ไฟไหม้โรงแรมหรูเกาะกูด เป็นห้องสูทแพงที่สุด ค่าที่พักแพงถึง 8 แสน/คืน ไฮโซโพสต์ข้อความเรียกค่าเสียหายจากเจ้าของหลังพบโรงแรมบกพร่อง อบต.เกาะกูดตรวจความปลอดภัยหากไม่ปลอดภัยสั่งปิด
จากกรณีที่เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน ได้ทำการโพสต์ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่รีสอร์ทหรูในอำเภอเกาะกูด จ.ตราด นั้น ผู้สื่อข่าวได้ทำการตรวจสอบข้อมูลจากทางตำรวจภูธรจ.ตราดพบว่า เป็นข้อมูลที่เป็นจริง โดยระบุว่า เหตุการณ์เกิดเมื่อเช้ามืดวันที่ 6 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา
เวลา 05.45 น.วันที่ 6 มีนาคม 2565 นายเดชาธร จันทร์อบ นายกอบต.เกาะกูด ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้ที่โรงแรมหรู ต.เกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด จึงได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมรถดับเพลิง ซึ่งเมื่อเดินทางไปพบห้องพักของโรงแรมซึ่งเป็นห้องพักส่วนตัวและใหญ่ที่สุดของโรงแรมเพลิงกำลังลุกไหม้อย่ารุนแรง ซึ่งเป็นอาคารไม้ ภายในมีอาคารขนาดเล็กอีก 3 อาคาร อาคารใหญ่ 1 อาคาร ซึ่งทั้งหมดไหม้เหลือเพียงอาคารเล็ก 1 อาคาร ซึ่งไหม้เสียหายทั้งหมด เนื่องจากเป็นอาคารที่ทำด้วยไม้ ซึ่งห้องพักหลังนี้ เป็นหลังที่ค่าห้องพัก แพงที่สุด คือ คืนละ 800,000 บาทในราคาปกติ แต่ในช่วงนี้จะเหลือ 3-4 แสนบาท/คืน
หลังสามารถดับเพลิงแล้วทางอบต.เกาะกูดได้เข้าไปตรวจสอบความเสียหาย พบอาคารที่มีอยู่ 4 อาคาร อาคาร 3 อาคารรวมทั้งอาคารใหญ่ที่สุดถูกเผาไหม้ไปทั้งหมด ซึ่งมูลค่าความเสียหายของอาคารหลังนี้มีมูลค่า2-300 ล้านบาท ซึ่งภายในพื้นที่ก่อสร้างมีพท.ถึง 3 ไร่ และเป็นห้องพักที่ราคาแพงที่สุดของโรงแรม
จากนั้น ในวันที่ 7 มีนาคม 2565 นายเดชาธร จันทร์อบ และเจ้าหน้าที่โยธาธิการ อบต.เกาะกูดได้เข้าไปตรวจสอบอาคารทุกแห่งของโรงแรม เพื่อดูแลในเรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะอาคารที่ไฟไหม้ได้ถูกระงับการใช้แล้วส่วนที่เหลือภายในโรงแรมจะต้องตรวจสอบในรายละเอียดอีกครั้ง ส่วนผู้ที่มาพักทราบว่า เดินทางมาจำนวน 5-6 คน เป็นพ่อ แม่ ลูกและเเละญาติพี่น้องกัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน คือ คนที่เป็นสามีที่ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง จากการตกลงมาจากอาคาร และลูกอีกคนที่บาดเจ็บที่บริเวณคิว นอกนั้นมีอาการตกใจซึ่งทางโรงแรมได้นำตัวส่งโรงพยาบาลไปแล้วและได้เดินทางกลับไปกรุงเทพแล้วในบ่ายวันที่ 6 มีนาคม 2565
ส่วนความเสียหายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดตราด ได้สรุปว่า ทรัพย์สินของโรงแรมนั้น มีอาคารโรงแรมห้องพัก 3 หลัง และมีทรัพย์สินของผู้เข้ามาพักโรงแรมที่มีการประเมินไว้ทั้งหมดประมาณ 20 ล้านบาท เนื่องจากมีนาฬิกา 3 เรือนโดยเฉพาะ มีนาฬิกาโรเล็กซ์ 2 เรือน และแหวนเพชร 1 วง โดยขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจ.ตราดได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจากตำรวจภูธรภาค 2 มาตรวจสอบหลักฐานอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากมีมูลค่าความเสียหายสูง
ทั้งนี้โรงแรมหรูดังกล่าวส่วนใหญ่จะมีนักท่องเที่ยวที่เป็นมหาเศรษฐีและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีความร่ำรวยเท่านั้นที่จะมาพัก เนื่องจากมีค่าห้องพักราคาสูงระดับหลายแสน/คืน ซึ่งอาคารห้องพักที่ถูกเพลิงไหม้จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง แต่วันที่ถูกเพลิงไหม้ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลอยู่
เวลา 05.45 น.วันที่ 6 มีนาคม 2565 นายเดชาธร จันทร์อบ นายกอบต.เกาะกูด ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้ที่โรงแรมหรู ต.เกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด จึงได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมรถดับเพลิง ซึ่งเมื่อเดินทางไปพบห้องพักของโรงแรมซึ่งเป็นห้องพักส่วนตัวและใหญ่ที่สุดของโรงแรมเพลิงกำลังลุกไหม้อย่ารุนแรง ซึ่งเป็นอาคารไม้ ภายในมีอาคารขนาดเล็กอีก 3 อาคาร อาคารใหญ่ 1 อาคาร ซึ่งทั้งหมดไหม้เหลือเพียงอาคารเล็ก 1 อาคาร ซึ่งไหม้เสียหายทั้งหมด เนื่องจากเป็นอาคารที่ทำด้วยไม้ ซึ่งห้องพักหลังนี้ เป็นหลังที่ค่าห้องพัก แพงที่สุด คือ คืนละ 800,000 บาทในราคาปกติ แต่ในช่วงนี้จะเหลือ 3-4 แสนบาท/คืน
หลังสามารถดับเพลิงแล้วทางอบต.เกาะกูดได้เข้าไปตรวจสอบความเสียหาย พบอาคารที่มีอยู่ 4 อาคาร อาคาร 3 อาคารรวมทั้งอาคารใหญ่ที่สุดถูกเผาไหม้ไปทั้งหมด ซึ่งมูลค่าความเสียหายของอาคารหลังนี้มีมูลค่า2-300 ล้านบาท ซึ่งภายในพื้นที่ก่อสร้างมีพท.ถึง 3 ไร่ และเป็นห้องพักที่ราคาแพงที่สุดของโรงแรม
จากนั้น ในวันที่ 7 มีนาคม 2565 นายเดชาธร จันทร์อบ และเจ้าหน้าที่โยธาธิการ อบต.เกาะกูดได้เข้าไปตรวจสอบอาคารทุกแห่งของโรงแรม เพื่อดูแลในเรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะอาคารที่ไฟไหม้ได้ถูกระงับการใช้แล้วส่วนที่เหลือภายในโรงแรมจะต้องตรวจสอบในรายละเอียดอีกครั้ง ส่วนผู้ที่มาพักทราบว่า เดินทางมาจำนวน 5-6 คน เป็นพ่อ แม่ ลูกและเเละญาติพี่น้องกัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน คือ คนที่เป็นสามีที่ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง จากการตกลงมาจากอาคาร และลูกอีกคนที่บาดเจ็บที่บริเวณคิว นอกนั้นมีอาการตกใจซึ่งทางโรงแรมได้นำตัวส่งโรงพยาบาลไปแล้วและได้เดินทางกลับไปกรุงเทพแล้วในบ่ายวันที่ 6 มีนาคม 2565
ส่วนความเสียหายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดตราด ได้สรุปว่า ทรัพย์สินของโรงแรมนั้น มีอาคารโรงแรมห้องพัก 3 หลัง และมีทรัพย์สินของผู้เข้ามาพักโรงแรมที่มีการประเมินไว้ทั้งหมดประมาณ 20 ล้านบาท เนื่องจากมีนาฬิกา 3 เรือนโดยเฉพาะ มีนาฬิกาโรเล็กซ์ 2 เรือน และแหวนเพชร 1 วง โดยขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจ.ตราดได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจากตำรวจภูธรภาค 2 มาตรวจสอบหลักฐานอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากมีมูลค่าความเสียหายสูง
ทั้งนี้โรงแรมหรูดังกล่าวส่วนใหญ่จะมีนักท่องเที่ยวที่เป็นมหาเศรษฐีและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีความร่ำรวยเท่านั้นที่จะมาพัก เนื่องจากมีค่าห้องพักราคาสูงระดับหลายแสน/คืน ซึ่งอาคารห้องพักที่ถูกเพลิงไหม้จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง แต่วันที่ถูกเพลิงไหม้ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลอยู่