“ดิอาซ”....แจ่ม!!

เปิดตัวนัดแรกไปแล้ว สำหรับ “หลุยส์ ดิอาซ” แนวรุกตัวใหม่สุดอันตรายของค่าย “หงส์แดง” ลิเวอร์พูลโดยเลือกสวมเสื้อเบอร์ 23 พร้อมหนึ่งแอสซิสต์ พาทีมเปิดบ้านถล่ม คาร์ดิฟฟ์ 3-1 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา “ดิอาซ” กลายเป็นแข้งหน้าใหม่เพียงรายเดียวของ "หงส์แดง" ในช่วงเปิดตลาดซื้อขายรอบสองที่ผ่านมา โดยย้ายมาจาก “เอฟซี ปอร์โต” ค่าตัวเบื้องต้นราว 37.5 ล้านปอนด์ พร้อมสัญญาระยะยาวถึงปี 2027 พร้อมหยอดคำหวาน ว่า “สำหรับ ลิเวอร์พูลแล้ว ผมคิดว่าคงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก เพราะนี่คือสโมสรที่ยอดเยี่ยม มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน คว้าแชมป์มาอย่างมากมาย ทั้งฟุตบอลลีก และฟุตบอลถ้วย ดังนั้นลิเวอร์พูลจึงเป็นตัวเลือกของผมเสมอมา” แน่นอนว่า ใครหลายๆคน อาจจะไม่รู้จักมักคุ้นในตัว “ดิอาซ” กันมากนัก วันนี้เลยได้โอกาส นำประวัติ “แนวรุกป้ายแดง” มาให้ได้รู้จักกัน “หลุยส์ ดิอาซ' ชื่อเต็ม : หลุยส์ เฟอร์นานโด ดิอาซ มูรูลันดา เกิด : 13 มกราคม 1997 ที่บาร์รานกาส ประเทศโคลอมเบีย อายุ : 25 ปี ส่วนสูง : 178 เซนติเมตร ตำแหน่ง : ปีก *เส้นทางลูกหนัง “หลุยส์ ดิอาซ” เป็นเลือดเชื้อไขของชนเผ่า “วายู” ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโคลอมเบีย และเจ้าตัวหลงใหลในเกมลูกหนังมาตั้งแต่เด็ก จนได้มาแจ้งเกิดในรายการ Indigenous America Cup ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ลูกหนังที่แข่งขันกันเฉพาะชนเผ่าพื้นเมืองเท่านั้น ต่อมา “ดิอาซ” ในวัย 18 ปี ติดโผเป็น 1 ใน 22 ขุนพลของ “โคลอมเบีย” เข้าร่วมลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์ชนเผ่าแห่งอเมริกาใต้ “Copa Americana de Pueblos Indígenas” เมื่อปี 2015 ที่ประเทศชิลี โดย “ดิอาซ” ได้สวมปลอกแขนกัปตัน และพาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่น่าเสียดายไปพ่ายต่อ ปารากวัย 0-1 กระทั่งเข้าสู่เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสร “บาร์รานกีญ่า” ทีมในลีกรองของ “โคลอมเบีย” ทำให้ “ดิอาซ ได้พัฒนาตัวเองในทุกด้าน และถูกดึงตัวไปยังสโมสรที่ใหญ่ขึ้น คือ “แอตเลติโก จูเนียร์” สโมสรในลีกสูงสุดของ “โคลอมเบีย” ในปี 2017 ซึ่ง “ดิอาซ” ยังคงโชว์ฟอร์มร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง จนฝีเท้าไปเข้าตา “แมวมอง” และกลายเป็นเป้าหมายของหลายสโมสรดังในยุโรป และถูก “ปอร์โต” ยักษ์ใหญ่แห่งลีกโปรตุเกส ทุ่มเงิน 7 ล้านยูโรกระชากตัวไปร่วมทีม เมื่อเดือนก.ค. 2019 พร้อมงัดฟอร์มเก่งและกลายเป็นขวัญใจแฟนบอล้อย่างรวดเร็ว บรรดาแฟนบอล คงไม่ต้องตั้งคำถามกันแล้ว ว่า “ดิอาซ” จะคุ้มมั้น เพราะจากประวัติอันโชกโชน และฝีเท้าและฟอร์มการเล่นที่พุ่งกระฉูดขนาดนี้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยอดทีมแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คงไม่ลงทุนกระชากตัวมาลากเลื้อยในสนามให้ปวดกบาลแน่นอน