วันที่ 11 มีนาคม 65 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่บริเวณหอประชุมโรงเรียนอนุบาลประจวบคีรีขันธ์ ถนนสละชีพ เขตเทศบาลเมืองประจวบ โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ พร้อมบุคลากรทางการแพทย์เปิดจุดให้บริการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ยี่ห้อไฟเซอร์ ให้กับเด็กนักเรียนในเขตพื้นที่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ อายุระหว่าง 5 -11 ปี โดยมีเป้าหมายจำนวน 4,866 คน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มนักเรียนระดับอนุบาลและชั้นปฐมวัย
โดยมีคณะครูและผู้ปกครองทั้งในเขตเทศบาล และเขตองค์การบริหารส่วนตำบล นำพาบุตรหลานเข้ารับบริการฉีดวัคซีนด้วยความยินยอมโดยพร้อมเพรียง ซึ่งวันนี้มีเป้าหมายให้บริการจำนวน 950 โดส ประกอบด้วย โรงเรียนบ้านคลองชายธง 40 โดส โรงเรียนบ้านคอกช้าง 62 โดส โรงเรียนบ้านท่าฝาง 89 โดส โรงเรียนบ้านยุบพริก 27 โดส โรงเรียนบ้านหนองปูหลก 25 โดส โรงเรียนยุวสมาคมฯ 27 โดส โรงเรียนวัดบ่อนอก(ทองวิทยา) 49 โดส โรงเรียนวัดปากคลองเกลียว 25 โดส โรงเรียนอนุบาลประจวบคีรีขันธ์ 342 โดส โรงเรียนธรรมิการาม(ปิยแหวนรังสรรค์) 133 โดส โรงเรียนพระแม่มารี 134 โดส
ในขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวม 8 อำเภอ สถานการณ์ภาพรวมขณะนี้มีผู้ติดเชื้อไม่ต่ำกว่าวันละ 200 ราย ล่าสุดวันที่ 10 มี.ค.65 ข้อมูล ณ วันที่ 11 มี.ค.65 จำนวน 229 ราย แบ่งเป็น อำเภอหัวหิน 70 ราย อำเภอปราณบุรี 38 ราย อำเภอสามร้อยยอด 44 ราย อำเภอกุยบุรี 0 ราย อำเภอเมือง 27 ราย อำเภอทับสะแก 9 ราย อำเภอบางสะพาน 12 รายอำเภอบางสะพานน้อย 27 ราย เรือนจำและผู้หลบหนีเข้าเมือง 0 ราย และต่างประเทศ 2 ราย
ซึ่งนางสาวสารี ขาวนาขา อายุ 38 ปีหนึ่งในผู้ปกครองที่พาบุตรหลานมาเข้ารับบริการฉีดวัคซีน กล่าวว่า โดยส่วนตัวตนเองมีความรู้สึกกลัวและกังวลเรื่องอาการผลข้างเคียง แต่คิดว่าให้ลูกฉีดดีกว่า เพราะพ่อกับแม่ก็ยังฉีดเหมือนกัน ดังนั้นจึงต้องป้องกันให้ลูกด้วย เพราะยังมีความเชื่อมั่นและมั่นใจว่าวัคซีนจะช่วยลดอาการรุนแรงของโรคได้ ดีกว่าถ้าหากไม่ฉีดแล้วพลาดติดโควิดขึ้นมา เกรงว่าอาการจะรุนแรงกว่าที่คิดไว้ อยากฝากถึงผู้ปกครองท่านอื่นอย่ากลัวต้องป้องกันให้ลูกของเราดีกว่า
ด้านเด็กหญิง นภสร ทองจันทร์ อายุ 7 ขวบ นักเรียนหญิงชั้น ป.1 โรงเรียนอนุบาลประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงความรู้สึกว่า ตอนฉีดวัคซีนไม่รู้สึกเจ็บ และไม่กลัว เพราะอยากฉีดวัคซีนและคิดว่าวัคซีนจะช่วยป้องกันโรคโควิดได้ เมื่อรู้ว่าวันนี้จะต้องมาฉีดวัคซีนจึงได้มีการเตรียมความพร้อมอาบน้ำใส่เสื้อผ้ารอตั้งแต่เช้า และอยากเชิญชวนให้เพื่อนมาฉีดด้วยกัน
โดยมีคณะครูและผู้ปกครองทั้งในเขตเทศบาล และเขตองค์การบริหารส่วนตำบล นำพาบุตรหลานเข้ารับบริการฉีดวัคซีนด้วยความยินยอมโดยพร้อมเพรียง ซึ่งวันนี้มีเป้าหมายให้บริการจำนวน 950 โดส ประกอบด้วย โรงเรียนบ้านคลองชายธง 40 โดส โรงเรียนบ้านคอกช้าง 62 โดส โรงเรียนบ้านท่าฝาง 89 โดส โรงเรียนบ้านยุบพริก 27 โดส โรงเรียนบ้านหนองปูหลก 25 โดส โรงเรียนยุวสมาคมฯ 27 โดส โรงเรียนวัดบ่อนอก(ทองวิทยา) 49 โดส โรงเรียนวัดปากคลองเกลียว 25 โดส โรงเรียนอนุบาลประจวบคีรีขันธ์ 342 โดส โรงเรียนธรรมิการาม(ปิยแหวนรังสรรค์) 133 โดส โรงเรียนพระแม่มารี 134 โดส
ในขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวม 8 อำเภอ สถานการณ์ภาพรวมขณะนี้มีผู้ติดเชื้อไม่ต่ำกว่าวันละ 200 ราย ล่าสุดวันที่ 10 มี.ค.65 ข้อมูล ณ วันที่ 11 มี.ค.65 จำนวน 229 ราย แบ่งเป็น อำเภอหัวหิน 70 ราย อำเภอปราณบุรี 38 ราย อำเภอสามร้อยยอด 44 ราย อำเภอกุยบุรี 0 ราย อำเภอเมือง 27 ราย อำเภอทับสะแก 9 ราย อำเภอบางสะพาน 12 รายอำเภอบางสะพานน้อย 27 ราย เรือนจำและผู้หลบหนีเข้าเมือง 0 ราย และต่างประเทศ 2 ราย
ซึ่งนางสาวสารี ขาวนาขา อายุ 38 ปีหนึ่งในผู้ปกครองที่พาบุตรหลานมาเข้ารับบริการฉีดวัคซีน กล่าวว่า โดยส่วนตัวตนเองมีความรู้สึกกลัวและกังวลเรื่องอาการผลข้างเคียง แต่คิดว่าให้ลูกฉีดดีกว่า เพราะพ่อกับแม่ก็ยังฉีดเหมือนกัน ดังนั้นจึงต้องป้องกันให้ลูกด้วย เพราะยังมีความเชื่อมั่นและมั่นใจว่าวัคซีนจะช่วยลดอาการรุนแรงของโรคได้ ดีกว่าถ้าหากไม่ฉีดแล้วพลาดติดโควิดขึ้นมา เกรงว่าอาการจะรุนแรงกว่าที่คิดไว้ อยากฝากถึงผู้ปกครองท่านอื่นอย่ากลัวต้องป้องกันให้ลูกของเราดีกว่า
ด้านเด็กหญิง นภสร ทองจันทร์ อายุ 7 ขวบ นักเรียนหญิงชั้น ป.1 โรงเรียนอนุบาลประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงความรู้สึกว่า ตอนฉีดวัคซีนไม่รู้สึกเจ็บ และไม่กลัว เพราะอยากฉีดวัคซีนและคิดว่าวัคซีนจะช่วยป้องกันโรคโควิดได้ เมื่อรู้ว่าวันนี้จะต้องมาฉีดวัคซีนจึงได้มีการเตรียมความพร้อมอาบน้ำใส่เสื้อผ้ารอตั้งแต่เช้า และอยากเชิญชวนให้เพื่อนมาฉีดด้วยกัน