หลังชุมชนในเขตดุสิตร้องให้กทม.เร่งจัดการขยะติดเชื้อในชุมชน ชี้เดือนก.พ.ขยะติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 100 ตัน/วัน เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทิ้งอย่างถูกวิธี ทั้งหน้ากากอนามัย และชุดตรวจ ATK
นายธานินทร์ เนียมหอม ผู้อำนวยการเขตดุสิต กทม. กล่าวกรณีมีข่าวประชาชนในชุมชนวัดประชาธรรม ชุมชนพระยาประสิทธิ์ ชุมชนตรอกต้นโพธิ์ และชุมชนเสริมสุข เขตดุสิต ขอให้ กทม.เร่งจัดการขยะติดเชื้อในชุมชนว่า ที่ผ่านมาสำนักงานเขตดุสิต ได้รับการจัดสรรถังขยะติดเชื้อจากสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. เพื่อส่งมอบให้ชุมชนในพื้นที่เขตดุสิต จำนวน 43 ชุมชน โดยพิจารณาติดตั้งถังขยะร่วมกับชุมชนในจำนวนและจุดที่เหมาะสม พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องให้ประชาชนในชุมชนได้ทราบถึงชนิดประเภทขยะติดเชื้อที่ต้องทิ้งในถังส้ม อย่างไรก็ตาม ยังมีประชาชนบางส่วนมีความเข้าใจที่คาดเคลื่อน โดยนำขยะประเภทกล่องอาหาร ขวดน้ำ จากผู้ที่อยู่ในระบบแยกรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation : HI) มาทิ้งรวมปะปนมาในถังสีส้มจำนวนมาก สำนักงานเขตฯ จึงได้เร่งประชาสัมพันธ์แนวทางการจัดการขยะจากสถานที่แยกกักตัวที่บ้าน โดยประสานชุมชนด้วยการใช้เสียงตามสายเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจทุกช่องทาง
สำหรับการนัดหมายเข้าจัดเก็บขยะติดเชื้อในชุมชน สำนักงานเขตฯ จะเข้าจัดเก็บเป็นประจำทุกวันอาทิตย์ โดยรวบรวมขยะติดเชื้อมารอการจัดเก็บจากบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ที่ศูนย์ราชการเกียกกาย และได้จัดทำจุดรวบรวมขยะติดเชื้อที่ถูกสุขลักษณะไว้รองรับปริมาณขยะติดเชื้อในพื้นที่ แต่เนื่องจากในปัจจุบันมีจำนวนผู้ติดเชื้อและปริมาณขยะเพิ่มขึ้น KT จึงเข้าจัดเก็บเป็นประจำทุกวัน นอกจากนี้ ยังได้แนะนำให้นำขยะประเภทภาชนะบรรจุอาหารใส่ถุงดำ หรือขาวมัดปากถุง ฉีดพ่นสารฆ่าเชื้อโรค ทิ้งตามแนวทางที่กรุงเทพมหานครแนะนำ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางการประชุมคณะกรรมการชุมชนในการจัดเก็บขยะชิ้นใหญ่และขยะติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น โดยเพิ่มรอบการจัดเก็บให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขยะติดเชื้อตกค้างและเกิดอันตรายกับประชาชนในชุมชน
นายวิรัตน์ มนัสสนิทวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. กล่าวว่า การจัดการขยะติดเชื้อในชุมชนพื้นที่เขตดุสิต สำนักสิ่งแวดล้อม ได้ประสานสำนักงานเขตดุสิต เร่งสร้างความเข้าใจกับประชาชนถึงวิธีการแยกทิ้งขยะติดเชื้ออย่างถูกวิธี การกำหนดจุดตั้งวางถังขยะติดเชื้อ และความถี่การเข้าจัดเก็บขยะติดเชื้อจากประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ป่วยที่เข้าระบบ HI ซึ่งจะมีทีมเฉพาะกิจและรถเก็บขยะติดเชื้อเฉพาะเข้าจัดเก็บ เพื่อเก็บรวบรวมและนำไปกำจัดอย่างถูกสุขลักษณะ ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคออกสู่สิ่งแวดล้อม และส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน นอกจากนี้ สำนักสิ่งแวดล้อมได้ประชุมร่วมกับหัวหน้าฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต เพื่อชี้แจงและเน้นย้ำแนวทางการจัดการขยะจากสถานที่แยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) สถานที่กักกันซึ่งทางราชการกำหนด (Quarantine) หอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) โรงพยาบาลสนาม และสถานที่แยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) พร้อมจัดอบรมวิธีปฏิบัติการจัดเก็บขยะติดเชื้อและการดูแลสุขภาพอนามัยให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเก็บขนมูลฝอย รวมถึงจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ เพื่อให้สำนักงานเขตใช้เป็นแนวทางการดำเนินงานและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ
ทั้งนี้ ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด 19 ตั้งแต่เดือน ม.ค.65 ถึงปัจจุบัน ในกรุงเทพฯ มีปริมาณขยะติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น โดยเดือน ม.ค.65 มีขยะติดเชื้อเฉลี่ย 83 ตัน/วัน และเดือน ก.พ.65 มีขยะติดเชื้อเฉลี่ย 105 ตัน/วัน สำหรับขยะติดเชื้อทั้งหมด กรุงเทพมหานครนำไปกำจัดด้วยวิธีการเผาในเตาเผามูลฝอยติดเชื้อที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุชและหนองแขม ซึ่งมีขีดความสามารถในการกำจัด 70 ตัน/วัน ส่วนที่เหลือนำไปกำจัดที่เตาเผามูลฝอยชุมชน ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร ยังได้บริหารจัดการขยะติดเชื้อที่แหล่งกำเนิด โดยสำนักสิ่งแวดล้อมและสำนักงานเขตรณรงค์ประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ ความเข้าใจให้ประชาชนทราบวิธีการทิ้งและแยกขยะติดเชื้อโควิด 19 ผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การลงพื้นที่ให้คำแนะนำ การเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดีย รวมถึงประชาสัมพันธ์ผ่านเสียงตามสายในชุมชนและสวนสาธารณะของกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ประชาชนคัดแยกขยะติดเชื้ออย่างถูกวิธี ไม่ทิ้งปะปนกับขยะทั่วไป ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะติดเชื้อเข้าสู่ระบบการกำจัดได้อีกทางหนึ่ง สำหรับประชาชนที่มีขยะติดเชื้อ เช่น หน้ากากอนามัย และชุดทดสอบ Antigen Test Kit (ATK) ใช้แล้ว ให้นำใส่ถุงที่ไม่รั่วซึม และฆ่าเชื้อโรคด้วยการราด หรือฉีดพ่นด้วยแอลกอฮอล์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค แล้วมัด หรือปิดปากถุงให้สนิท เขียน หรือติดหน้าถุงว่าขยะติดเชื้อ โดยสามารถแยกทิ้งได้ 2 วิธี คือ (1) แยกทิ้งในถังรองรับขยะติดเชื้อ (สีแดง) ซึ่งตั้งวางในชุมชน เช่น ศูนย์สุขภาพชุมชน ที่ทำการชุมชน โรงเรียน วัด มัสยิด สำนักงานเขต ศูนย์บริการสาธารณสุข โรงพยาบาลสังกัด กทม. ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) และศาลาว่าการ กทม. (ดินแดง) ศูนย์กีฬา กทม. ศูนย์เยาวชน กทม. สถานีดับเพลิง สวนสาธารณะ และสถานที่สาธารณะที่เหมาะสม เช่น ตลาด บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า และอาคารสำนักงานเคหะชุมชนต่าง ๆ และ (2) แยกทิ้งให้กับรถเก็บขนมูลฝอยของสำนักงานเขต
นายวิรัตน์ มนัสสนิทวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. กล่าวว่า การจัดการขยะติดเชื้อในชุมชนพื้นที่เขตดุสิต สำนักสิ่งแวดล้อม ได้ประสานสำนักงานเขตดุสิต เร่งสร้างความเข้าใจกับประชาชนถึงวิธีการแยกทิ้งขยะติดเชื้ออย่างถูกวิธี การกำหนดจุดตั้งวางถังขยะติดเชื้อ และความถี่การเข้าจัดเก็บขยะติดเชื้อจากประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ป่วยที่เข้าระบบ HI ซึ่งจะมีทีมเฉพาะกิจและรถเก็บขยะติดเชื้อเฉพาะเข้าจัดเก็บ เพื่อเก็บรวบรวมและนำไปกำจัดอย่างถูกสุขลักษณะ ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคออกสู่สิ่งแวดล้อม และส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน นอกจากนี้ สำนักสิ่งแวดล้อมได้ประชุมร่วมกับหัวหน้าฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต เพื่อชี้แจงและเน้นย้ำแนวทางการจัดการขยะจากสถานที่แยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) สถานที่กักกันซึ่งทางราชการกำหนด (Quarantine) หอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) โรงพยาบาลสนาม และสถานที่แยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) พร้อมจัดอบรมวิธีปฏิบัติการจัดเก็บขยะติดเชื้อและการดูแลสุขภาพอนามัยให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเก็บขนมูลฝอย รวมถึงจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ เพื่อให้สำนักงานเขตใช้เป็นแนวทางการดำเนินงานและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ
ทั้งนี้ ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด 19 ตั้งแต่เดือน ม.ค.65 ถึงปัจจุบัน ในกรุงเทพฯ มีปริมาณขยะติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น โดยเดือน ม.ค.65 มีขยะติดเชื้อเฉลี่ย 83 ตัน/วัน และเดือน ก.พ.65 มีขยะติดเชื้อเฉลี่ย 105 ตัน/วัน สำหรับขยะติดเชื้อทั้งหมด กรุงเทพมหานครนำไปกำจัดด้วยวิธีการเผาในเตาเผามูลฝอยติดเชื้อที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุชและหนองแขม ซึ่งมีขีดความสามารถในการกำจัด 70 ตัน/วัน ส่วนที่เหลือนำไปกำจัดที่เตาเผามูลฝอยชุมชน ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร ยังได้บริหารจัดการขยะติดเชื้อที่แหล่งกำเนิด โดยสำนักสิ่งแวดล้อมและสำนักงานเขตรณรงค์ประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ ความเข้าใจให้ประชาชนทราบวิธีการทิ้งและแยกขยะติดเชื้อโควิด 19 ผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การลงพื้นที่ให้คำแนะนำ การเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดีย รวมถึงประชาสัมพันธ์ผ่านเสียงตามสายในชุมชนและสวนสาธารณะของกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ประชาชนคัดแยกขยะติดเชื้ออย่างถูกวิธี ไม่ทิ้งปะปนกับขยะทั่วไป ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะติดเชื้อเข้าสู่ระบบการกำจัดได้อีกทางหนึ่ง สำหรับประชาชนที่มีขยะติดเชื้อ เช่น หน้ากากอนามัย และชุดทดสอบ Antigen Test Kit (ATK) ใช้แล้ว ให้นำใส่ถุงที่ไม่รั่วซึม และฆ่าเชื้อโรคด้วยการราด หรือฉีดพ่นด้วยแอลกอฮอล์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค แล้วมัด หรือปิดปากถุงให้สนิท เขียน หรือติดหน้าถุงว่าขยะติดเชื้อ โดยสามารถแยกทิ้งได้ 2 วิธี คือ (1) แยกทิ้งในถังรองรับขยะติดเชื้อ (สีแดง) ซึ่งตั้งวางในชุมชน เช่น ศูนย์สุขภาพชุมชน ที่ทำการชุมชน โรงเรียน วัด มัสยิด สำนักงานเขต ศูนย์บริการสาธารณสุข โรงพยาบาลสังกัด กทม. ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) และศาลาว่าการ กทม. (ดินแดง) ศูนย์กีฬา กทม. ศูนย์เยาวชน กทม. สถานีดับเพลิง สวนสาธารณะ และสถานที่สาธารณะที่เหมาะสม เช่น ตลาด บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า และอาคารสำนักงานเคหะชุมชนต่าง ๆ และ (2) แยกทิ้งให้กับรถเก็บขนมูลฝอยของสำนักงานเขต