ไฟป่าในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ปะทุหนัก 135 จุด ส่งมลพิษลอยเต็มท้องฟ้า กระทบประชาชนอย่างหนัก โดยเฉพาะผู้โรคโควิดจำนวนกว่า 2,700 ราย ในแต่ละหมู่บ้าน วันที่ 14 มีนาคม 2565 นายพงศ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน พบว่า ยังมีการลอบเผาป่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางอำเภอได้สั่งการให้กำนันและผู้ใหญ่บ้าน จัดทีมคอยสอดส่องอย่างใกล้ชิด แต่ก็พบว่า กลุ่มบุคคลที่ลอบเผาป่า ได้เปลี่ยนวิธีการเผาป่า จากเมื่อก่อนเผาจากข้างทาง เข้าไปในป่า เป็นลอบเดินเท้าเข้าไปในป่าลึกแล้วเผาออกมา ทำให้กว่าจะรู้ไฟป่าได้ลุกลามจนยากที่จะดับได้ อีกทั้งจุดที่เกิดไฟป่า เป็นเทือกเขาสูงชัน ยากต่อการดับไฟและเสี่ยงต่อชีวิตเป็นอย่างมาก นโยบายด้านการจับกุมผู้เผาป่า ปัจจุบันยังคงมีการบังคับใช้อยู่ หากจับได้จะถูกลงโทษอย่างรุนแรง จึงขอเตือนให้ประชาชนต้องระวังอย่าทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ควันไฟจากไฟป่า ได้ส่งผลให้มีฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน เจือปนในอากาศ ซึ่งควันพิษดังกล่าว สามารถทำร้ายสุขภาพคนคนปกติได้ จากสถานการณ์เกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิด-19 ในแม่ฮ่องสอน พบว่ามีการระบาดของโรคอย่างรวดเร็ว และมีผู้ป่วยที่รักษาอาการที่บ้านของตนเองจำนวนมาก ซึ่งควันพิษจากไฟป่า ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยโควิดโดยตรงและทำให้ปอดอักเสบรวดเร็วและเสียชีวิตเร็วขึ้น จึงอยากจะให้ทุกชุมชนตระหนัก เรื่องการเผาป่าด้วยเนื่องจากกระทบต่อญาติพี่น้องของท่านเอง ล่าสุดวันนี้ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 รายงานค่ามลพิษ ฝุ่นละอองขนาด 2.5 ไมครอนสูงถึง 96 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และพบจุดฮอทสปอต ในแม่ฮ่องสอนสูงถึง 135 จุด รองลงมา เชียงใหม่ 15 จุด เชียงราย 1 จุด และ ลำพูน 2 จุด ด้านศูนย์อำนวยการ ฯ ควบคุมแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควันไฟป่าและฝุ่นละออง รายงานว่า จุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 13 มีนาคม 2565 จำนวน 1,837 จุด สูงสุดที่อำเภอเมือง จำนวน 554 จุด โดยเกิดขึ้นสูงสุดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 1,158 จุด จุดความร้อนสะสมช่วงประกาศห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิด ยกเว้นพื้นที่ตามแผนบริหารจัดการเชื้อเพลิง ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ - 13 มีนาคม 2565 จำนวน 1,170 จุด สูงสุดที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จำนวน 365 จุด โดยเกิดขึ้นสูงสุดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 716 จุด ศูนย์ควบคุมโรคจังหวัดแม่ฮ่องสอน รายงานประจำวันนี้ (14 มี.ค.65) พบยอดผู้ป่วยโควิดสูงถึง 275 ราย ทำการรักษาอยู่ 2,941 ราย รักษาใน รพ.46 ราย รักษาในศูนย์แต่ละอำเภอ CI จำนวน 144 ราย และรักษาตนเองที่บ้าน HI จำนวน 2,751 ราย คิดเป็นรักษาที่บ้านร้อยละ 93.5 และมีแนวโน้มการระบาดของโรค โควิด เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง