‘ตรีนุช’ กำชับเขตพื้นที่ฯ เข้ม คำนวณเงินเหลือร้อยละ 30 ก่อนปล่อยกู้ เล็งถกคณะกรรมการจังหวัด 9 มี.ค.นี้
น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมสัมมนาแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยใช้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูต้นแบบเป็นฐาน ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กําหนดให้ปี 2565 เป็น “ปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน” โดยข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา เป็น กลุ่มเป้าหมายใหญ่ที่ ศธ. มุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาหนี้สินให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม จากข้อมูลพบว่า ปัจจุบันมีครูและบุคลากรทางการศึกษาประมาณ 9 แสนคน มียอดหนี้รวมกัน 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งในจํานวนนี้เป็นหนี้ที่กู้ยืมจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครู 108 แห่งทั่วประเทศ รวม 8.9 แสนล้านบาท และหลังจาก ศธ. ได้เริ่มดําเนินโครงการในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุดขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้ว 26,767 คน
น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า จากสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ทั้งหมด 108 แห่งนั้น มีเพียง 13 แห่ง ที่กําหนด ดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราไม่เกิน 5% ต่อปี ขณะที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูอย่างน้อย 13 แห่งกําหนดดอกเบี้ยเงินกู้สูงถึง 7-9% ต่อปี สําหรับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีสมาชิก 8,478 ราย มูลหนี้รวม 9,631,331,007 บาท ได้กําหนดลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้อยู่ที่ประมาณ 5.5 % ซึ่งเป็นแนวทางสําคัญประการหนึ่งที่ทางสหกรณ์ฯ ได้ดําเนินการร่วมกันให้เป็นไปตามแนวทางที่กําหนด นอกเหนือไปจากที่ได้ให้ความช่วยเหลือด้วยการ พักชําระหนี้ในปีที่ผ่านมา โดยทราบว่า ภายในปี 2565 ทางสหกรณ์ออมทรัพย์สุราษฎร์ธานี จะดําเนินการลดดอกเบี้ยตามแผนขั้นบันไดให้เหลือดอกเบี้ยไม่เกิน 5%
“ที่ผ่านมาได้คัดเลือกสหกรณ์ที่มีความพร้อม เป็นสหกรณ์ต้นแบบ และจัดทําแผนและขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นรูปธรรม กําหนดให้มี ”สถานีแก้หนี้” ในระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับจังหวัด โดยผู้อํานวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) จะต้องเข้มงวดในการพิจารณา อนุมัติการก่อหนี้ใหม่ของครู โดยเมื่อรวมยอดหนี้แล้วต้องมีเงินเหลือให้ คุณครูได้ใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 30% ของรายได้ ทั้งนี้ ในวันที่ 9 มีนาคมนี้ จะมีการประชุมทางไกลของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูระดับจังหวัด ผ่าน ZOOM MEETING และ FACEBOOK ศธ. 360 องศาเพื่อสร้างความเข้าใจและร่วมกันแก้ไขปัญหาหนี้สินได้เป็นรูปธรรมอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป” น.ส.ตรีนุช กล่าว
![](https://siamrath.co.th/files/styles/insert/public/img/20220308/7209194597b89115b91524a7544d2cd6ff5e454fe68d40df8da598846491f6c8.jpg?itok=axxf3HPm)
![](https://siamrath.co.th/files/styles/insert/public/img/20220308/36a1e4a5df4551ff8e88955d16dca0a792e3821f0ad3a10e2c969a257c8e7c3c.jpg?itok=NekKAVZe)
![](https://siamrath.co.th/files/styles/insert/public/img/20220308/450f7c011fd6633cf90e3a0e74af1e86b1df03b590d36cd875c4692a918bf051.jpg?itok=xk8v8oG7)