วันที่ 22 ก.พ.65 ที่ บช.ภ.4 พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.4/โฆษกภ.4 เปิดเผยถึงกรณีมีการเสนอข่าว "ญาติคาใจ หนุ่มตายปริศนาริมป่า" ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ สภ.เกษตรวิสัย ภ.จว.ร้อยเอ็ดว่า เมื่อวันที่ 20 ก.พ.65 เวลาประมาณ 18.00 น. นายกมล เทียมปาก อายุ 34 ปี ผู้ตาย มาที่ สภ.เกษตรวิสัย แจ้งว่า ตนเองถูกพวกกลุ่มคน 50-60 คน ไล่ทำร้ายอยู่บริเวณสามแยกที่ว่าการอำเภอเกษตรวิสัย ด.ต.ยุทธพงษ์ จันหัง และ ด.ต.ศักย์พิรุฬห์ ดีสุหร่าย ตำรวจสายตรวจซึ่งขณะนั้นอยู่ในห้องรับแจ้งความทราบ จึงพร้อมกันไปตรวจยังที่รับแจ้งปรากฏว่า ไม่พบกลุ่มคนแต่อย่างใด ร.ต.อ.พลายชุมพล จันทวิมล ร้อยเวรสอบสวน ได้สอบถามพูดคุยกับผู้ตายจึงทราบว่าผู้ตายเป็นราษฏร์บ้านน้ำอ้อม ต.น้ำอ้อม อ.เกษตรวิสัยฯ เพิ่งเสร็จจากไปเยี่ยมบิดาที่ป่วยที่รพ.ร้อยเอ็ด กำลังรอญาติมารับกลับบ้าน ด.ต.อรัญธรรม วรสุทธิ์ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่สถานีตำรวจฯรับโทรศัพท์จากนางรำไพ แท่นประทุม ญาติคนตายบอกว่ากำลังจะให้นางตุ๊กตา สินธุชล ญาติของผู้ตายอีกคนหนึ่งมารับผู้ตายที่สถานีตำรวจฯ จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.45 น. ก็ยังไม่มีญาติมารับผู้ตายแต่อย่างใด จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. ร.ต.อ.พลายชุมพล ได้สั่งการให้ ด.ต.อรัญธรรมฯ และ จ.ส.ต.พลวัฒน์ สีกูก่า ทำหน้าที่พลขับรถยนต์ร้อยเวรสอบสวน อำนวยความสะดวกช่วยพาผู้ตายไปส่งที่บ้านพัก โดยผู้ตายบอกกับตำรวจว่าตนเองเจ็บคอและไอมาก เพื่อเป็นการป้องกันโควิดจึงได้ให้ผู้ตายนั่งอยู่ที่กระบะรถ เมื่อมาถึงสี่แยกบ้านน้ำอ้อม ภายในหมู่บ้าน ต.น้ำอ้อม พบเห็นกลุ่มวัยรุ่นจับกลุ่มจอดรถจักรยานยนต์กันอยู่ริมถนน จึงจอดรถยนต์สายตรวจเพื่อสังเกตุการณ์ดูกลุ่มวัยรุ่นนี้แต่เมื่อลงมาจากรถมองไปที่กระบะก็ไม่พบผู้ตาย ได้เดินตามหาผู้ตายแล้วก็ไม่พบ ขณะนั้นคิดว่า ระหว่างที่จอดรถ ผู้ตายคงจะลงจากกระบะเดินกลับบ้านไปแล้ว จึงได้พากันกลับมาที่สถานีตำรวจฯ จากการสอบสวนนางรำไพ ทราบว่า ระหว่างที่ผู้ตายอยู่กระบะรถยนต์คันที่ตำรวจกำลังขับไปส่ง ผู้ตายได้โทรหาและบอกว่า ขณะที่นั่งอยู่ที่กระบะรถนี้มีคนยิงปืนไปที่กระบะที่ผู้ตายนั่งอยู่หลายนัด ผู้ตายกลัวและกำลังหลบอยู่และจากกล้องวงจรปิดที่สถานีตำรวจ จะสังเกตุได้ว่าผู้ตายอยู่ในอาการทางประสาทหรือที่เรียกว่า"หลอน" และเห็นได้ส่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือ ใส่ใจในสิ่งที่ผู้ตายมาแจ้งเป็นอย่างดี ไม่มีการควบคุมตัวและใส่เครื่องพันธนาการใดๆแต่อย่างใด ตำรวจทุกนายไม่เคยรู้จักและมีสาเหตุโกรธเคืองใดๆกับผู้ตายมาก่อน พร้อมกันนั้นยังอำนวยความสะดวกพาผู้ตายไปส่งยังบ้านพักให้ แต่อย่างไรก็ตามได้กำชับให้ พ.ต.อ.วินทุ ฝังใจ ผกก.สภ.เกษตร วิสัย สั่งการ ควบคุม กำกับ ดูแลคดีนี้ให้รวดเร็ว สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆอย่างละเอียด นอกจากส่งศพผู้ตายไปตรวจชันสูตรพลิกศพที่ รพ.ร้อยเอ็ด แล้วก็ให้ส่งไปที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อตรวจชันสูตรพลิกศพอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้ทราบถึงสาเหตุการตายให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ประกอบในการรวบรวมพยานหลักฐาน และหากปรากฏว่า มีผู้ทำให้ตาย ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดอย่างเด็ดขาดแน่นอน