วันที่ 25 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางแต๋ว อายุ 71 ปี อาชีพขายข้าวเกรียบปากหม้อ สาคูใส้หมู ต้องเร่งรีบเดินทางเดินเท้ากลับห้องเช่าเลขที่ 400/10 หมู่ 5 เขตเทศบาลตำบลนาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร อยู่หลังสถานีรถไฟสวี เพื่อดูแลนายภานุพงษ์ ลูกชายวัย 44 ปี พิการแขนและขาข้างซ้ายอ่อนแรงต้องนั่งรถเข็ญวีลแชร์ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หลังจากนางแต๋วแจ้งว่าเกิดจากลูกชายฉีดวัคซีนป้องโควิด-19 เข็มที่ 2 วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเยียวยา
นางแต๋ว ผู้เป็นแม่ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายของตนทำงานเป็นแมสเซนเจอร์หรือพนักงานขับรถจักรยานยนต์ส่งเอกสารของบริษัทเอกชนในกรุงเทพมหานคร ต่อมาได้เข้าผ่าตัดเส้นเลือดในสมองแตกในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และเมื่อประมาณ 9 เดือนก่อนได้กลับมาทำกายภาพบำบัดในโรงพยาบาลประจำอำเภอสวีและยังต้องเดินทางไปโรงพยาบาลที่เข้ารับการผ่าตัดในกรุงเทพฯตามแพทย์นัดเป็นเดือนละประมาณ 1-2 ครั้ง จนอาการแขนและขาข้างซ้ายสามารถเดินวิ่งทำกิจวัตรประจำวันได้เกือบหายเป็นปกติและกำลังจะกลับเข้าทำงานกับบริษัทเดิมที่ลาป่วยมา
ผู้เป็นแม่ เล่าอีกว่า ต่อมามีประกาศให้บุคคลที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็ม 1 ให้ไปรับการฉีดได้ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ลูกชายจึงได้เดินไปที่โรงพยาบาลสวีเพื่อฉีดเข็ม 1 (Astra Zeneca) แต่ก่อนฉีดได้แจ้งว่าลูกชายได้รับการผ่าตัดสมองมาจะฉีดได้หรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ ที่รอรับข้อมูลส่วนหน้าไม่ได้ตอบอะไรพร้อมกับชี้ให้ไปนั่งรอฉีดวัคซีน หลังจากฉีดเข็ม 1 ก็ยังไม่มีอาการผิดปกติแค่หน้ามืด วิงเวียนเล็กน้อย
ต่อมาเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 ได้เดินทางไปโรงพยาบาลสวี ฉีดวัคซีนเข็ม 2 (Comirnaty) ตามนัดในช่วงเช้า หลังฉีดได้กลับมาที่ห้องเช่าช่วงเย็นวันเดียวกันเกิดอาการ หน้าแดง ลำตัวแดง ชักกระตุก ลำตัวบิด ตาเหลือก นางแต๋วผู้เป็นแม่ได้ให้ห้องเช่าข้างๆโทรศัพท์ไปที่ 1669 โรงพยาบาลสวีจึงนำรถมารับนายภานุพงษ์ ส่งนอนรักษา 4 วันจึงกลับบ้าน แต่อาการกลับหนักขึ้นกว่าเดิมคือ แขน และขาซ้ายอ่อนแรง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
นางแต๋ว ผู้เป็นแม่ เล่าต่ออีกว่า ความเป็นอยู่ของตนและลูกชายตอนนี้มีความยากลำบาก อยากให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้วย ตอนนี้ตนยังต้องกู้เงินดอกเบี้ยร้อยละยี่สิบ เพื่อเช่าเหมารถตู้ไปหาหมอตามนัดที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ แต่ก่อนไปหาหมอที่กรุงเทพนั่งรถไฟไปเองได้ค่าใช้จ่ายไม่มากแต่หลังจากฉีดเข็ม 2 อาการแขนขาอ่อนแรงหนักกว่าเดิม นั่งรถเข็ญวีลแชร์จำเป็นต้องเช่ารถตู้ ตนมีรายได้จากการขายขนมข้าวเกรียบปากหม้อและสาคูใส้หมู ตั้งร้านอยู่บริเวณริมถนนหน้าสถานีรถไปสวี กำไรวันละประมาณ 300 บาท วันฝนตกก็ไม่ได้ขาย ขายจริงสัปดาห์ไม่เกิน 4 วันเท่านั้น และยังมีรายได้จากสวัสดิการรัฐคือเงินผู้สูงอายุ เดือนละ 600 บาท เงินผู้พิการ 800 บาท เนื่องจากตนเคยประสบอุบัติเหตุต้องผ่าตัดขาใส่เหล็กไว้เดินเหินก็ไม่สะดวก
ทั้งนี้นางแต๋วจึงวอนให้หน่วยงานรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้วยหรือโทร 080-663 6647

