"กลุ่ม 24 มิถุนา" ร้อง "กมธ.พัฒนาการเมือง" หลังถูกหมายเรียกวันสิทธิมนุษยชนสากล พร้อมสอบ"นายกฯ-ตำรวจ" ใช้พรก.ฉุกเฉินโดยสุจริตหรือไม่ จ่อเชิญ “ประยุทธ์-ประวิตร” แจง “อมรัตน์” ชี้ประเทศจะไปต่อได้ต้องปฏิรูปกฎหมาย-ตุลาการ เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 25 ก.พ.65 ที่รัฐสภา น.ส.เพลง ทัพมาลัย นายกองค์การบริหารนิสิตมหาลัยวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ตัวแทนกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ยื่นหนังสือต่อนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกลในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบการใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ฉุกเฉิน ในวันที่ 10 ธ.ค. 2564 โดยน.ส.เพลง กล่าวว่า พวกเราเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาฐานร่วมกันฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.64 เป็นวันสิทธิมนุษยชนสากลที่พวกเราได้ไปเรียกร้องสิทธิมนุษยชนให้กับประชาชนใน 7 ประเด็น เช่น การใช้มาตรา 112 กับประชาชน ซึ่งตลอดเวลาของการทำกิจกรรมในวันนั้น พวกเราสวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่างตามมาตรการของรัฐบาลที่ออกมา แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นได้มีการส่งหมายเรียกจากสน.นางเลิ้งมายังพวกเรา โดยระบุว่าพวกเรากระทำผิด ย้อนถามกลับไปว่าพวกเราไปเรียกร้องสิทธิซึ่งเป็นสิทธิของพวกเราอยู่แล้วเป็นความผิดหรือไม่ และการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ นอกจากนั้นยังมีการกล่าวอ้างว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินนำมาเพื่อป้องกันโควิดแต่ 2 ปีที่ผ่านมาก็ยังมีคนเสียชีวิต ซึ่งไม่ได้เป็นการป้องกันโควิดเลยแต่เป็นการนำมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นของประชาชน ฉะนั้นวันนี้จึงมายื่นหนังสือถึงกมธ.พัฒนาการเมืองให้ตรวจสอบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง ว่าใช้อำนาจโดยสุจริตหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมาย และขอให้ยับยั้งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งนี้ขอสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การบริหารราชการฉุกเฉิน ซึ่งพรรคก้าวไกลเป็นผู้เสนอให้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรก่อนจะประกาศต่อ ด้านนายณัฐชา กล่าวว่า จะเห็นได้ชัดว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ได้ใช้มาเพื่อควบคุมโรค แต่ใช้มาเพื่อควบคุมประชาชนไม่ให้ออกมาแสดงความคิดเห็น สังเกตได้จากการเข้าไปบุกจับหรือตรวจค้น ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆ เจ้าหน้าที่ก็ต่างกล่าวอ้างกฎหมายเกี่ยวกับพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ก็ไม่เคยใช้ระงับเหตุของโรคระบาด แม้กระทั่งในวันสิทธิมนุษยชนแท้ๆ มีกลุ่มประชาชนไปยื่นหนังสือกับยูเอ็นเพียง 10 คนเท่านั้น ก็ได้ใช้กฎหมายนี้ในการไปจับกุม ซึ่งเป็นการใช้กฎหมายเกินขอบเขต ซึ่งหากมองย้อนกลับไปในวันนี้สถานการณ์บ้านเราทางรัฐบาลเองก็ผ่อนปรนให้กับกลุ่มทุน นายทุน ในการประกอบการธุรกิจห้างร้านต่างๆ ให้ทำได้ปกติ แต่ประชาชน 5 คน 10 คนออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมกับใช้กฎหมายกว้างๆ แบบนี้ไปคุกคาม อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบไปติดตามตามบ้าน ทางกมธ.เองจะนำเรื่องนี้เข้ามาพิจารณาและจะเชิญพล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะที่ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยตรง ขณะที่นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะคณะทำงาน กมธ. กล่าวว่า สถานการณ์การใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาปราบปรามประชาชน ซึ่งเป็นพ.ร.ก.ที่ถูกออกแบบไว้ใช้เพื่อสถานการณ์ความมั่นคง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เรียกว่าเป็นการนำกฎหมายมาใช้อย่างผิดฝาผิดตัว และยังมีการนำกฎหมายที่เกี่ยวกับความมั่นคงมาใช้กับคดีความทางการเมืองมากถึง 1,767 คดี และเป็นการใช้พ.ร.ก.มากถึง 1,428 คดี เห็นได้ชัดว่านอกจากใช้กฎหมายผิดฝาผิดตัวแล้วยังนำมาใช้อย่างสองมาตรฐาน จะเห็นได้จากการชุมนุมในบางครั้ง เช่น ที่สนามหลวงมีผู้ชุมนุมอยู่สองฝั่ง คนละสีเสื้อ คนละจุดยืน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับอยู่ฝั่งเดียว เราจะเห็นได้ว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องปฏิรูปกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม รวมถึงสถาบันตุลาการ ไม่เช่นนั้นประเทศเราไปต่อไม่ได้