านก็เข้าใจได้ว่าไล่ออกแล้ว เสียประวัติ ภาพข่าวปรากฏไปทั่วประเทศ โดยค่าเสียหายที่อาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ทางแพ่งรักษาพยาบาลเช่นนี้น่าจะเกิน 100,000 ทางอาญาอัตราโทษทางอาญาก็ไม่เบา ต้องลุ้นขอให้ศาลรอลงอาญาถ้าไม่รอ มีโอกาสเข้าเรือนจำได้
ทั้งนี้ นายโกศลวัฒน์ ยังกล่าวต่อว่า มาตรา 297 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสองแสนบาท อันตรายสาหัส คือ 1.ตาบอด หูหนวก ลิ้นขาด หรือเสียฆานประสาท 2.เสียอวัยวะสืบพันธุ์ หรือความสามารถสืบพันธุ์ 3.เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้วหรืออวัยวะอื่นใด 4.หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว 5.แท้งลูก 6.จิตพิการอย่างติดตัว 7.ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บเรื้อรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิต 8.ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน หรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวัน
ขณะที่ มาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ