อีกหนึ่งตำนานแห่งลักซ์ชัวรีไลฟ์สไตล์ที่รังสรรค์สุนทรีย์แห่งรสนิยม Ginori 1735 (จิโนรี 1735) แบรนด์ลักซ์ชัวรีเครื่องเคลือบพอร์ซเลนเก่าแก่กว่า 287 ปี จากประเทศอิตาลี ได้เดินทางมาสร้างตำนานบทใหม่ให้กับมื้ออาหารถึงเมืองไทยเมื่อ ดนัย สรไกรกิติกูล ผู้บริหาร เอลิส (ALIST) ถูกเทียบเชิญจากบริษัทแม่ของจิโนรี ประเทศอิตาลี ให้เป็นตัวแทนเพียงผู้เดียวในประเทศไทยนำเข้าเครื่องเคลือบพอร์ซเลนสุดหรู โดยร่วมกับ อัครรัฐ วรรณรัตน์ ผู้บริหาร MOTIF โชว์รูมเฟอร์นิเจอร์นำเข้าลักซ์ชัวรีจากอิตาลี จัดงาน “Ginori 1735 present Oriente Italiano Collection” เปิดตัวแบรนด์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมเผยโฉมคอลเลกชั่นคลาสสิกตลอดกาล Oriente Italiano ให้ชมกันครั้งแรก โดยมีเหล่าเซเลบริตี้ให้เกียรติร่วมงาน อาทิ ดร.พันธ์ศักดิ์ จันทร์ปัญญา, น.สพ. ธนะสิทธิ์ เลิศพงศ์นิภาส, พ.ญ.สุจิตตรา สวาทยานนท์, ปิยะพรรณ กุศลพัฒน์, อโนชา เอื้อวัฒนสกุล, หฤทยา ไชยนุวัติ, พญ.พลอยลดา ธนาไพศาลวรกุล, ดิษยา สรไกรกิติกูล, กรณ์ ณรงค์เดช, ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์, สุรัชนี ลิ่มอติบูลย์, สุชาวดี ธีระกานต์อนันท์, จตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ, ธนนธรณ์ ไชยสุวรรณนพ ฯลฯ ณ โชว์รูม โมทีฟ ชั้น 4 ศูนย์การค้า เซ็นทรัล เอ็มบาสซี
ดนัย สรไกรกิติกูล ผู้บริหาร เอลิส ผู้นำเข้า Ginori 1735 เผยว่า Ginori 1735 คือเครื่องเคลือบพอร์ซเลนเก่าแก่ของประเทศอิตาลี ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกและมีประวัติศาสตร์ยาวนานเกือบสามศตวรรษ ก่อตั้งโดย Marquis Carlo Andrea Ginori ในปี 1735 เมือง Doccia ใน Sesto Fiorentino ใกล้เมือง Florence และได้อยู่ภายใต้การบริหารของ Kering Group ในปีค.ศ. 2013 จนถึงปัจจุบัน ด้วยคุณภาพของวัสดุชั้นเลิศ การพัฒนานวัตกรรมการผลิตมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็ยังคงเทคนิคงานฝีมือแบบดั้งเดิมของอิตาลีหลอมรวมกับดีไซน์โมเดิร์นและลวดลายที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากปลายพู่กันจากฝีมือช่างศิลป์ชั้นสูง สะท้อนมุมมองศิลปะที่แสดงถึงความรุ่งเรืองในแต่ละยุคสมัย สู่เครื่องเคลือบพอร์ซเลนแฮนด์เมดบนโต๊ะอาหารและของแต่งบ้าน อาทิ จาน ชาม แก้วกาแฟ แก้วชา และ แจกัน ฯลฯ โดยลวดลายที่ปรากฏอยู่บนชิ้นงานจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรียกว่าเป็นแบรนด์ที่รวมคุณค่าทางประวัติศาสตร์เข้ากับรสนิยมชั้นสูงและงานดีไซน์ได้อย่างลงตัว และเป็นอีกหนึ่งมิติของลักซ์ชัวรีไลฟ์สไตล์บนโต๊ะอาหารที่ใช้งานได้จริง
สำหรับคอลเลกชั่นแรกที่นำเข้ามา คือ Oriente Italiano (ออเรนเต้ อิตาเลียโน่) คอลเลกชั่นคลาสสิกตลอดกาลของแบรนด์ ที่นำเสน่ห์วัฒนธรรมตะวันออกมาผสานกับความสง่างามและอัตลักษณ์เครื่องลายครามจากอิตาลี รังสรรค์เป็นลายแมลงในช่อดอกไม้ได้อย่างงดงาม คอลเลกชั่นนี้ยังโดดเด่นด้วยโทนสีพาสเทลมีให้เลือก 10 เฉดสี ได้แก่ สีฟ้า, สีเขียว,สีเหลือง, สีชมพู, สีส้ม, สีแดง, สีม่วง, สีดำ, สีเทา และสีขาว ในหลากหลาย ดีไซน์ อาทิ ถ้วย, จานข้าว, จานบัว, จานเปล, ถ้วยซุป, ชามสลัด, เซตแก้วชา-กาแฟ ฯลฯ
ด้านเซเลบริตี้ต่างแชร์ไอเดียการจัดโต๊ะอาหารที่สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว เริ่มจาก พญ.พลอยลดา ธนาไพศาลวรกุล เจ้าของคลินิกความงาม “ลลลนา” บอกว่า แม้จะไม่ใช่แม่บ้านแม่เรือนชอบเข้าครัวปรุงอาหาร แต่ก็ใส่ใจอาหารและภาชนะบนโต๊ะอาหารไม่น้อย เวลาไปรับประทานอาหารบ้านเพื่อนหรือร้านอาหารมักจะสังเกตการจัดโต๊ะอาหาร ถ้ามีจานชามที่มีสีสันและลวดลายสวยๆ ก็จะรู้สึกว่ามื้อนั้นๆ มีความอร่อยขึ้น เกิดความประทับใจ จนต้องขอเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งการเลือกใช้จานชามที่ดีและมีตำนานความเป็นมาก็บ่งบอกถึงรสนิยมของผู้เป็นเจ้าของ
ด้าน สุชาวดี ธีระกานต์อนันท์ นักธุรกิจสาวผู้นำเข้าและจำหน่ายเวชภัณฑ์ ซึ่งใส่ใจอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารเป็นพิเศษ กล่าวว่า ชอบสะสมภาชนะใส่อาหารเพราะมีความสวยงามสะดุดตา อย่างแบรนด์จิโนรีเคยไปเจอที่อิตาลีแล้วรู้สึกชอบมาก แต่ไม่มีโอกาสได้เลือกซื้อกลับมาเมืองไทย วันนี้มีการนำเข้ามารู้สึกดีใจมากเพราะเป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะการเขียนลวดลายด้วยมือ เมื่อนำมามิกซ์แอนด์แมทช์ จะเป็นสีโทนร้อน โทนเย็น หรือสีตัดกันก็ดูดีทำให้การรับประทานอาหารมีสีสันและรู้สึกอร่อยขึ้น
ปิดท้ายที่ กรณ์ ณรงค์เดช นักธุรกิจอสังหาสังหาริมทรัพย์ที่มีคอลเลกชั่นของจิโนรีไว้ใช้สอยอยู่แล้ว เผยว่า บนโต๊ะอาหารนอกจากอาหารหน้าตาน่ารับประทานแล้วสิ่งประกอบไม่ว่าจะเป็นจาน ชาม ช้อน ส้อม ถือว่ามีความสำคัญไม่น้อย ยิ่งเวลามีแขกแวะมาเยี่ยมเยือน การได้ต้อนรับด้วยอาหารมื้อพิเศษพร้อมจานชามที่มีความพิเศษก็ยิ่งช่วยเพิ่มอรรถรสให้มื้ออาหารได้ ส่วนตัวเคยมีโอกาสได้สั่งทำคอลเลกชั่นของจิโนรี โดยการสลักชื่อของคุณพ่อและคุณแม่ “พ-ก” เก็บไว้เป็นที่ระลึก ทุกครั้งที่มีโอกาสนำออกมาใช้ก็เหมือนเป็นการระลึกถึงความทรงจำดีๆ ในห้วงเวลาแห่งความสุข
Ginori 1735 เริ่มก่อตั้งแบรนด์ในศตวรรษที่ 17 ซึ่งเป็นบริษัทแรกๆ ที่บุกเบิกการทำเครื่องเคลือบลายครามของอิตาลีและพัฒนาจนเริ่มนำทองมาใช้ตกแต่งเครื่องลายคราม สู่ศตวรรษที่ 18 ยุคเฟื่องฟูศิลปะการตกแต่งกับความงดงามด้วยลวดลายดอกไม้ Ginori 1735 กลายเป็นผลงานชิ้นเอกบนโต๊ะอาหารของคนชั้นสูงในยุโรป และเป็นเครื่องตกแต่งในพระราชวัง ในช่วงศตวรรษที่ 19 แบรนด์ได้ตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ากับการออกแบบที่เน้นผสมผสานกลิ่นอายความแอนทีคเข้ากับความโมเดิร์น เพื่อรองรับความต้องการของทวีปยุโรป และในปี ค.ศ. 2013 Ginori 1735 ได้ถูกเปลี่ยนมือจากตระกูล Ginori สู่ร่มเงาของ Kering Group บริษัทลักซ์ชัวรีที่เป็นเจ้าของแบรนด์ดังมากมายทั้ง Saint Laurent, Gucci, Balenciaga, Bottega Veneta และ Alexander McQueen ฯลฯ
รังสรรค์สุนทรีย์แห่งรสนิยมกับ Ginori 1735 (จิโนรี 1735) แบรนด์ลักซ์ชัวรีเครื่องเคลือบพอร์ซเลนเก่าแก่กว่า 287 ปี จากประเทศอิตาลี ได้ที่ โชว์รูม โมทีฟ ชั้น 4 ศูนย์การค้า เซ็นทรัล เอ็มบาสซี เท่านั้น หรือ Instagram: @ginori1735thailand, Line official: @Ginori1735_TH สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-261-9115 #526