วันที่ 23 กุมภาพันธ์ นายหรรษา เทียนส่งรัศมี ชาวบ้าน ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นำรายชื่อชาวบ้านยื่นให้นายประสิทธิ์ ภู่งาม นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ( อบต.)แม่รำพึง เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบทบทวนโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งความยาว 900 เมตร ใช้งบสร้าง 79 ล้านบาท ที่บ้านปากคลอง – กลางอ่าว หมู่ 5 ริมหาดแม่รำพึง โดยขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ สามารถป้องกกันการกัดเซาะได้อย่างมีประสิทธิภาพ พื้นที่ชายหาดไม่มีผลกระทบจากการก่อสร้างในระยะยาว นายหรรษา กล่าวว่า กรมโยธาธิการและผังเมืองควรทบทวนโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งหาดแม่รำพึง เนื่องจากแบบแปลนที่กำหนด เป็นแบบขั้นบันไดไม่น่าจะมีความเหมาะสมกับสภาพชายหาด ชาวบ้านขอให้ปรับแบบให้มีความเหมาะสมกับสภาพชายหาด เช่น ด้านหน้า อบต.แม่รำพึง ที่มีลักษณะเป็นป่าโกงกาง หรือจะเป็นแบบแปลนที่ จ.สมุทรปราการ เนื่องจากการสร้างเขื่อนแบบขั้นบันได เชื่อว่าจะทำให้ระบบนิเวศชายฝั่งมีผลกระทบ ชายฝั่งถูกกัดเซาะหนักกว่าเดิม นอกจากนี้ขั้นตอนการนำเสนอโครงการฯไม่ทั่วถึง ชาวบ้านใน ต.แม่รำพึง มีกว่า 7,000 คน แต่ที่ผ่านมาอ้างว่าชาวบ้านเห็นด้วย 99% เมื่อตรวจสอบผู้เห็นด้วยพบว่ามี 71 ราย ขณะที่ชาวบ้านไม่ได้คัดค้านโครงการฯ แต่ต้องการให้มีการสำรวจและมีการปรับรูปแบบการก่อสร้างให้มีความเหมาะสม ด้านนายประสิทธิ์ ภู่งาม นายก อบต.แม่รำพึง กล่าวว่า ชายหาดแม่รำพึงมีความยาว 3.9 กิโลเมตร ( กม.) โครงการฯ ที่อนุมัติงบระยะแรกความยาว 900 เมตร ส่วนกรณีที่ชาวบ้านมายื่นเรื่องคัดค้านโครงการฯมีปัญหาจุดที่ก่อสร้างโครงการไม่ตรงตามที่แจ้งไว้, การรับรู้ของชาวบ้านไม่ทั่วถึง, ขอให้มีการจัดทำประชาคมใหม่ ต่อมา อบต. จึงเปิดเวทีให้ผู้ทำโครงการฯกับชาวบ้านที่ร้องคัดค้าน ได้หารือแนวทางที่ชัดเจนที่หอประชุม อบต. แต่เวทีดังกล่าวยังไม่ได้ข้อสรุป คาดว่าจะต้องมีการพูดคุยอีกหลายครั้งเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การทำโครงการที่อาจมีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมในระยะยาว จะต้องเปิดรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะ ผู้เกี่ยวข้องไม่ควรตั้งข้อสังเกตว่าหากชาวบ้านคัดค้านจะต้องมีเบื้องหลัง ทั้งนี้ที่ผ่านมาการสร้างเขื่อนของกรมโยธาธิการฯในหลายจังหวัดมีการทำกิจกรรมต่อต้านที่รุนแรง เนื่องจากถูกมองว่าการทำโครงสร้างแข็ง ไม่น่าจะป้องกันการกัดเซาะในพื้นที่ชายฝั่งทะเลและไมได้แก้ปัญหาในระยาว สำหรับ อ.บางสะพานหากชาวบ้านเห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรีบเดินหน้า โดยไม่รับฟังความเห็นรอบด้าน ก็สามารถยื่นร้องต่อศาลปกครองได้