นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 15 ในเดือนมี.ค.65 ภายใต้หัวข้อ “ปรับขึ้นค่าไฟ-ก๊าซ กระทบเศรษฐกิจแค่ไหน” พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. มองว่า กรณีภาครัฐจะมีการพิจารณาปรับอัตราค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซฯขึ้นต่อเนื่อง จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และยังเป็นการซ้ำเติมปัญหาให้แก่ผู้ประกอบการที่ต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตที่อยู่ในระดับสูงในขณะนี้ จนทำให้ผู้ประกอบการมีความจำเป็นจะต้องปรับราคาสินค้าขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชน ดังนั้นจึงเสนอขอให้ภาครัฐพิจารณาคงอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ในรอบเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2565 เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบดังกล่าว นอกจากนี้ยังแนะให้ภาคอุตสาหกรรมเร่งปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อประหยัดพลังงาน และหันมาผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนใช้เองภายในโรงงานอุตสาหกรรม โดยจากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 150 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหาร 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด มีสรุปผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 15 จำนวน 6 คำถาม ดังนี้ 1.ปัจจุบันค่าไฟฟ้าและพลังงานคิดเป็นสัดส่วนกี่เปอร์เซ็นต์ของต้นทุนการผลิต อันดับที่ 1 : 10 - 20% 38.7% อันดับที่ 2 : น้อยกว่า 10% 25.3% อันดับที่ 3 : 20 - 30% 20.7% อันดับที่ 4 : มากกว่า 30% 15.3% 2. กรณีภาครัฐมีการปรับค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซฯ ขึ้นต่อเนื่อง จะกระทบต่อเศรษฐกิจในระดับใด อันดับที่ 1 : มาก 56.7% อันดับที่ 2 : ปานกลาง 34.7% อันดับที่ 3 : น้อย 8.6% 3. ผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซฯในเรื่องใดที่ภาครัฐควรให้ความสำคัญ อันดับที่ 1 : ราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้นจากต้นทุนพลังงานที่อยู่ระดับสูง 87.3% อันดับที่ 2 : ภาระค่าครองชีพของประชาชน 82.0% อันดับที่ 3 : เร่งอัตราเงินเฟ้อให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 51.3% อันดับที่ 4 : กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวหรือหยุดชะงัก 41.3% 4. มาตรการใดมีประสิทธิภาพในการบรรเทาผลกระทบของประชาชนและภาคธุรกิจ จากค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น อันดับที่ 1 : การคงอัตราค่า Ft รอบเดือน พ.ค.-ส.ค.2565 80.7% อันดับที่ 2 : มาตรการความร่วมมือลดการใช้ไฟฟ้า (Demand Response) 59.3% โดยคืนผลประหยัดไฟฟ้าที่ลดได้ให้กับผู้ใช้ไฟฟ้า อันดับที่ 3 : ตรึงราคาขายปลีกก๊าซฯ ชั่วคราว 53.3% อันดับที่ 4 : มาตรการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มในส่วนของผู้มีรายได้น้อย 52.7% และผู้ประกอบการ SME เช่น ส่วนลดค่าไฟฟ้า, คูปองส่วนลดราคาก๊าซฯ 5. ภาคอุตสาหกรรมควรเตรียมรับมือผลกระทบจากค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างไร อันดับที่ 1 : ปรับปรุงกระบวนการผลิต เพื่อประหยัดพลังงาน 82.0% อันดับที่ 2 : การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนใช้เองภายในโรงงาน 76.0% เช่น Solar cell อันดับที่ 3 : นำระบบการบริหารจัดการพลังงานมาใช้ 64.7% และปรับแผนการผลิตเพื่อลดต้นทุน อันดับที่ 4 : บำรุงรักษาและปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร 53.3% 6. แนวโน้มภาคอุตสาหกรรมจะมีการใช้ไฟฟ้าและพลังงาน ปี 2565 อย่างไร อันดับที่ 1 : เพิ่มขึ้นจากปี 2564 77.3% อันดับที่ 2 : ทรงตัว 20.7% อันดับที่ 3 : ลดลงจากปี 2564 2.0%