ขณะที่ยอดป่วยอาการหนักปอดอักเสบวันนี้เพิ่มขึ้นเป็น 882 ราย ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้นเป็น 229 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้พบ 21,232 ราย มาจากต่างประเทศ 168 ราย แต่เมื่อรวมกับผู้ป่วยจากการตรวจ ส่วนผู้ป่วยเข้าข่ายจากการตรวจ ATK วันนี้พุ่งสูงทำสถิติใหม่ดีดไปที่ 16,890 ราย จะมีผู้ติดเชื้อรวมพุ่งสูงทำสถิติใหม่ถึง 38,122 ราย วันนี้ยอดผู้ป่วยอาการหนักปอดอักเสบเพิ่มขึ้นอีกเป็น 882 ราย ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้นเป็น 229 ราย ผู้เสียชีวิต 39 ราย ป่วยติดเตียงถึง 1 รายทั้งนี้กลุ่มเสี่ยงเสียชีวิตส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มโรคเรื้อรัง และส่วนใหญ่ติดเชื้อจากคนใกล้ชิด สำหรับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุด คือ กทม. จำนวน 3,079 รายซึ่งเพิ่มจากเมื่อวาน และพบการเสียชีวิตกระจายในทุกภาคทั่วไทย พบสูงสุดในกทม. 9 ราย ส่วนยอดติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง มีจำนวน 160 ราย รักษาหาย 16,662 ราย ยังรักษาอยู่ 173,605 ราย  วันที่ 23 ก.พ.2565  ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 21,232 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 21,064 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 168 ราย ติดเชื้อในประเทศ (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพสูงถึง 20,839 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 65 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 160 ราย)  รวมยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63  รวม 2,770,793 ราย อย่างไรก็ตามหากรวมยอดผู้ป่วยจากการตรวจ ATK จำนวน 16,890 ราย ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จะมี 38,122 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 39 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 22,730 ราย หายป่วยอีก 16,662 ราย รวมยอดรักษาหาย 2,574,458 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 173,605 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.71,414 ราย ในรพ.สนาม/HI-CI 102,191 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 882 ราย มีผู้ป่วยหนักนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 229 ราย สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต จำนวน 39 ราย พบเป็นคนไทย 37 ราย เมียนมา กัมพูชา ประเทศละ 1 ราย เป็นเพศชาย 20 ราย เพศหญิง 19 ราย อายุ 28-95 ปี พบทุกภาคทั่วไทย มากสุดในกทม.9 ราย โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความรุนแรงของโรคและเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตพบ 31 รายอายุ 60 ปีขึ้นไป และอายุน้อยกว่า 60 ปีแต่มีโรคเรื้อรัง 4 ราย อายุน้อยกว่า 60 ปีไม่มีโรคเรื้อรัง 5 ราย ส่วนผู้ป่วยติดเตียงยังมีการรายงานเสียชีวิตต่อเนื่องวันนี้พบ 1 ราย อย่างไรก็ตามผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ติดเชื้อจากบุคคลใกล้ชิด หรือคนรู้จัก และอาศัยในพื้นที่เสี่ยง