ขณะที่ยอดป่วยอาการหนักปอดอักเสบเพิ่มขึ้นอีกเป็น 1,238 ราย ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้นเป็น 420 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้พบ 22,984 ราย มาจากต่างประเทศ 47 ราย แต่เมื่อรวมกับผู้ป่วยจากการตรวจ ส่วนผู้ป่วยเข้าข่ายจากการตรวจ ATK วันนี้ทุบสถิติอีกครั้ง 49,494 ราย ทำให้ไทยมีผู้ติดเชื้อรวมพุ่งกระฉูดและยังทำลายสถิติด้วย 72,478 ราย ส่วนยอดเสียชีวิตจำนวน 74 ราย ป่วยติดเตียงถึง 10 ราย ทั้งนี้กลุ่มเสี่ยงเสียชีวิตส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มโรคเรื้อรัง และส่วนใหญ่ติดเชื้อจากคนใกล้ชิด และพบว่าจำนวน 40 ราย ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อีกด้วย โดยจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุด คือ กทม. จำนวน 3,192 รายซึ่งเพิ่มจากเมื่อวาน(3,152) และพบการเสียชีวิตกระจายในทุกภาคทั่วไทย เสียชีวิตสูงสุดรายจังหวัดอยู่ที่ กทม.12 ราย ส่วนยอดติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง มีจำนวน 52 ราย รักษาหาย 24,161 ราย ยังรักษาอยู่ 220,334 ราย
วันที่ 10 มี.ค.2565 ศูนย์ข้อมูลCOVID-19 รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 22,984 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 22,937 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 47 ราย ติดเชื้อในประเทศ (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพสูงถึง 22,722 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 163 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 52 ราย) รวมยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 3,111,857 ราย อย่างไรก็ตามหากรวมยอดผู้ป่วยจากการตรวจ ATK จำนวน 49,494 ราย ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จะมี 72,478 ราย
วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 74 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 23,512 ราย หายป่วยอีก 24,161 ราย รวมยอดรักษาหาย 2,868,011 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 220,334 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.58,254 ราย ในรพ.สนาม/HI-CI 162,080 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,238 ราย (จากเมื่อวาน1,200 ราย) ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 420 ราย (จากเมื่อวาน 404 ราย)
สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต จำนวน 74 ราย พบเป็นคนไทย 72 ราย เมียนมา 1 ราย สวีเดน 1 ราย เป็นเพศชาย 40 ราย เพศหญิง 34 ราย อายุ 26-97 ปี พบทุกภาคทั่วไทยโดยเสียชีวิตมากสุดใน กทม.12 ราย โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความรุนแรงของโรคและเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น โดยในจำนวนผู้เสียชีวิต 74 ราย พบ 54 รายอายุ 60 ปีขึ้นไป และอายุน้อยกว่า 60 ปีแต่มีโรคเรื้อรัง 16 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 4 ราย ส่วนผู้ป่วยติดเตียงยังมีการรายงานเสียชีวิตต่อเนื่องวันนี้พบสูงถึง 6 ราย
ทั้งนี้ยังพบว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมด จำนวน 40 รายไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด, ฉีดเพียงเข็มเดียว 7 ราย, ฉีด 2 เข็มเกิน 3 เดือน 16 ราย, ฉีดเข็ม 2 ไม่เกิน 3 เดือน 7 ราย, ฉีด 3 เข็ม 2 ราย อย่างไรก็ตามผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ติดเชื้อจากบุคคลใกล้ชิด หรือคนรู้จัก และอาศัยในพื้นที่เสี่ยง