ขณะที่ยอดป่วยอาการหนักปอดอักเสบเพิ่มขึ้นอีกเป็น 1,200 ราย ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้นเป็น 404 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบที่รักษาในรพ.สูงสุดที่กทม.174 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้พบ 22,073 ราย มาจากต่างประเทศ 92 ราย แต่เมื่อรวมกับผู้ป่วยจากการตรวจ ส่วนผู้ป่วยเข้าข่ายจากการตรวจ ATK วันนี้ดีดตัวกลับเพิ่มขึ้น 31,890 ราย ทำให้ไทยมีผู้ติดเชื้อรวมพุ่งกระฉูด 53,963 ราย เสียชีวิตสูงสุดคงที่จำนวน 69 ราย ป่วยติดเตียงถึง 6 ราย เสียชีวิตที่บ้าน 1 ราย ทั้งนี้กลุ่มเสี่ยงเสียชีวิตส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มโรคเรื้อรัง และส่วนใหญ่ติดเชื้อจากคนใกล้ชิด สำหรับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุด คือ กทม. จำนวน 3,152 รายซึ่งเพิ่มจากเมื่อวาน(2,939) และพบการเสียชีวิตกระจายในทุกภาคทั่วไทย เสียชีวิัตสูงสุดรายจังหวัดอยู่ที่ กทม.15 ราย ส่วนยอดติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง มีจำนวน 151 ราย รักษาหาย 24,747 ราย ยังรักษาอยู่ 221,585 ราย
วันที่ 9 มี.ค.2565 ศูนย์ข้อมูลCOVID-19 รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 22,073 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 21,981 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 92 ราย วันนี้มีรายงานลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย 12 ราย จากเมียนมา ติดเชื้อในประเทศ (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพสูงถึง 21,653 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 177 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 151 ราย) รวมยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 3,088,873 ราย อย่างไรก็ตามหากรวมยอดผู้ป่วยจากการตรวจ ATK จำนวน 31,890 ราย ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จะมี 53,963 ราย
วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 69 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 23,438 ราย หายป่วยอีก 24,747 ราย รวมยอดรักษาหาย 2,843,850 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 221,585 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.60,837 ราย ในรพ.สนาม/HI-CI 160,748 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,200 ราย (จากเมื่อวาน1,189 ราย) ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 404 ราย (จากเมื่อวาน 400 ราย)
สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต จำนวน 69 ราย พบเป็นคนไทย 68 ราย เมียนมา 1 ราย เป็นเพศชาย 42 ราย เพศหญิง 27 ราย อายุ 17-95 ปี พบทุกภาคทั่วไทยโดยเสียชีวิตมากสุดใน กทม.15 ราย โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความรุนแรงของโรคและเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น โดยในจำนวนผู้เสียชีวิต 69 ราย พบ 54 รายอายุ 60 ปีขึ้นไป และอายุน้อยกว่า 60 ปีแต่มีโรคเรื้อรัง 13 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 ราย ส่วนผู้ป่วยติดเตียงยังมีการรายงานเสียชีวิตต่อเนื่องวันนี้พบสูงถึง 6 ราย และเสียชีวิตที่บ้าน 1 ราย
วันที่ 9 มี.ค.2565 ศูนย์ข้อมูลCOVID-19 รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 22,073 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 21,981 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 92 ราย วันนี้มีรายงานลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย 12 ราย จากเมียนมา ติดเชื้อในประเทศ (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพสูงถึง 21,653 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 177 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 151 ราย) รวมยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 3,088,873 ราย อย่างไรก็ตามหากรวมยอดผู้ป่วยจากการตรวจ ATK จำนวน 31,890 ราย ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จะมี 53,963 ราย
วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 69 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 23,438 ราย หายป่วยอีก 24,747 ราย รวมยอดรักษาหาย 2,843,850 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 221,585 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.60,837 ราย ในรพ.สนาม/HI-CI 160,748 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,200 ราย (จากเมื่อวาน1,189 ราย) ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 404 ราย (จากเมื่อวาน 400 ราย)
สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต จำนวน 69 ราย พบเป็นคนไทย 68 ราย เมียนมา 1 ราย เป็นเพศชาย 42 ราย เพศหญิง 27 ราย อายุ 17-95 ปี พบทุกภาคทั่วไทยโดยเสียชีวิตมากสุดใน กทม.15 ราย โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความรุนแรงของโรคและเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น โดยในจำนวนผู้เสียชีวิต 69 ราย พบ 54 รายอายุ 60 ปีขึ้นไป และอายุน้อยกว่า 60 ปีแต่มีโรคเรื้อรัง 13 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 ราย ส่วนผู้ป่วยติดเตียงยังมีการรายงานเสียชีวิตต่อเนื่องวันนี้พบสูงถึง 6 ราย และเสียชีวิตที่บ้าน 1 ราย