ขณะที่ยอดป่วยอาการหนักปอดอักเสบลดลงจากเมื่อวานเป็น 1,115 ราย ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้นเป็น 337 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้พบ 23,834 ราย มาจากต่างประเทศ 146 ราย แต่เมื่อรวมกับผู้ป่วยจากการตรวจ ส่วนผู้ป่วยเข้าข่ายจากการตรวจ ATK วันนี้ลดลงจากเมื่อวานเป็น 31,571 ราย ทำให้ไทยมีผู้ติดเชื้อรวมพุ่งสูงถึง 55,405 ราย ผู้เสียชีวิต 54 ราย ป่วยติดเตียงถึง 6 ราย เสียชีวิตที่บ้าน 1 ราย ทั้งนี้กลุ่มเสี่ยงเสียชีวิตส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มโรคเรื้อรัง และส่วนใหญ่ติดเชื้อจากคนใกล้ชิด สำหรับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุด คือ กทม. จำนวน 2,580 รายซึ่งลดลงจากเมื่อวาน(2,779) และพบการเสียชีวิตกระจายในทุกภาคทั่วไทย เสียชีวิัตสูงสุดรายจังหวัดอยู่ที่ กทม.และภูเก็ต จว.ละ 5 ราย ส่วนยอดติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง มีจำนวน 85 ราย รักษาหาย 19,351 ราย ยังรักษาอยู่ 227,843 ราย
วันที่ 4 มี.ค.2565 ศูนย์ข้อมูลCOVID-19 รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 23,834 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 23,688 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 146 ราย วันนี้มีรายงานลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย 36 ราย จากเมียนมา โดยเป็นคนไทย 1 ต่างชาติ 35 ราย ติดเชื้อในประเทศ (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพสูงถึง 23,267 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 336 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 85 ราย) รวมยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 2,981,996 ราย อย่างไรก็ตามหากรวมยอดผู้ป่วยจากการตรวจ ATK จำนวน 31,571 ราย ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จะมี 55,405 ราย
วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 54 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 23,124 ราย หายป่วยอีก 19,351 ราย รวมยอดรักษาหาย 2,731,029 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 227,843 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.80,539 ราย ในรพ.สนาม/HI-CI 147,304 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,115 ราย (จากเมื่อวาน1,131 ราย) มีผู้ป่วยหนักนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 337 ราย (จากเมื่อวาน 325 ราย)
สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต จำนวน 54 ราย พบเป็นคนไทย 53 ราย เมียนมา 1 ราย เป็นเพศชาย 30 ราย เพศหญิง 24 ราย อายุ 1-91 ปี พบทุกภาคทั่วไทยโดยเสียชีวิตมากสุดใน กทม.และภูเก็ต จว.ละ 5 ราย โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความรุนแรงของโรคและเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น โดยในจำนวนผู้เสียชีวิต 54 ราย พบ 43 รายอายุ 60 ปีขึ้นไป และอายุน้อยกว่า 60 ปีแต่มีโรคเรื้อรัง 8 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 3 ราย ส่วนผู้ป่วยติดเตียงยังมีการรายงานเสียชีวิตต่อเนื่องวันนี้พบสูงถึง 6 ราย และเสียชีวิตที่บ้าน 1 ราย และพบว่าผู้เสียชีวิต จำนวน 26 รายไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ฉีดเพียงเข็มเดียว 7 ราย ฉีด 2 เข็มเกิน 3 เดือน 17 ราย ฉีดเข็ม 2 ไม่เกิน 3 เดือน 3 ราย ฉีด 3 เข็ม 1 ราย อย่างไรก็ตามผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ติดเชื้อจากบุคคลใกล้ชิด หรือคนรู้จัก และอาศัยในพื้นที่เสี่ยง

