สุดเศร้าบีบหัวใจผู้เป็นแม่ ตั้งใจจะทำบุญบวชให้ลูกชายคนโต ตอบแทนคุณพ่อแม่ หลังลูกชายเคยร้องขอครั้งเดียวในชีวิต สุดท้ายต้องมาจัดงานศพ หลังลูกชายหนุ่ม วัย 29 ปี ถูกแฟนสาวประเภทสองหึงหวงจ้วงแทงดับ ส่วนตำรวจเตรียมฝากของมือมีด อ้างทำไปเพราะมึนเมา ยอมสำนึกผิด แต่ไม่มีเจตนาฆ่าไม่คิดว่าจะถึงตาย ตำรวจตั้ง 2 ข้อหา
วันที่ 1 มี.ค.65 ที่ สภ.เมืองนครพนม ร.ต.ท.มนัสนันท์ บุรีภักดี รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เร่งสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อสรุปการดำเนินคดี สำหรับผู้ต้องหาก่อคดีแทงแฟนหนุ่มเสียชีวิต ส่วนผู้ต้องหาคือ นายสุบัน ภูมิดา อายุ42 ปี เป็นชาวลาวที่หลบหนีเข้ามาพักอาศัยทำงานรับจ้าง อยู่ในเขต อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม มานานกว่า 10 ปี ไม่มีเอกสารหนังสือเดินทางเข้ามาในประเทศตามกฎหมาย เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บ้านเลขที่ 31/7 ซอยข้างวัดป่าศรีสมพร ใกล้ห้างบิ๊กซี ถนนเลี่ยงเมือง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม เป็นเหตุให้ นายสมพร หอมมะลิ อายุ 29 ปี ทำงานรับจ้างเป็นพนักงานโรงน้ำแข็งแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม เสียชีวิต เนื่องจากถูกอาวุธมีดแทงตัดเส้นเลือดใหญ่บริเวณต้นขาขวา ขณะนั่งดื่มเหล้าร่วมกับแฟนสาวประเภทสองผู้ก่อเหตุ จนเกิดปากเสียงกันเพราะความหึงหวง และมีอาการเมาสุรา และก่อเหตุขึ้น
ล่าสุดวันนี้ ทางตำรวจได้เตรียมควบคุมตัวผู้ต้องหาไปเสนอขอฝากขังที่ศาลจังหวัดนครพนม โดยจากการสอบสวน ทางผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง เนื่องจากมีอาการเมาเหล้า จนเกิดปากเสียงทะเลาะกันจากปัญหาส่วนตัว หึงหวง แต่ไม่มีเจตนาจะฆ่าให้ตาย เพียงคิดจะทำร้ายร่างกาย ไม่คิดว่าจะทำให้ถึงแก่ชีวิต และยอมรับสำนึกผิดพร้อมที่จะรับผิดตามกฎหมาย ส่วนตำรวจตั้งข้อหา 2 ข้อหาหลัก คือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สรุปสำนวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลศพของ ผู้เสียชีวิต คือ นายสมพร หอมมะลิ อายุ 29 ปี ก่อนนี้มีปัญหาเรื่อง ครอบครัวยากจน เนื่องจากพ่อแม่อย่าร้างกัน เมื่อ 30 ปีที่แล้ว จนกระทั่งผู้ตาย มาอาศัยอยู่กับพ่อ และแม่เลี้ยง ที่บ้านพักเกิดเหตุ แต่มีปัญหาครอบครัวยากจน ไม่มีเงินประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล จนกระทั่งล่าสุด นางสุวนันท์ หอมมะลิ อายุ 49 ปี แม่แท้ๆ ของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาดูแลค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพของลูกชายตามประเพณี เป็นที่เรียบร้อย
ทั้งนี้ นางสุวนันท์ หอมมะลิ อายุ 49 ปี เปิดเผยว่า ตนมีลูกชาย 2 คน ผู้ตายเป็นคนโต หลังอย่าร้างกับอดีตสามี ลูกชายคนโตที่เสียชีวิตมาอาศัยอยู่กับพ่อ ที่ จ.นครพนม ซึ่งพักอยู่บ้านที่เกิดเหตุกับพ่อ และแม่เลี้ยง หลังอดีตสามีไปมีครอบครัวใหม่ ส่วนลูกชายคนที่สองมีครอบครัวแล้ว ซึ่งตนไปมีสามีใหม่ ประกอบอาชีพค้าขายที่ จ.ชัยภูมิ ปกติจะดูแลติดต่อลูกชายตลอด ไม่เคยทอดทิ้ง พื้นฐานเป็นคนที่ไม่เกเร ทำงานรับจ้าง เคยผ่านการเกณฑ์ทหารเข้ารับคัดเลือกเป็นทหารกองประจำการมาก่อน ที่สำคัญไม่เคยเป็นคนก้าวร้าวไม่มีอารมณ์รุนแรงแต่เด็ก และยังเคยมีภรรยาเป็นหญิงแต่อย่างร้างกันไป ไม่มีลูก จนกระทั่งภายหลังตนไม่ทราบว่ามาคบหากับสาวประเภทสอง ช่วงไหน ไม่ได้ถามเรื่องส่วนตัว เพียงโทรติดต่อสอบถามเรื่องทั่วไป ล่าสุดลูกชายได้ตกลงจะอุปสมบท ตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ ครั้งเดียวในชีวิต เพราะยังไม่เคยบวช ตนจึงดีใจและได้รับปากลูกชายว่าจะดำเนินการตั้งกองบวชให้ลูกชาย เพื่อเป็นสิริมงคลกับครอบครัว ในช่วงเดือนเมษายน 2565 สุดท้ายไม่คาดคิดว่าจากงานบวชที่ตกลงกันจะได้มาจัดงานศพให้ลูกชายแทน อย่างไรก็ตามตนอโหสิกรรมให้คนก่อเหตุให้ไปรับกรรม รับผิดตามกฎหมาย ไม่ติดใจอะไรถือว่าเป็นกรรมของลูกชาย ไม่ห่วงเรื่องคดีเชื่อมั่นตำรวจทำตามหน้าที่
