วันที่ 25 ก.พ.65 นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลพบุรี โดยมีการสรุปสถานการณ์โรคในสัปดาห์ที่ 7 ของปี 2565 พบผู้ป่วยเพิ่ม 885 คน กระจายอยู่ทุกอำเภอของจังหวัดลพบุรี โดยอำเภอที่มีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น คือ อำเภอเมืองลพบุรี อำเภอหนองม่วง อำเภอลำสนธิ อำเภอสระโบสถ์ และอำเภอท่าหลวง โดยสถานการณ์มีแนวโน้มสูงขึ้น ลักษณะการระบาดเป็นแบบกระจาย มีการติดเชื้อภายในครอบครัวและเครือญาติ เป็นส่วนมาก กลุ่มเป้าหมายที่เพิ่มสูงขึ้น ส่วนใหญ่เป็น นักเรียน/นักศึกษา พนักงานบริษัท/โรงงาน ลักษณะพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ/แพร่เชื้อ คือ รับประทานอาหารร่วมกัน พูดคุยกันโดยไม่ใส่แมส กลุ่มที่ยังต้องเฝ้าระวัง คือ บริษัท/โรงงาน สถานศึกษา ตลาด ชุมชน สถานที่เสี่ยงอื่นๆ ที่มีการรวมกลุ่มกันจำนวนมาก เช่น งานบวช งานแต่งงาน การแข่งขันกีฬา
ที่ประชุมได้เห็นชอบมาตรการเฝ้าระวังโควิด-19 ของจังหวัดลพบุรีใน 8 ระดับ คือ ระดับบุคคล เน้นมาตรการ Universal Prevention ระดับครอบครัว ขอให้งดการสังสรรค์ที่มีคนจำนวนมาก รักษาระยะห่าง 1.5-2 เมตร เฝ้าระวังและดูแลสมาชิกที่เป็นผู้สูงอายุและเด็ก หรือคนที่มีโรคประจำตัวเป็นพิเศษ และกระตุ้นให้สมาชิกในครอบครัวให้ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ สำหรับสถานที่ทำงาน ให้เฝ้าระวังติดตาม กำกับ บุคลากรในหน่วยงานให้ปฎิบัติตามมาตรการ VUCA อย่างเคร่งครัด ส่วนในระดับชุมชน ให้ผู้นำชุมชนสื่อสาร สร้างความรู้ความเข้าใจแก่คนในชุมชน เพื่อให้ปฎิบัติตนให้ถูกต้อง ให้ความร่วมมือในการค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชน จัดการแยกผู้ติดเชื้อออกจากชุมชนโดยเร็ว เพื่อเข้าสู่ระบบการรักษา จัดระบบการดูแลอย่างเหมาะสม ทั้งผู้ติดเชื้อ ผู้สัมผัส ผู้ป่วยที่กลับจากโรงพยาบาลและประชาชนทั่วไป
สำหรับสถานศึกษา เน้นย้ำเรื่องมาตรการปลอดภัย 6-6-7 เพื่อลดความเสี่ยงโควิด โรงงานสถานประกอบการ ดำเนินการตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and Seal) เพื่อการป้องกันและควบคุมโรค ส่วนพื้นที่ตลาดนัด/ตลาดสด ขอให้ยกระดับมาตรการป้องกัน 3 ด้าน คือ การป้องกันตนเอง การป้องกันสถานที่ และการจัดระบบเฝ้าระวังควบคุมโรคของผู้ค้า และรถโดยสารสาธารณะ ให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่กำหนดไว้อย่างเข้มงวด
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ได้ขอให้ฝ่ายกฎหมายของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี ดำเนินการตามกฎหมายทันที ในกรณีผู้ปล่อยข่าวเท็จ สร้างความสับสนให้แก่ประชาชน และย้ำว่า ศบค. ไม่มีการเปลี่ยนแปลงระดับพื้นที่ (ระดับสี) แต่อย่างใด ส่วนมาตรการควบคุมทั้ง 8 ระดับ เป็นการเน้นย้ำกำหนดมาตรการให้เข้มข้นขึ้น แต่ไม่มีการออกคำสั่งปิดกิจการ/กิจกรรม หรือสถานที่อื่นใดนอกเหนือจากที่บังคับใช้อยู่เดิม ตามข้อกำหนดฉบับที่ 42 ออกตามความในมาตรการ 9 ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่บังคับใช้สำหรับพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 44 จังหวัด ซึ่งรวมถึงจังหวัดลพบุรีด้วย
