ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ชาวบ้านร้องเรียนว่า บนถนนที่ สต.3005 แยกทางหลวง 404 บ้านทุ่ง เขตเทศบาลตำบลฉลุง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล บริเวณสะพานนี้มีการขโมยสายไฟฟ้าจนทำให้กระแสไฟข้างทางต้องดับ ทั้งที่เพิ่งติดตั้งได้ไม่นาน สัญจรไปมาในยามค่ำคืนลำบาก เพราะแสงสว่างที่ไม่เพียงพอ แม้ทางเจ้าหน้าที่จะมาติดตั้งเสาไฟฟ้าแล้ว แต่กลับถูกหัวขโมยมาลักตัดสายไฟไป จึงอยากให้ตำรวจเร่งจับหัวขโมยที่เชื่อว่ามีความเชี่ยวชาญด้านไฟฟ้า
ผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าวว่า เคยเห็นบุคคลมีพิรุธคล้ายคนร้าย ตัดสายจากหัวเสาด้านฝั่งหัวสะพานแล้วลากมาทางฝั่งนี้เพื่อเอาไปเผาทองแดงด้านใน นอกจากสายไฟฟ้าแล้วสายโทรศัพท์คนร้ายก็เอาหมดไม่เว้น โดยเชื่อว่ามีการก่อเหตุเป็นกลุ่มมากกว่า 2 คน และมีเครื่องมือในการก่อเหตุ
ด้าน นางอุไร ถิ่นล่อง อายุ 55 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 2 ต.ฉลุง บอกว่า ไม่กล้าออกมาสัญจรในยามค่ำคืนจะใช้เส้นทางเฉพาะกลางวันเท่านั้น เคยเห็นบุคคลมีพิรุธอายุประมาณ 30 กว่าปี ขี่รถจยย.มาทำลับ ๆ ล่อๆ บริเวณหัวสะพานสอบถามได้ความว่าเป็นคนในหมู่บ้าน ที่มาเก็บสายไฟโทรศัพท์เก่าที่เขาไม่เอาแล้ว ซึ่งตนก็ไม่กล้าถามต่อเพราะเกรงจะเกิดอันตราย อยากให้ตำรวจหรือหน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งหาคนร้ายขโมยสายไฟฟ้ามาดำเนินคดีโดยไว
ขณะที่เจ้าหน้าที่จากแขวงทางหลวงชนบท จังหวัดสตูล ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบอีกครั้ง พร้อมบอกว่า จุดติดตั้งเสาไฟฟ้านี้ซึ่งอยู่บริเวณสะพานมีการถูกคนร้ายขโมยสายไฟฟ้าไปจริง จากการตรวจสอบพบว่าได้หายไปจำนวน 30 เมตร ซึ่งทางแขวงทางหลวงชลบทได้ไปแจ้งความยัง สภ.ฉลุงแล้ว
ส่วน นายคมสัน หาญณรงค์ นายช่างเครื่องกลปฏิบัติงาน แขวงทางหลวงชนบทจังหวัดสตูล ยอมรับว่า ช่วงนี้มีคนร้ายได้ก่อเหตุขโมยสายไฟฟ้าจำนวน 3 จุด ที่อำเภอละงู 1 จุดจับกุมคนร้ายได้แล้ว และอีก 2 จุดในอำเภอเมืองสตูล รวมทั้งจุดนี้ หลังเกิดเหตุทางแขวงฯได้ติดตั้งป้ายขึ้นเพื่อแจ้งให้ชาวบ้านได้ทราบเองว่า ถูกหัวขโมยสายไฟไป ไม่ได้ละเลยในการจ่ายไฟ โดยพฤติกรรมคนร้ายจะใช้เครื่องมืออย่างขวานในการตัดสายไฟ และมักจะก่อเหตุกับสายไฟที่ติดตามหัวสะพานเพราะง่ายในการตัดและดึงลากออกมา เพื่อเอาลวดทองแดงภายในสายไฟไปขาย โดยจุดนี้หายไปจำนวน 30 เมตร คิดมูลค่าความเสียหายไม่รวมค่าแรงเมตรละ 165 บาท แม้มูลค่าไม่มากนักแต่สร้างความเสียหายให้ทรัพย์สินของรัฐที่บริการประชาชน สำหรับกรณีนี้คนร้ายก่อเหตุในกลางวัน เพราะเป็นย่านชุมชน
สำหรับมาตรการหลังจากนี้ทางแขวงทางหลวงชนบท นอกจากจะแจ้งความดำเนินคดีทางกฎหมายให้เร่งติดตามตัวคนร้ายแล้ว มาตรการทางสังคม กำนัน ผญบ. และประชาชนในการช่วยเป็นหูเป็นตาในการช่วยสอดส่องดูแล และแจ้งเบาะแสกับตำรวจในการจับกุมคนร้ายให้ได้