เกิดปรากฎการณ์แปลกในธรรมชาติขึ้นที่แม่น้ำกระบุรี กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านหลายหมู่บ้าน ร่วม 50 ลำ แห่จับปลาทู ที่ว่ายจากทะเลอันดามัน เข้ามาในแม่น้ำกระบุรี ร่วม50กม. ตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา และนำไปจำหน่ายให้กับชาวบ้านในพื้นที่ อ.กระบุรี จ.ระนอง ในราคา 3 กิโลกรัม/100บาท ซึ่งเหตุการณ์ปลาทูจากทะเลเข้ามาในพื้นที่น้ำกร่อย ที่น้ำทะเลเข้าถึง ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา18.00 น. เมื่อเย็นที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า มีชาวประมงพื้นบ้านในหลายหมู่บ้าน จาก 3 ตำบล คือ ต.บางใหญ่ ต.ลำเลียง และ ต.น้ำจืด อ.กระบุรี จ.ระนอง สามารถ จับปลาทูไม่ทราบสายพันธุ์ ขนาดไม่ใหญ่เหมือนกับปลาทูจากทะเลอันดามัน ที่มีจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไป ได้ในแม่น้ำกระบุรี พรมแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศเมียนมาร์ได้จำนวนมาก ตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา จึงเดินทางไปตรวจสอบกับพี่น้องชาวประมงในพื้นที่ อ.กระบุรี ทันที
ปรากฎการณ์ ฝูงปลาทูจำนวนมาก หลงเข้ามาในแม่น้ำกระบุรี หรืออีกชื่อหนึ่งของคนในท้องถิ่นว่า แม่น้ำปากจั่น ภาษาพม่าเรียก แม่น้ำจัน เป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า มีความยาวตลอดสายประมาณ ร่วม 100 กิโลเมตร มีต้นน้ำมาจากเทือกเขาตะนาวศรี ไหลผ่านพื้นที่อำเภอกระบุรี อำเภอละอุ่น และ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง
นายวัชรินทร์ หรือ เอ คงยั่งยืน ชาวประมงพื้นบ้านตำบลน้ำจืด ได้พาผู้สื่อข่าวร่วมลงเรือหางยาว เพื่อไปพิสูจน์ทราบว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่ ซึ่งในยามเย็นใกล้ค่ำ ก่อนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า และเป็นช่วงคืนข้างแรม 1 ค่ำเดือน 3 ชาวบ้านจะเรียกห้วงนี้ว่าห้วงน้ำใหญ่ มีน้ำทะเลหนุนขึ้นสูงตลอดสัปดาห์ และมีกลุ่มเรือประมงพื้นบ้าน จำนวนร่วม 50 ลำ ต่างแล่นเรือ มุ่งหน้าไปในเขตพื้นที่พบกล่มปลาทู จำนวนมาก ในคุ้งน้ำเขต ต.บางใหญ่ ระยะกว้างร่วม 1-2 ตารางกิโลเมตร โดยธรรมชาติของระบบนิเวศชายฝั่งลำน้ำกระบุรี ยังอุดมสมบูรณ์ เป็นแนวชายป่าโกงกาง ซึ่งมีความหลากหลายในพื้นที่ สามารถพบนกกระยางบินหากินสัตว์เล็กๆ ทั้งลูกปลาและหอยในพื้นที่ ตลอดจนตัวนาก สัตว์ประจำถิ่นที่ปรากฎให้เห็น ตลอดลำน้ำกระบุรี
ก่อนจะเริ่มลงอวนลอย 1 หัว ที่เตรียมมา ความยาว 180 เมตร ไปในกลางลำน้ำ ซึ่งจะอยู่พิกัดใดก็ได้ ก็สามารถดักปลาทูได้ นายวัชรินทร์ กล่าวว่า ตรงไหนมีน้ำ ตรงนั้นมีปลา ซึ่งปลาทูจะขึ้นไปทั่วหมด ในพิกัดนี้ ขอให้มีแรงเพียงอย่างเดียว อยู่มาจะ 50 ปีแล้ว ไม่เคยปรากฏว่ามีปลาทูเคยขึ้นมาถึงกลางลำน้ำกระบุรี ไม่นึกว่าจะขึ้นมาให้จับถึงที่นี้ ก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกัน แม้จะอยู่ห่างจากปากลำน้ำกระบุรี ที่ติดทะเล ระยะทางยาวร่วม 50 ก.ม. ตอนแรกเพื่อนชาวประมงพื้นบ้านบอกไม่เชื่อจึงมาดูด้วยตนเองปรากฎว่าเป็นจริง และปลาทุที่จับได้ลักษณะตัวไม่เหมือนกับปลาทูที่อื่นด้วย ยังไม่รู้ว่าเค้าเรียกปลาทูอะไร ไม่เหมือนกับปลาทูทาง จ.ชุมพร ในอ่าวไทย และปลาทู ในระนอง ที่มีตัวขนาดใหญ่กว่า แต่ปลาทูที่พบ เป็นตัวขนาดสวย กินแล้วมัน
หลังจากวางอวนลอยดักปลาผิวน้ำเสร็จใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที สามารถสาวอวนกลับขึ้นมาบนเรือได้ทันที และเป็นเวลาพลบค่ำพอดี พระจันทร์เต็มดวงขึ้นมาทางแนวขอบเทือกเขาทางทิศตะวันตกจากฝั่งไทย มองเห็นได้ชัดเจน โดยอวนที่สาวเก็บขึ้นมาจะเด็ดปลาทูที่ติดอวนออกทันที ขนาด 20 ตัว / 1 กก. สดมากๆ ลำตัวสีเงินสะท้อนแสง หางสีเหลือง ตาวาว
นายวัชรินทร์ ยังกล่าวอีกว่า เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาได้มีฝูงปลาทูได้เข้ามาในแม่น้ำกระบุรี ที่ตนหากินอยู่ตามแถบนี้ ไม่เคยพบเห็นมาก่อน อยู่มาหลายสิบปี ไม่เคยปรากฎเห็นมาก่อน ถือเป็นเรื่องแปลก พอมาดูก็ปรากฎว่าเป็นจริง ก่อนหน้าเคยพบปลาฉลาม ปลากระเบนน้ำเค็มบ้าง ที่เคยได้มา ทั้งเพื่อนๆพี่ๆชาวประมงพื้นบ้าน ก็จะจับกันได้ประมาณ 50 กก.-100 กก.บ้าง นำไปจำหน่ายในราคา 3 กก./100 บาท ก็ได้ไปแบ่งกันทานในยามที่หมูราคาแพง มีปรากฏอยู่ตลอดทั้งห้วงกลางวันและการคืน ทั้งในเวลาน้ำขึ้นและน้ำลง ยังปรากฏให้เห็น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ในสังคมออนไลน์จังหวัดระนอง มีการกล่าวถึงปรากฎการณ์นี้กันต่างๆนานๆ เช่น นกหนีตาย ปลาโลมาหนีเข้าฝั่ง ปลาทูหนีขึ้นน้ำกร่อย ผมว่า 2-3 วันที่ผ่านมาแปลกแล้ว ฝนตกน้ำท่วม แผ่นดินขาด ซึ่งถ้าย้อนหลังเดือนกุมภาพันธ์ไปสัก 30 ปี เคยมีมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง สนามแม่เหล็กกำลังกลับขั้วหรือเปล่า จึงทำให้ระบบการนำทางของปลาเกิดความผิดพลาด เป็นต้น




