นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงปีท่องเที่ยวไทย 2565 ภายใต้แคมเปญ Visit Thailand Year 2022 : Amazing New Chapters เป็นการส่งสัญญาณให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ โดยยกโมเดล DASH หรือ รุกเร็ว ก้าวไว ในการฟื้นฟูการท่องเที่ยวอย่างมั่นใจและปลอดภัย ทั้งในและต่างประเทศสอดรับกับนโยบายพลิกโฉมประเทศไทย ของรัฐบาลซึ่งในปีนี้มีเป้าหมายในการสร้างรายได้ในการท่องเที่ยวไทยอยู่ที่ 1.28 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นตลาดในประเทศ 656,000 ล้านบาท หรือมีจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศ 160 ล้านคน- ครั้ง ตลาดต่างประเทศ 625,800 ล้านบาท หรือมีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 10 ล้านคน มียอดรายจ่ายเฉลี่ยต่อคนประมาณ 4,100 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวในประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างประเทศประมาณ 62,580 บาท
โดย ททท. มีความพร้อมในการฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งด้วยการจัดงาน เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 40 ประจำปี 2565 ในรูปแบบ Covid Free Event เน้นประสบการณ์ท่องเที่ยวมุมมองใหม่ ต่อยอดแบรนด์ Amazing Thailand ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เรียกความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวและตอกย้ำภาพลักษณ์ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างยั่งยืน ทั้งช่วยผลักดันสถานการณ์ท่องเที่ยวปี 2565 ให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้
สำหรับงาน เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 40 ประจำปี 2565 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 - 22 กุมภาพันธ์ 2565 ณ สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร ภายใต้แนวคิด พลิกโฉมการท่องเที่ยวไทย สไตล์ New Normal ให้ปี 2565 เป็นปีท่องเที่ยวไทยมุมมองใหม่ เน้นสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวทรงคุณค่าที่จะประทับใจและสุขใจกว่าที่เคย สอดรับกับแคมเปญตลาดในประเทศ เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม พร้อมนำส่งคุณค่าการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่โดดเด่นและแตกต่างมาให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส ต่อยอดสู่ตลาดต่างประเทศผ่านแคมเปญ Amazing New Chapters
ซึ่งทาง ททท.ได้สร้างความมั่นใจในการเดินทางเข้ามาชม โดยผู้เข้าชมงานต้องได้รับการคัดกรอง 2 จุด คือตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายบริเวณจุดและ Check in ผ่านแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” (หรือลงชื่อ) ตามข้อกำหนดของสวนลุมพินี และเมื่อเข้าชมในแต่ละโซนกิจกรรมต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่กำหนด ผ่านแอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” หรือแสดงหลักฐานรับรองการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี Antigen Test (ATK) ผลเป็นลบ ไม่เกิน 72 ชั่วโมงจากสถานพยาบาล
พร้อมกันนี้ยังมีบริการตรวจ ATK ราคา 35 บาท ในบริเวณงาน โดยติดตั้งแอปพลิเคชั่น Dr.AnyWhere เมื่อตรวจผ่านแล้วจะได้รับสติ๊กเกอร์ซึ่งสามารถเข้าชมโซนอื่นๆ ไม่ต้องตรวจซ้ำ นอกจากมาตรการดังกล่าวแล้ว ยังมีมาตรการอื่น ๆ ที่ช่วยให้ผู้เข้าชมงานมีความมั่นใจด้านความปลอดภัยมากขึ้น เช่น การกำหนดจำนวนผู้เข้าชมของโซนในแต่ละช่วงเวลา (1 คน / 4 ตร.ม.) ซึ่งจะติดตั้งป้ายแสดงจำนวนผู้เข้า-ออกโซนอย่างชัดเจน การกำหนดพื้นที่รับประทานอาหาร (เปิดหน้ากาก) การจองคิวชมการแสดงผ่านแอปพลิเคชั่น QueQ การใช้แฟลตฟอร์ม “เพลินไทย” เพื่อแสดงความหนาแน่นของผู้เข้าชมในแต่ละโซนงาน รวมถึงต้องสวมหน้ากากอนามัย และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค DMHTT ตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่จัดงาน
ขณะเดียวกัน ผู้จัดงานทุกคน (เจ้าหน้าที่ททท. ผู้มาออกร้าน ) จะต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่กำหนด ผ่านแอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” และแสดงหลักฐานรับรองการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี Antigen Test (ATK) ผลเป็นลบ ไม่เกิน 72 ชั่วโมง จากสถานพยาบาล เพื่อเพิ่มความมั่นใจแก่ผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย โดยภายในงานดังกล่าว ทาง ททท.ได้ออกแบบประสบการณ์การท่องเที่ยวมุมมองใหม่ พานักท่องเที่ยวออกเดินทางสัมผัสเอกลักษณ์ของ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ ทั้งด้านประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิต ภูมิปัญญาและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ รวมถึงกิจกรรมท่องเที่ยวมิติใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม ผ่าน 9 โซนกิจกรรม
สำหรับงาน เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 40 ประจำปี 2565 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 - 22 กุมภาพันธ์ 2565 ณ สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร ภายใต้แนวคิด พลิกโฉมการท่องเที่ยวไทย สไตล์ New Normal ให้ปี 2565 เป็นปีท่องเที่ยวไทยมุมมองใหม่ เน้นสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวทรงคุณค่าที่จะประทับใจและสุขใจกว่าที่เคย สอดรับกับแคมเปญตลาดในประเทศ เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม พร้อมนำส่งคุณค่าการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่โดดเด่นและแตกต่างมาให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส ต่อยอดสู่ตลาดต่างประเทศผ่านแคมเปญ Amazing New Chapters
ซึ่งทาง ททท.ได้สร้างความมั่นใจในการเดินทางเข้ามาชม โดยผู้เข้าชมงานต้องได้รับการคัดกรอง 2 จุด คือตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายบริเวณจุดและ Check in ผ่านแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” (หรือลงชื่อ) ตามข้อกำหนดของสวนลุมพินี และเมื่อเข้าชมในแต่ละโซนกิจกรรมต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่กำหนด ผ่านแอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” หรือแสดงหลักฐานรับรองการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี Antigen Test (ATK) ผลเป็นลบ ไม่เกิน 72 ชั่วโมงจากสถานพยาบาล
พร้อมกันนี้ยังมีบริการตรวจ ATK ราคา 35 บาท ในบริเวณงาน โดยติดตั้งแอปพลิเคชั่น Dr.AnyWhere เมื่อตรวจผ่านแล้วจะได้รับสติ๊กเกอร์ซึ่งสามารถเข้าชมโซนอื่นๆ ไม่ต้องตรวจซ้ำ นอกจากมาตรการดังกล่าวแล้ว ยังมีมาตรการอื่น ๆ ที่ช่วยให้ผู้เข้าชมงานมีความมั่นใจด้านความปลอดภัยมากขึ้น เช่น การกำหนดจำนวนผู้เข้าชมของโซนในแต่ละช่วงเวลา (1 คน / 4 ตร.ม.) ซึ่งจะติดตั้งป้ายแสดงจำนวนผู้เข้า-ออกโซนอย่างชัดเจน การกำหนดพื้นที่รับประทานอาหาร (เปิดหน้ากาก) การจองคิวชมการแสดงผ่านแอปพลิเคชั่น QueQ การใช้แฟลตฟอร์ม “เพลินไทย” เพื่อแสดงความหนาแน่นของผู้เข้าชมในแต่ละโซนงาน รวมถึงต้องสวมหน้ากากอนามัย และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค DMHTT ตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่จัดงาน
ขณะเดียวกัน ผู้จัดงานทุกคน (เจ้าหน้าที่ททท. ผู้มาออกร้าน ) จะต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่กำหนด ผ่านแอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” และแสดงหลักฐานรับรองการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี Antigen Test (ATK) ผลเป็นลบ ไม่เกิน 72 ชั่วโมง จากสถานพยาบาล เพื่อเพิ่มความมั่นใจแก่ผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย โดยภายในงานดังกล่าว ทาง ททท.ได้ออกแบบประสบการณ์การท่องเที่ยวมุมมองใหม่ พานักท่องเที่ยวออกเดินทางสัมผัสเอกลักษณ์ของ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ ทั้งด้านประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิต ภูมิปัญญาและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ รวมถึงกิจกรรมท่องเที่ยวมิติใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม ผ่าน 9 โซนกิจกรรม