วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 13.30 น. ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา นายธนานนท์ ชูชื่น นายกเทศมนตรีตำบล ( ทต.) สระพระ อ.พระทองคำ ฯ ได้นำเกษตรกรชาวไร่อ้อย พื้นที่ อ.พระทองคำ 10 คน ยื่นหนังสือร้องเรียน บริษัทน้ำตาลระยอง จำกัด ( ชัยภูมิ) อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ได้รับอ้อยจากเกษตรกรแล้วไม่จ่ายเงินค่าอ้อย ให้เกษตรกร ในฤดูกาลผลิตปี 2565 โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งเสริมอ้อยที่ 7 ตั้งอยู่บ้านสระพระ หมู่ 11 ต.สระพระ อ.พระทองคำ บริษัทน้ำตาลระยอง จำกัด (ชัยภูมิ) ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเบิกจ่ายเงินให้เกษตรกร ตามที่บริษัทฯออกบิลใบเสร็จรับเงินแก่เกษตรกร เมื่อเกษตรกรนำมาขึ้นเงิน แต่ไม่ดำเนินการจ่ายในช่วงผลผลิตเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมา ทำให้เกษตรกรกว่า 20 ราย ได้รับความเดือดร้อน เสียหายเป็นเงินรวมกว่า 6 ล้านบาท โดยมีนายวัชรพงษ์ จิโสะ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม จ.นครราชสีมา เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ
นายธนานนท์ ฯ นายก ทต.สระพระ อ.พระทองคำ กล่าวว่า ได้ประสานงานติดต่อหน่วยงานราชการ พร้อมนำเกษตรกร มาร้องเรียนเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากเรื่องนี้เป็นปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรในท้องถิ่น มิอาจนิ่งนอนใจได้
นางบัวคลี่ บุญสันเที๊ยะ อายุ 60 ปี ตัวแทนชาวไร้อ้อย อ.พระทองคำ กล่าวว่า พื้นที่เพาะปลูกของเกษตรชาวไร่อ้อย อ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา อยู่ห่างจากโรงงานน้ำตาลของบริษัท ฯ ประมาณ 10 กม. ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 3 ปี ไม่เคยเกิดปัญหาขึ้น มีการโอนเงินเข้าบัญชีของเกษตรกรทันทีเมื่อนำบิลไปขึ้นเงิน กับเจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งเสริมอ้อยที่ 7 ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนบริษัทฯ กระทั่ง การส่งผลผลิตเมื่อเดือนมกราคม ปีนี้ เกษตรกรหลายรายถูกเบี้ยวค่าอ้อย สำหรับตน ได้รับความเสียหาย 52,700 บาท ถือว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับพี่น้องชาวไร่อ้อยคนอื่นที่ประสบปัญหาเดียวกันรายละหลายหมื่นบาทขึ้นไป สูงสุด 765,000 บาท ล่าสุดมีผู้เสียหายกว่า 20 ราย มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท
โดยมีการพยายามติดต่อสอบถามบ่อยครั้ง เนื่องจากมีความจำเป็นต้องนำเงินมาใช้จ่ายลงทุนค่าปุ๋ย ค่าแรงงาน และเลี้ยงครอบครัว แต่ทางบริษัท ฯ ได้บายเบี่ยงมาตลอด ต่อมาเมื่อวันที่ 23 มกราคม บริษัทได้ออกประกาศแจ้งบุคคลพ้นสภาพการเป็นพนักงาน โดยให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาของชาวไร่อ้อย ออกจากการเป็นพนักงานบริษัทฯ การกระทำนี้รู้สึกว่า บริษัทไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ปล่อยให้เป็นภาระของเกษตรกรต้องวิ่งเต้นร้องขอความเป็นธรรม ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องพากันมาร้องเรียนต่อหน่วยงานราชการให้เข้าช่วยเหลือ
ด้านนายวัชรพงษ์ ฯ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ได้รวบรวมปัญหาและข้อร้องเรียน เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้รับทราบ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมที่สุด สำหรับเรื่องนี้เป็นข้อพิพาทระหว่างเอกชนด้วยกัน แต่มิได้เพิกเฉยแต่อย่างใด เบื้องต้นเตรียมประสานงานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา ในการช่วยเหลือด้านกฎหมายแพ่ง และอาญาต่อไป
นางบัวคลี่ บุญสันเที๊ยะ อายุ 60 ปี ตัวแทนชาวไร้อ้อย อ.พระทองคำ กล่าวว่า พื้นที่เพาะปลูกของเกษตรชาวไร่อ้อย อ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา อยู่ห่างจากโรงงานน้ำตาลของบริษัท ฯ ประมาณ 10 กม. ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 3 ปี ไม่เคยเกิดปัญหาขึ้น มีการโอนเงินเข้าบัญชีของเกษตรกรทันทีเมื่อนำบิลไปขึ้นเงิน กับเจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งเสริมอ้อยที่ 7 ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนบริษัทฯ กระทั่ง การส่งผลผลิตเมื่อเดือนมกราคม ปีนี้ เกษตรกรหลายรายถูกเบี้ยวค่าอ้อย สำหรับตน ได้รับความเสียหาย 52,700 บาท ถือว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับพี่น้องชาวไร่อ้อยคนอื่นที่ประสบปัญหาเดียวกันรายละหลายหมื่นบาทขึ้นไป สูงสุด 765,000 บาท ล่าสุดมีผู้เสียหายกว่า 20 ราย มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท
โดยมีการพยายามติดต่อสอบถามบ่อยครั้ง เนื่องจากมีความจำเป็นต้องนำเงินมาใช้จ่ายลงทุนค่าปุ๋ย ค่าแรงงาน และเลี้ยงครอบครัว แต่ทางบริษัท ฯ ได้บายเบี่ยงมาตลอด ต่อมาเมื่อวันที่ 23 มกราคม บริษัทได้ออกประกาศแจ้งบุคคลพ้นสภาพการเป็นพนักงาน โดยให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาของชาวไร่อ้อย ออกจากการเป็นพนักงานบริษัทฯ การกระทำนี้รู้สึกว่า บริษัทไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ปล่อยให้เป็นภาระของเกษตรกรต้องวิ่งเต้นร้องขอความเป็นธรรม ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องพากันมาร้องเรียนต่อหน่วยงานราชการให้เข้าช่วยเหลือ
ด้านนายวัชรพงษ์ ฯ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ได้รวบรวมปัญหาและข้อร้องเรียน เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้รับทราบ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมที่สุด สำหรับเรื่องนี้เป็นข้อพิพาทระหว่างเอกชนด้วยกัน แต่มิได้เพิกเฉยแต่อย่างใด เบื้องต้นเตรียมประสานงานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา ในการช่วยเหลือด้านกฎหมายแพ่ง และอาญาต่อไป