นายกฯปลื้มสหรัฐฯชื่นชมไทยแก้ปัญหาค้ามนุษย์ ประมงผิดกฎหมาย ผู้ลี้ภัย พร้อมย้ำจุดยืนแก้ปัญหาไม่ว่าใครอยู่แผ่นดินไทยต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ยึดหลักสิทธิมนุษยน เผย ปัจจุบันให้ที่พักพิงหนีภัยสงครามอยู่ที่ 1 แสนคน เร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย เมื่อวันที่ 23 ก.ย.เวลา 20.15 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ที่ได้บันทึกเทประหว่างปฏิบัติภารกิจในการเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 71 ประเทศสหรัฐอเมริกา ถึงบทบาทไทยในการแก้ปัญหาผู้ลี้ภัยว่า เราได้ทำทุกอย่างตามพันธะสัญญาโลก คนกว่า 65 ล้านคนต้องพลัดถิ่น ในจำนวนนี้ กว่า 21 ล้านคนเป็นการโยกย้ายถิ่นฐานที่ไม่ปกติ ไม่สมัครใจ อาทิเช่น จากภัยสงครามความยากจน อะไรต่างๆ เป็นภาระหนักของประเทศนั่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศแรกรับหรือประเทศกลางทาง ไทยอยู่ในฐานะประเทศกลางทาง อพยพผ่านเราไปที่อื่น เราตกอยู่ในสภาวะนั้นมากว่า 40 ปีมาแล้ว คนไร้สัญชาติกว่าล้านคนวันนี้กลายเป็นคนไทยไปบ้างแล้ว ปัจจุบันได้ให้ที่พักพิงแก่ผู้หนีภัยการสู้รบจากชายแดนนอกบ้านเราแล้วประมาณ 1 แสนคน ลดเมื่อจาก 30 ปีที่แล้ว ที่มีอยู่เกือบ 5 ล้านคน ไม่นับรวมผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติอีกกว่า 3 ล้านคน รวมถึงแรงงานต่างด้าว ทั้งนี้ ถือเป็นภาระถ้าหากว่าต้องดูแลนานๆ วันนี้เราต้องจัดงบประมาณของประเทศประมาณ 180 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ที่สำคัญเรื่องของกฎหมายต้องปรับปรุงบังคับใช้กฎหมาย อย่างการออกสูติบัตรรับรองเด็กเกิดใหม่ในพื้นที่พักพิง ขจัดปัญหาบุคคลไร้รัฐ ไร้สัญชาติ และกำลังพิจารณาพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย อันนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ในเวทีโลกเขาให้ความสำคัญอยู่เพื่อไม่ส่งบุคคลกลับไปสู่อันตราย ส่วนพวกที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย จะส่งกลับเราดูต้นทาง มีการพิสูจน์สัญชาติ เพื่อไม่ให้มีปัญหาขัดแย้ง จัดทำระบบคัดกรองให้เป็นมาตรฐานสากล สำคัญอย่าแยกครอบครัวเค้า เพื่อลดความเสี่ยงของการตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ เดิมถ้าเป็นของประเทศไหน ต้องส่งกลับไปเลย แต่คดีมันยังไม่จบก็ยุติไม่ได้ ก็อนุญาตให้เค้าอยู่ แล้วก็สามารถทำงานได้อย่างถูกกฎหมายจนกว่าคดีจะสิ้นสุด โดยให้มีการขยายเวลาไปเป็น 1 ปี แต่ไม่เกิน 2 ปี เพื่อให้ยุติคดีโดยเร็ว "จุดยืนของเรา ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามอยู่ในแผ่นดินไทยเราต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ต้องดูแลเค้าด้วยหลักสิทธิมนุษยชน ต้องแก้ปัญหาที่ต้นทาง ก็คือประเทศที่มีความยากลำบาก มีสงคราม ประชาชนเขาเดือดร้อน เขาต้องอพยพไงนั่นหละคือประเทศต้นทาง เราจะแก้เขาอย่างไร ต้องแก้ด้วยการพัฒนายุติความขัดแย้ง สร้างพื้นที่ปลอดภัย สร้างพื้นที่การพัฒนาให้เขาอยู่ให้เขาดูแลกันเองให้ได้ โดยประเทศภายนอกก็ส่งเงินทุนกองทุนไปให้เขา ให้เขาดูแลตัวเองให้ได้แล้วกัน และไทยฐานะประเทศปานกลางต้องดูว่าเป็นภาระมากเกินไปหรือเปล่า ต้องมีระบบคัดกรอง ป้องกันค้ามนุษย์ และใช้ไทยเป็นที่สะสมพักคอย ทั้งนี้ สหรัฐฯโดยนายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ขอบคุณประเทศไทยใน 3 เรื่อง คือ1.มาตรการดูแลผู้ลี้ภัยไม่ปกติและการเข้าร่วมสุดยอดระดับผู้นำด้านผู้ลี้ภัยของประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2.การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และประมง และ3.ประเทศไทยได้ลงสัตยาบันในสัญญาปารีสในการลดโลกร้อน ซึ่งนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯขอบคุณผ่านนายแดเนียน รัสเซลล์ ให้ส่งข่าวถึงตนขอชื่นชมในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ของไทย รวมความไปถึงเรื่องการค้ามนุษย์ด้วย ที่เราแก้ได้ดี และในเรื่องของ IUU มีการพัฒนาตามลำดับ นายกฯ ห่วงระบายน้ำออกนอกพื้นที่ช่วงสภาพอากาศเปลี่ยน กำชับจนท.ดูแลปชช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการบริหารจัดการน้ำเท่าทีมีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งทุกปีจะต้องมีการจ่ายค่าเยียวยาจำนวนมาก ขณะที่สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ตนก็เป็นห่วงเรื่องการระบายน้ำออกนอกพื้นที่ ซึ่งไม่ใช่การระบายน้ำทิ้ง แต่ต้องหาที่กักเก็บเพื่อไว้ใช้ในช่วงที่น้ำแล้ง ขณะเดียวกันได้สั่งงานให้ดูแลประชาชนไม่ให้เดือดร้อน จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ออกไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย และฟื้นฟูความเสียหายโดยด่วน ย้ำจนท.เร่งหาตัวเด็กหายภัยเงียบสังคม ขอผู้ปกครองดูแล ช่วยกันเป็นหูเป็นตา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องภัยเงียบ อาจจะเคยได้ยินชื่อ ด.ญ.จีรภัทร ทองชุม หรือ “น้องจีจี้” เมื่อ 18 กันยายนที่ผ่านมานั้น ครบรอบ 6 ปีเต็มที่หายตัวไปจากอ้อมอกพ่อ แม่ ตนรู้สึกเสียใจและทุกหน่วยงานกำลังเร่งตามหาอยู่ ทั้งนี้ปัญหาเด็กหายเป็นปัญหาหนึ่งของประเทศไทย ที่เราต้องช่วยกันระมัดระวัง กลุ่มเด็กเล็กที่อายุระหว่าง 4- 8 ขวบ เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ถูกลักพาตัว เพราะฉะนั้นวิธีการที่จะลดปัญหาเหล่านี้ลงได้ คือพ่อแม่ต้องไม่ปล่อยบุตรหลานให้อยู่เพียงลำพัง ควรสอนลูก เตรียมทักษะให้ลูกในการที่ไม่รับของคนแปลกหน้า ไม่ไปไหนกับคนแหลกหน้า ต้องสั่งให้ชัดเจน ฝึกให้เป็นนิสัย ถ้าจะไปเที่ยว เด็กเล็กควรจะมีชื่อ-ที่อยู่ ติดใส่กระเป๋าไว้ สำหรับกลุ่มเด็กโตที่หนีออกจากบ้าน เพราะปัญหาความรุนแรงในครอบครัว พ่อแม่ก็ต้องมีบทบาทในการให้ความรัก และความอบอุ่น เพราะบางที่พ่อแม่ก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการหาเงิน “เหล่านี้เป็นภาพสะท้อนปัญหา และทำให้ปัญหาการค้ามนุษย์ทวีความรุนแรงขึ้น ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้หญิง เหล่านี้อยากให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา มีอะไรผิดปกติ ผิดสังเกตให้แจ้งเจ้าหน้าที่ เด็กขอทาน เด็กเร่ขายของ เด็กเร่ร่อน อาจจะเป็นเด็กที่หายไป ดังนั้นขอให้แจ้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ได้ทุก ตลอด 24 ชั่วโมง”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว เข้มบริษัทเรือละเลยความปลอดภัยมีความผิดทางอาญา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ตนเป็นกังวลเรื่องเรือล่มที่เกิดขึ้น มีผู้เสียชีวิตถึง 28 คน ซึ่งปัญหาเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะด้วยความประมาท เท่าที่ตนตรวจสอบเรือบรรทุกคนเกินอัตราจากจำนวน 100 คน เป็น 200 คน ขณะที่น้ำเชี่ยว และไปกระแทกโป๊ะ หรือเสา ทำให้เกิดรูขนาดใหญ่จนเรือจม ดังนั้นต่อไปนี้ บริษัทต่างๆ ตนสั่งงานไปแล้วว่า จะต้องรับผิดชอบดูแลค่าเสียหาย เยียวยา มีความผิดทางอาญา เรื่องอุปกรณ์การช่วยชีวิตมีพอเพียงหรือไม่ ปล่อยปละละเลยให้คนขึ้นอย่างไร ไม่ว่าผู้โดยสารจะให้เงินเท่าไรก็ต้องไม่ไป คนจะจ้างถ้าเขาคิดถูกที่สุดแล้ว ไม่ปลอดภัยก็อย่าไปอีก ก็ไม่ตายทั้งคู่ ไม่เดือดร้อนทั้งคู่ ตนเป็นห่วงและเสียใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพี่น้องชาวมุสลิมที่ไปทำบุญ