ขณะที่ยอดป่วยอาการหนักปอดอักเสบเพิ่มขึ้นอีกเป็น 1,255 ราย ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 415 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้พบ 24,792 ราย มาจากต่างประเทศ 80 ราย แต่เมื่อรวมกับผู้ป่วยจากการตรวจ ส่วนผู้ป่วยเข้าข่ายจากการตรวจ ATK วันนี้ลดลง 21,626 ราย ส่งผลให้ไทยมีผู้ติดเชื้อบวกเพิ่มเป็น 46,415 ราย ส่วนยอดเสียชีวิตจำนวน 63 ราย ป่วยติดเตียงถึง 9 ราย ทั้งนี้กลุ่มเสี่ยงเสียชีวิตส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มโรคเรื้อรัง และส่วนใหญ่ติดเชื้อจากคนใกล้ชิด สำหรับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุด คือ กทม. จำนวน 3,171 รายซึ่งลดลงจากเมื่อวาน(3,192) และพบการเสียชีวิตกระจายในทุกภาคทั่วไทย เสียชีวิตสูงสุดรายจังหวัดอยู่ที่ กทม.7 ราย ส่วนยอดติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง มีจำนวน 158 ราย รักษาหาย 22,065 ราย ยังรักษาอยู่ 222,998 ราย
วันที่ 11 มี.ค.2565 ศูนย์ข้อมูลCOVID-19 รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 24,792 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 24,712 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 80 ราย วันนี้มีรายงานลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย 3 ราย จากกัมพูชา 2 ราย และเมียนมา 1 ราย ติดเชื้อในประเทศ (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพสูงถึง 24,308 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 246 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 158 ราย) รวมยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 3,136,649 ราย อย่างไรก็ตามหากรวมยอดผู้ป่วยจากการตรวจ ATK จำนวน 21,626 ราย ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จะมี 46,415 ราย
วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 63 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 23,575 ราย หายป่วยอีก 22,065 ราย รวมยอดรักษาหาย 2,890,076 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 222,998 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.63,553 ราย ในรพ.สนาม/HI-CI 159,445 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,255 ราย (จากเมื่อวาน1,238 ราย) ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 415 ราย (จากเมื่อวาน 420 ราย)
สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต จำนวน 63 ราย พบเป็นคนไทย 61 ราย อเมริกัน 1 ราย ไม่ระบุ 1 ราย เป็นเพศชาย 37 ราย เพศหญิง 26 ราย อายุ 28-93 ปี พบทุกภาคทั่วไทยโดยเสียชีวิตมากสุดใน กทม.7 ราย โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความรุนแรงของโรคและเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น โดยในจำนวนผู้เสียชีวิต 63 ราย พบ 49 รายอายุ 60 ปีขึ้นไป และอายุน้อยกว่า 60 ปีแต่มีโรคเรื้อรัง 11 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 3 ราย ส่วนผู้ป่วยติดเตียงยังมีการรายงานเสียชีวิตต่อเนื่องวันนี้พบสูงถึง 9 ราย
วันที่ 11 มี.ค.2565 ศูนย์ข้อมูลCOVID-19 รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 24,792 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 24,712 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 80 ราย วันนี้มีรายงานลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย 3 ราย จากกัมพูชา 2 ราย และเมียนมา 1 ราย ติดเชื้อในประเทศ (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพสูงถึง 24,308 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 246 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 158 ราย) รวมยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 3,136,649 ราย อย่างไรก็ตามหากรวมยอดผู้ป่วยจากการตรวจ ATK จำนวน 21,626 ราย ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จะมี 46,415 ราย
วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 63 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 23,575 ราย หายป่วยอีก 22,065 ราย รวมยอดรักษาหาย 2,890,076 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 222,998 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.63,553 ราย ในรพ.สนาม/HI-CI 159,445 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,255 ราย (จากเมื่อวาน1,238 ราย) ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 415 ราย (จากเมื่อวาน 420 ราย)
สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต จำนวน 63 ราย พบเป็นคนไทย 61 ราย อเมริกัน 1 ราย ไม่ระบุ 1 ราย เป็นเพศชาย 37 ราย เพศหญิง 26 ราย อายุ 28-93 ปี พบทุกภาคทั่วไทยโดยเสียชีวิตมากสุดใน กทม.7 ราย โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความรุนแรงของโรคและเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น โดยในจำนวนผู้เสียชีวิต 63 ราย พบ 49 รายอายุ 60 ปีขึ้นไป และอายุน้อยกว่า 60 ปีแต่มีโรคเรื้อรัง 11 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 3 ราย ส่วนผู้ป่วยติดเตียงยังมีการรายงานเสียชีวิตต่อเนื่องวันนี้พบสูงถึง 9 ราย