เหมือนจะกลายเป็น ประเพณีใหม่ และ กลายเป็นที่ยอมรับกันไปแล้วว่า ในส่วนของกองทัพบก และเหล่าทหารบก ว่าคนที่จะเป็นแม่ทัพภาค1 และเป็นผู้บัญชาการทหารบก จะต้องเป็น “ทหารคอแดง” เท่านั้น ทหารคอแดง คือนายทหารในกองทัพบกที่ไปเข้ารับการฝึกหลักสูตรทหารรักษาพระองค์ ของกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ทม.รอ.)เป็นเวลา 3 เดือนเพื่อฝึกในเรื่องของระเบียบวินัยและการทหารในแบบของ ทม.รอ. เมื่อเป็นทหารคอแดง ก็จะได้สวมเสื้อยืดรองใน ที่เป็นสีขาว ขลิบคอสีแดง เมื่อสวมเครื่องแบบทหาร คอสีแดงนี้จะโผล่ขึ้นมาให้เห็น จนเป็นที่มาของการเรียกว่าทหารคอแดง แตกต่างจากทหารทั่วไปที่ใส่เสื้อด้านในเป็น สีเขียวพื้น โดยทหารคอแดง เริ่มต้นในยุคที่ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็นผู้บัญชาการทหารบกคอแดงคนแรก และได้ผ่านการฝึกหลักสูตรคอแดง 3 เดือนมาแล้วในรุ่นแรก และมีการจัดตั้งกรมเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 (ฉก.ทม.รอ.904) ขึ้นใหม่ คู่ขนาน การทำงานของนายทหารระดับคีย์แมนในกองทัพบกควบคู่ไปกับ การถวายงานโดยมี พล.อ.อภิรัชต์ เป็นผบ.ฉก.ทม.รอ.904 คนแรก และทำให้ พล.อ.อภิรัชต์ กลายเป็นต้นแบบของนายทหารที่จะขึ้นเป็น ผบ.ทบ. คือจะต้องได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้เป็นนายทหารพิเศษประจำ ทม.รอ. และเป็น ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ด้วย ตามมาด้วย “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ เมื่อครั้งที่เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ก็ได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้เป็นนายทหารพิเศษประจำทม.รอ. ก่อนที่จะขึ้นเป็น ผบ.ทบ. คอแดง และควบตำแหน่ง ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 คนที่ 2 แน่นอนว่า สำหรับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก คนที่3 ก็จะต้องเป็นทหารคอแดง ที่เวลานี้มี “บิ๊กต่อ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นเต็งหนึ่งแต่เนื่องจากยังมีเวลาอีก 1 ปีเพราะต้องรอ พล.อ.ณรงค์พันธ์ เกษียณราชการในตุลาคม 2566 ดังนั้นในการโยกย้ายคราวนี้ปลายปี คือตุลาคม ก็จะมีแคนดิเดตผู้บัญชาการทหารบก เพิ่มเติมมาอีกคน คือ “บิ๊กโต” พล.ท.สุขสรรค์ หนองบัวล้าง แม่ทัพภาคที่ 1 ที่เป็นทหารคอแดงที่คาดว่าจะขยับขึ้นมาเป็นห้าเสือกองทัพบกและจะเป็นคู่ชิงตำแหน่งผบ.ทบ. กับพล.อ.เจริญชัย ซึ่งก็เป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 23 ที่เติบโตมาจากสายบูรพาพยัคฆ์เช่นกัน แต่ พล.อ.เจริญชัย นั้นเป็นนายทหารในสายทหารเสือราชินีที่สนิท สนมใกล้ชิดกับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว. กลาโหมส่วน พล.ท.สุขสรรค์ นั้นเติบโตมาจากสายบูรพาพยัคฆ์ จะสนิทสนมใกล้ชิดกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พี่ใหญ่ของบูรพาพยัคฆ์และถือว่าเป็นน้องรักอีกคนหนึ่งของพล.อ.ประยุทธ์ด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุที่เมื่อมีทหารคอแดงและตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกแม่ทัพภาคที่ 1 ต้องเป็นทหารคอแดงเท่านั้นจึงทำให้ทหารที่ไม่ใช่คอแดงไม่ได้รับการฝึกหลักสูตรทหารคอแดงไม่ได้รับเลือกจึงต้องทำใจที่จะเปลี่ยนเส้นทางชีวิตรับราชการไปเติบโตในหน่วยอื่นตำแหน่งอื่นแทน จนทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างทหารคอแดงกับทหารคอเขียวซึ่งเป็นทหารปกติทั่วไปที่มีจำนวนมากกว่า แต่ทว่าโอกาสในการขึ้นสู่ตำแหน่ง ไม่มีเลย จึงเริ่มมีการจึงเริ่มมีกระแสว่าทหารคอแดงจะสิ้นสุดลงและจบลงแค่การฝึกทหารคอแดงแค่ 2 รุ่นเท่านั้นโดยรุ่นที่สองที่มีการฝึกปัจจุบันก็อยู่ในตำแหน่งผู้บัญชาการกองพล ซึ่งก็จะมี พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ “บิ๊กตั้ง” พล.ต.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 ที่มีอายุราชการถึง 2572 และ “บิ๊กไก่” พล.ต.วรยศ เหลืองสุวรรณ ผู้บัญชาการกองพลที่1 รักษาพระองค์ ที่เกษียณ 2573 การที่ทหารคอแดงเท่านั้น ที่จะขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารบก ก็ยังเป็นการปิดทางทหารสายรบพิเศษ ที่เติบโตในหน่วย บัญขาการสงครามพิเศษ (ผบ.นสศ.)จะมีโอกาสได้เป็นผู้บัญชาการทหารบกเป็นระยะๆ แต่ในปัจจุบันในระยะ 5-10 ปีนี้จะเป็นในส่วนของทหารราบที่เติบโตมาจากในกองทัพภาคที่ 1 เสียมากกว่า แต่ในอนาคตเนื่องจากปัจจุบันเริ่มมีทหารคอแดงทหารรบพิเศษคอแดงแล้วจากในส่วนของกรมรบพิเศษที่ 3 รักษาพระองค์ ที่ไปขึ้นตรงกับ ฉก.ทม.รอ.904 และฝึกหลักสูตรทหารคอแดง ซึ่งนายทหารเหล่านี้เมื่อเติบโตไป ก็จะถือว่าเป็นทหารคอแดงและมีโอกาสที่จะขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารบกในอนาคตดังนั้นไม่ใช่แค่แม่ทัพภาคที่ 1 เท่านั้นที่จะเป็น ผบ.ทบ. คอแดงได้แต่ในอนาคตก็จะมีทหารรบพิเศษคอแดงด้วย แต่ทหารคอแดงก็ถือเป็นการปิดทางในฐานที่เติบโตจับในส่วนอื่นทั้งกองทัพภาคที่ 2 กองทัพภาคที่ 3 และกองทัพภาคที่ 4 ซึ่งปกติก็มีโอกาสที่จะขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารบกยากอยู่แล้ว ดังนั้นการฝึกทหารคอแดงรุ่นที่ 3 จึงถูกชะลอออกไปเพื่อเป็นการไม่เพิ่มจำนวนในพลทหารคอแดงให้มากขึ้นและยาวนานหลังจากที่ชะลอการฝึกมาเป็นเวลา 2 ปีในช่วงของสถานการณ์โควิดฯ ดังนั้นนายทหารชั้นนายพลคอแดง ที่ผ่านการฝึกรุ่น 1 และรุ่น 2 จึงมีอยู่ประมาณ 15 นายเท่านั้น โดยที่คนที่เกษียณท้ายที่สุดคือ พล.ต.วรยศ เหลืองสุวรรณ 2573 ที่ทำให้เกิดความหวังและทำให้เกิดกระแสข่าวว่าทหารคอแดงจะสูญพันธุ์ไปในอีกไม่ถึง 10 ปีข้างหน้า แต่ทว่า ก็ไม่ใช่ความจริงเพราะว่าในระดับที่ไม่ใช่นายพลทั้ง นายร้อย นายพันที่เป็นทหารคอแดงอีกเป็นจำนวนมากที่กำลังเติบโตไล่ขึ้นมา แต่การแก้ปัญหาความแตกแยกในกองทัพของทหารคอแดงและทหารคอเขียวกำลังถูกจับตามองและเป็นประเด็นที่ผู้นำเหล่าทัพได้หารือกัน โดยเฉพาะในส่วนของ “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งก็เป็นทหารคอแดงคนแรก ที่ได้เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ ผบ.ทบ.คนที่ 2 ที่เป็นทหารคอแดงและปัจจุบันเป็นผบ.ฉก.ทม.รอ. 904 และแน่นอนว่า “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นรองราชเลขาธิการฯ แต่ก็ยังถือว่ามีบทบาทและบารมีต่อกองทัพบกเพราะทั้ง พล.อ.เฉลิมพล และ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ถือว่าเป็นน้องรักของพล.อ.อภิรัชต์ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดเวลานี้กำลังเป็นประเด็นว่า คนต่อไปจะต้องเป็นคอแดงหรือไม่เพราะจะทำให้เกิดความขัดแย้งในกองบัญชาการกองทัพไทยมากขึ้น เนื่องจากมีแคนดิเดตที่เป็นทหารคอเขียวอยู่หลายคน แต่ก็เชื่อกันว่าเมื่อ พล.อ.เฉลิมพล เป็นผบ.ทหารสูงสุด คอแดงคนแรกแล้วก็ ย่อมมี ผบ.ทหารสูงสุด คอแดงคนที่ 2 เพราะในห้วงที่ผ่านมา พล.อ.เฉลิมพล ก็ดัน “บิ๊กบุ๋ม” พล.อ.สุวิทย์ เกตุศรี ทหารม้ารุ่นน้องที่เติบโตมาด้วยกันในกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ให้ข้ามมาเติบโตที่กองทัพไทยและถูกจับตามองว่าจะขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดคอแดงคนที่สอง ขณะที่ก็มีการจับตามองกันว่าทางกองทัพบก โดยพล.อ.ณรงค์พันธ์ นั้นจะส่ง “บิ๊กอ๊อฟ” พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ที่ปัจจุบัน เป็นหัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา ข้ามมาเติบโตที่กองทัพไทยหรือไม่ เนื่องจากพล.อ.ทรงวิทย์ ไม่ได้เรียนจบโรงเรียนนายร้อยจแร. แต่จบจากในร้อย VMI สหรัฐอเมริกาจึงมีม่านประเพณีกางกั้น ไม่ให้ขึ้นเป็นผบ.ทบ.ก็อาจจะต้องเบี่ยงข้างมาโตที่กองทัพไทยเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดคอแดงคนที่ 2 ก็เป็นได้ซึ่งในจุด นี้สองทหารคอแดงคือพล.อ.สุวิทย์ และพล.อ.ทรงวิทย์ ก็จะชิงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด คอแดง ขณะที่ทหารคอเขียวที่เป็นแคนดิเดตผู้บัญชาการทหารสูงสุดอย่าง “บิ๊กจ่อย” พล.อ. ธิติชัย เทียนทอง รองเสนาธิการทหารนั้นก็ถูกมองว่าเป็นความหวังของทหารคอ เขียวที่จะขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดและทวงเก้าอี้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดกลับคืนมาจากทหารคอแดง ในเวลานี้กองทัพจึงเกิดแรงเชียร์ระหว่างทหารคอแดงกับทหารคอเขียวเกิดขึ้น ดังนั้นจึงต้องมีการแก้ปัญหานี้ก่อนที่จะเป็นระเบิดเวลากับกองทัพในอนาคต