สร้างความตกใจเป็นอย่างหนัก สำหรับกรณีนักแสดงสาว แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ ได้พลัดตกจากเรือสปีดโบ๊ตกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนจะจมหายไป ซึ่งเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงดึกของวันที่ 24 ก.พ.65 ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการค้นหา แต่ก็ยังไร้วี่แววของดาราสาว
โดยทางเพื่อนของดาราสาว ได้เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 21.30 น. แตงโม นิดา และกลุ่มเพื่อน 3-4 คน ได้ล่องเรือสปีดโบ๊ต จากสะพานซังฮี้ลอดสะพานพระราม 7 มุ่งหน้า จ.นนทบุรี ก่อนมาถึงท่าเรือพิบูลสงคราม ซึ่งระหว่างนั้นแตงโมนั่งอยู่ที่ท้ายเรือ ก่อนที่จะพลัดตกลงไปกลางแม่น้ำเจ้าพระยาจมหายไปท่ามกลางความมืด กลุ่มเพื่อนจึงได้วกเรือไปตามหาแต่ไม่พบ
ต่อมาเวลา 22.00 น. เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูรับแจ้งจากประชาชนว่ามีหญิงสาวตกน้ำสูญหายภายในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณใกล้เคียงท่าเรือพิบูลสงคราม จังหวัดนนทบุรี ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับสะพานพระราม 7 เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้ามาตรวจสอบบริเวณจุดดังกล่าว
พบเรือสปีดโบ๊ทลำหนึ่งซึ่งภายในเรือมีชายและหญิงประมาณ 3-4 คน กำลังช่วยกันล่องเรือตามหาผู้สูญหาย ขณะเดียวกันได้มีเรือเจ็ตสกี ซึ่งมีดาราหนุ่ม บีม ศรัณยู มาร่วมล่องเรือค้นหาในบริเวณดังกล่าวด้วย
เวลา 01.00 น. นักประดาน้ำของร่วมกตัญญูชุดที่ 2 ได้ลงน้ำค้นหาเพิ่มร่วมกับทีมชุดแรก
ต่อมาเวลา 02.00 น. “เปิ้ลนาคร ศิลาชัย ดารา-นักแสดง และนักแข่งเจ็ตสกีแชมป์ประเทศไทย ได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ
"เปิ้ล นาคร" กล่าวว่า ถ้ามีชูชีพตนเชื่อว่า แตงโม รอด แต่ถ้าไม่ใส่ชูชีพก็ลำบาก อย่างไรก็ตามถึงตอนนี้ยังมีหวังว่า แตงโม จะยังมีชีวิต เขาอาจเกาะตามตอหม้อ เสาบ้านแต่ปีนขึ้นไม่ได้ และความมืดค่อนข้างเป็นอุปสรรคตนค่อนข้างคุ้นชินพื้นที่ในแม่น้ำเจ้าพระยาแถบนี้ ตนอยู่ที่นี่มาตลอด แต่ปัญหาที่พบคือเจ็ตสกี ลงในบริเวณนี้ยาก ถ้าจะลงต้องลงท่าน้ำนนท์ ตอนนี้จึงประสานเพื่อนกลุ่มเจ็ตสกี ที่มีบ้านติดริมแม่น้ำ ให้มาปฏิบัติการช่วยค้นหาด้วย
หลังจากนั้น เปิ้ล นาคร ได้สวมเสื้อชูชีพ ก่อนลงเจ็ตสกีเพื่อทำภารกิจช่วยค้นหาร่วมกับทีมนักประดาน้ำอยู่ประมาณ 30 นาที
และเมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 25 ก.พ. 65 เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำ เปิดเผยว่า แม่น้ำเจ้าพระยามีความลึกประมาณ 16 เมตร เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำมีทั้งหมด 30 นาย แบ่งเป็น 4 ทีม ต้องทำงานแข่งกับเวลา และแข่งกับกระแสน้ำ เนื่องจากในอีก 2 ชั่วโมง จะเป็นช่วงที่น้ำลง กระแสน้ำจะไหลแรง และเปลี่ยนทิศทาง ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการค้นหา
ช่วงประมาณ03.30 น. คุณแม่ของแตงโมเพิ่งทราบข่าว ก็มาที่เกิดเหตุเช่นเดียวกัน ก่อนเจอกับลูกชายที่มารออยู่ก่อนแล้ว แล้วได้โผเข้ากอดลูกชายทั้งน้ำตา คุณแม่บอกว่า หลังทราบข่าวก็โทรเช็คกับแม่บ้านแล้วก็รีบมาที่นี่ทันที แม่บอกว่า ช่วงเวลา 22.00 เมื่อวานนี้ อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกคิดถึงลูกสาวมาก แต่ก็ไม่ได้ไลน์หา ตอนนี้ก็หวังว่าน้องโมน่าจะเอาตัวรอดได้ เพราะน้องว่ายน้ำเก่งตั้งแต่เป็นวัยรุ่น
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้วางทุ่นจากฝั่งด้านสะพานพระราม 7 ไปทาง จ.นนทบุรี โดยใช้สายยืดกั้นข้างละ 6-8 เมตร ทั้งฝั่งขวาและซ้าย จำนวน 2 ทุ่น ความยาวช่วง 100 เมตร โดยจะงมค้นหาทีละช่วง ช่วงละประมาณ 20 นาที หากไม่เจอก็จะขยับแนวอีกครั้ง และขึ้นมาวางแผนการค้นหากันใหม่ ขณะนี้กระแสน้ำขึ้นจนใกล้นิ่งแล้ว หากน้ำนิ่งจะง่ายกับการทำงาน แต่ถ้าน้ำเปลี่ยนทิศทาง เราต้องโยกเปลี่ยนทิศทางการค้นหาใหม่ทั้งหมด จึงต้องเร่งค้นหาให้พบภายใน 2 ชั่วโมง
กระทั่งปฏิบัติค้นหาตัวดาราสาวน้องแตงโมได้ดำเนินมาถึงช่วงเช้า ที่ท่าเรือพิบูลสงคราม ถนนพิบูลสงคราม ซึ่งบรรยากาศมีเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำนำกำลังค้นหาในจุดดาราสาวตกจาก เรือสปีดโบ๊ท เมื่อคืนที่ผ่านมาซึ่งในขณะนี้ผ่านไป 7-8 ชั่วโมงแต่ยังไม่พบร่างของดาราสาว
ต่อเรื่องนี้นาย อรรณพ เรืองปราชญ์ อายุ 64 ปี ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ริมแม่น้ำใกล้กับที่เกิดเหตุเล่าว่า เหตุการณ์เมื่อคืนไม่น่าเกิดเหตุเพราะเมื่อคืนคลื่นก็ไม่มี คงเป็นเพราะเรือพวกเดียวกันที่วิ่งแล้วทำให้เกิดคลื่นอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เพราะจะมีกลุ่มเรือเจ็ทสกีเขาจะวิ่งเล่นกันตอนกลางคืน ฉะนั้นหากเป็นเรือสปีดโบ้ทก็อาจจะทำให้หงายหลังได้ ส่วนตัวแล้วติดตามข่าวสารแตงโมมาโดยตลอด ชีวิตเขาค่อนข้างอาภัพ หลังจากเสียคุณพ่อตัวเองก็มาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อีก มาตอนนี้ก็ยังไม่รุ้ว่าจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ว่าเสียชีวิตรึยังเพราะว่าหายไปนานตั้งแต่4ทุ่มจนถึงตอนนี้ใช้เวลาประมาณเกือบ 8 ชั่วโมงแล้ว และโอกาสที่จะรอดคงจะยากเพราะจุดที่เขาหล่นลงไปเป็นร่องน้ำ ซึ่งในแม่น้ำจะมีระดับตื้นและลึกในส่วนลึกก็จะเป็นร่องน้ำมีความคดเคี้ยว และจะเป็นน้ำที่ไหลแรงอาจจะไปตามกระแสน้ำก็ได้ จริงๆแล้วแถวนี้ก็เคยมีเด็กว่ายน้ำข้ามแล้วก็จมก็ต้องรอให้เขาลอยขึ้นมาเองถึงจะเจอ โอกาสจะเจอก็มีเฉพาะแถวๆชายฝั่ง ทั้งนี้จุดเกิดเหตุมันเกิดกลางแม่น้ำมันก็เลยเป็นอุปสรรคเพราะตอนเช้าจะมีเรือขนส่ง เรือด่วนเจ้าพระยา รวมถึงอะไรต่ออะไรอีกเยฮะ มันก็เลยเป็นอุปสรรคที่ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยทำงานได้ไม่เต็มที่


