สถานการณ์รัสเซียยูเครน ตึงเครียดมากขึ้น หลังจากสหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตรตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซียด้วยการตัดธนาคารรัสเซียจากระบบ SWIFT ไม่ให้โอนเงินระหว่างประเทศ ส่งผลกระทบต่อส่งออกน้ำมันและก๊าซของรัสเซียเป็นอย่างมาก
แน่นอนการตัดรัสเซียออกจากระบบ SWIFT กระทบต่อการชำระเงินทั่วโลกไม่เว้นแม้กระทั่งไทยโดยเฉพาะการชำระค่าสินค้าต่อผู้ส่งออกของไทยอย่างแน่นอน แต่ขณะนี้ยังไม่มีผลทันทีเพราะต้องรอการประชุม สมาคมโทรคมนาคมทางการเงินโลกหรือSWIFT อย่างเป็นทางการก่อน ซึ่งต้องติดตามว่าจะมีผลเมื่อไร อย่างไรก็ตามหากมีผลบังคับใช้จริงส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกไทย เพราะการชำระเงินต้องผ่านระบบSWIFT โดยผู้ส่งออกใช้ระบบการโอนเงินผ่าน SWIFT ระหว่างลูกค้าต่างประเทศ
ระบบ SWIFT คืออะไร และสำคัญอย่างไร
SWIFT หรือสมาคมโทรคมนาคมทางการเงินโลก ย่อมาจาก Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication เป็นเครือข่ายการเงินระดับโลกที่ช่วยในการโอนเงินได้อย่างรวดเร็ว และปลอดภัย
SWIFT ก่อตั้งขึ้นในปี 1973 สำนักงานใหญ่ประเทศเบลเยียม โดยทำหน้าที่เชื่อมโยงธนาคารและสถาบันกว่า 11,000 แห่งในกว่า 200 ประเทศ ทำหน้าเป็นตัวกลางรับส่งข้อมูลการโอนเงินระหว่างประเทศ ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมของธนาคารทั่วโลก โดยจะรับส่งข้อความโต้ตอบแบบเรียลไทม์ เมื่อมีรายการนำส่งและชำระเงิน
ขณะที่ในปี 2021 ที่ผ่านมา มีการส่งข้อมูลทางการเงินระหว่างกันบนระบบ SWIFT มากกว่า 40 ล้านครั้งต่อวัน และสามารถรองรับการแลกเปลี่ยน โอนเงินหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
ปัจจุบัน เครือข่าย SWIFT มีธนาคารและสถาบันการเงินเป็นเจ้าของร่วมกันมากกว่า 2,000 แห่ง โดยธนาคารแห่งชาติของเบลเยียมร่วมมือกับธนาคารกลางที่สำคัญหลายแห่งทั่วโลก เช่น ตัวแทนจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ธนาคารแห่งอังกฤษ ธนาคารกลางยุโรป ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น และธนาคารกลางอื่นๆ ในการควบคุมและดูแลระบบ
การตัดรัสเซียออกจากระบบ SWIFT จะส่งผลกระทบอย่างไร
ภาคธุรกิจและบริษัทต่างๆของรัสเซียจะไม่สามารถทำธุรกรรมได้แบบเรียลไทม์จากบริการของ SWIFT โดยเฉพาะภาคธุรกิจด้านการเกษตรและพลังงานที่มีมูลค่าการค้าจำนวนมหาศาล จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
สวิฟต์เป็นระบบการสื่อสารที่ทำให้มีการโอนเงิน การชำระเงินข้ามประเทศที่มีความรวดเร็วและราบรื่น โดยมีการเชื่อมต่อธนาคารและสถาบันต่างๆ 11,000 แห่ง ในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก มีการส่งข้อความมากกว่า 40 ล้านข้อความต่อวัน มูลค่าธุรกรรมคิดเป็นจำนวนหน่วยกว่าล้านล้านเหรียญสหรัฐ มีการคาดว่าจำนวนข้อความประมาณ 1% จากจำนวนทั้งหมดมาจากชาวรัสเซีย ปัจจุบันเครือข่ายสวิฟต์มีธนาคารและสถาบันการเงินเป็นเจ้าของร่วมกันมากกว่า 2,000 แห่ง โดยธนาคารแห่งชาติของเบลเยียมได้ร่วมมือกับธนาคารกลางที่สำคัญหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางอังกฤษ
การที่ธนาคารรัสเซียบางแห่งถูกตัดออกจากระบบย่อมได้รับผลกระทบ แม้ว่าที่ผ่านมารัสเซียได้พยายามพัฒนาร่วมกับจีน เพื่อจัดตั้งระบบ SPSF ในลักษณะเดียวกันนี้ในช่วงสถานการณ์ไครเมีย แต่ยังไม่ได้ใช้อย่างแพร่หลายและส่วนใหญ่ใช้ภายในประเทศรัสเซียเองเพียงแค่ 400 แห่ง หรือคิดเป็นสัดส่วนการทำธุรกรรมภายในประเทศเพียง 20% ดังนั้นจะเห็นว่า ระบบที่รัสเซียจัดทำขึ้นไม่อาจเข้ามาแทนที่ระบบ SWIFT เมื่อรัสเซียออกจากระบบนี้แล้ว เชื่อว่าต่างชาติคงไม่ต้องการทำการค้าร่วมกับรัสเซีย ยิ่งจะส่งผลกระทบรุนแรง