วันที่ 8 ก.พ.65 กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศน์ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ และ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. ตำรวจภูธรภาค 9 ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.สันทัด วินสน ผบก.ภ.จว.ตรัง และ พ.ต.อ.เอกณรงค์ สวัสดิกานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป.นำกำลังตำรวจ บก.ป. สนธิกำลังกับ พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิชผกก.สส.ภ.จว.ตรัง, ป.ป.ส ภาค 9, ป.ป.ส. ภาค 8, พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ปทส. เปิดปฏิบัติการปราบปรามองค์กรยาเสพติด “ฆ่าทวงเงินยานรก”นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นสถานที่เพื่อจับกุมเครือข่ายของนายสมหมายฯ ในพื้นที่ จ.ตรัง, จ.ภูเก็ต และกรุงเทพฯ รวมจำนวนทั้งสิ้น 14 จุด ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ตามหมายจับ จำนวน 8 ราย 9 หมายจับ นำส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจากการตรวจค้นได้ตรวจยึดของกลางเป็น อาวุธปืน จำนวน 4 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน จำนวน 54 นัด, ยาบ้า จำนวน 262 เม็ด, ไอซ์ จำนวน 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 0.79 กรัม พร้อมกับยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการขยายผลถึงขบวนการและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 29 ม.ค.64 เวลาประมาณ 18.20 น. ได้มีกลุ่มคนร้ายใช้รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ เป็นยานพาหนะ ขับขี่มายังบ้านที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงนายสุชาติ หรือปู อายุ 48 ปี เครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ จ.ตรัง ซึ่งกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่บริเวณหน้าบ้าน ถึงแก่ความตาย แล้วได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวหลบหนีไป เจ้าพนักงานตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้สืบสวนติดตามคดีนี้ร่วมกับหน่วยงานในท้องที่มาโดยตลอด
จากการสืบสวนทราบว่า มูลเหตุในคดีนี้มาจากการที่ผู้ตายติดค้างเงินค่ายาเสพติดกับ นายสมหมาย หรือแดงพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ จ.ตรัง ซึ่งมีประวัติก่อเหตุคดีอุกฉกรรจ์และมีหมายจับคดียาเสพติดหลายคดี ปัจจุบันได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ชายแดนประเทศไทยซึ่งติดกับประเทศเมียนมาร์ บริเวณ จ.เชียงราย แต่ก็ยังคงชักใยสั่งการเครือข่ายอยู่เบื้องหลังเรื่อยมา ซึ่งในคดีนี้นายสมหมาย ได้จ้างวานให้กลุ่มมือปืนซึ่งมีความเชื่อมโยงกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ให้ลงมือก่อเหตุ โดยมีการวางแผนตระเตรียมการมาเป็นอย่างดี
ซึ่งกลุ่มคนร้ายได้กระทำอย่างอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง เนื่องด้วยมีผู้มีอิทธิพลคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง สร้างความตื่นกลัวให้ชาวบ้านในพื้นที่ และคดีมีความยุ่งยากสลับซับซ้อน เกี่ยวพันกันหลายท้องที่ ดังนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้อนุมัติโอนสำนวนให้ บก.ป. ดำเนินการสืบสวนสอบสวน รับผิดชอบ กระทั่งเจ้าพนักงานตำรวจ กก.6 บก.ป. สามารถรวบรวมพยานหลักฐานจนศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นายสมหมาย, นายจำรัส, นายวรวุฒิ และ นายเอกพล
นอกจากนี้ตำรวจ กก.6 บก.ป. ยังได้วางแผนติดตามจับกุมเครือข่ายยาเสพติดของนายสมหมายฯ เพิ่มเติม ซึ่งจากการตรวจสอบพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกันมาจากคดีฆ่านายสุชาติฯ ทำให้เห็นภาพรวมขององค์กรยาเสพติดขนาดใหญ่ที่มีนายสมหมายฯ เป็นหัวหน้า ผู้ควบคุม จากพื้นที่ จว.เชียงราย สั่งการให้เครือข่ายในพื้นที่ จ.ตรัง ดำเนินธุรกิจค้าขายยาเสพติด ซึ่งหากเครือข่ายคนใดมีปัญหาติดค้างเงิน นายสมหมาย ก็จะสั่งการให้มือปืนในเครือข่ายไปข่มขู่ นำไปสู่คดียิงบ้านในพื้นที่ จ.ตรัง หลายคดี รวมไปถึงคดีฆ่านายสุชาติ ในครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้เงินที่ได้จากการขายยาเสพติด นายสมหมาย จะทำการยักย้าย ถ่ายโอน ไปยังเครือญาติในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และด้วยพยานหลักฐานที่ได้จากการสืบสวน ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับเครือข่ายยาเสพติดของนายสมหมาย ทั้งหมด ในความผิดฐาน “สมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดในลักษณะองค์กรอาชญากรรม”
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 29 ม.ค.64 เวลาประมาณ 18.20 น. ได้มีกลุ่มคนร้ายใช้รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ เป็นยานพาหนะ ขับขี่มายังบ้านที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงนายสุชาติ หรือปู อายุ 48 ปี เครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ จ.ตรัง ซึ่งกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่บริเวณหน้าบ้าน ถึงแก่ความตาย แล้วได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวหลบหนีไป เจ้าพนักงานตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้สืบสวนติดตามคดีนี้ร่วมกับหน่วยงานในท้องที่มาโดยตลอด
จากการสืบสวนทราบว่า มูลเหตุในคดีนี้มาจากการที่ผู้ตายติดค้างเงินค่ายาเสพติดกับ นายสมหมาย หรือแดงพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ จ.ตรัง ซึ่งมีประวัติก่อเหตุคดีอุกฉกรรจ์และมีหมายจับคดียาเสพติดหลายคดี ปัจจุบันได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ชายแดนประเทศไทยซึ่งติดกับประเทศเมียนมาร์ บริเวณ จ.เชียงราย แต่ก็ยังคงชักใยสั่งการเครือข่ายอยู่เบื้องหลังเรื่อยมา ซึ่งในคดีนี้นายสมหมาย ได้จ้างวานให้กลุ่มมือปืนซึ่งมีความเชื่อมโยงกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ให้ลงมือก่อเหตุ โดยมีการวางแผนตระเตรียมการมาเป็นอย่างดี
ซึ่งกลุ่มคนร้ายได้กระทำอย่างอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง เนื่องด้วยมีผู้มีอิทธิพลคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง สร้างความตื่นกลัวให้ชาวบ้านในพื้นที่ และคดีมีความยุ่งยากสลับซับซ้อน เกี่ยวพันกันหลายท้องที่ ดังนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้อนุมัติโอนสำนวนให้ บก.ป. ดำเนินการสืบสวนสอบสวน รับผิดชอบ กระทั่งเจ้าพนักงานตำรวจ กก.6 บก.ป. สามารถรวบรวมพยานหลักฐานจนศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นายสมหมาย, นายจำรัส, นายวรวุฒิ และ นายเอกพล
นอกจากนี้ตำรวจ กก.6 บก.ป. ยังได้วางแผนติดตามจับกุมเครือข่ายยาเสพติดของนายสมหมายฯ เพิ่มเติม ซึ่งจากการตรวจสอบพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกันมาจากคดีฆ่านายสุชาติฯ ทำให้เห็นภาพรวมขององค์กรยาเสพติดขนาดใหญ่ที่มีนายสมหมายฯ เป็นหัวหน้า ผู้ควบคุม จากพื้นที่ จว.เชียงราย สั่งการให้เครือข่ายในพื้นที่ จ.ตรัง ดำเนินธุรกิจค้าขายยาเสพติด ซึ่งหากเครือข่ายคนใดมีปัญหาติดค้างเงิน นายสมหมาย ก็จะสั่งการให้มือปืนในเครือข่ายไปข่มขู่ นำไปสู่คดียิงบ้านในพื้นที่ จ.ตรัง หลายคดี รวมไปถึงคดีฆ่านายสุชาติ ในครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้เงินที่ได้จากการขายยาเสพติด นายสมหมาย จะทำการยักย้าย ถ่ายโอน ไปยังเครือญาติในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และด้วยพยานหลักฐานที่ได้จากการสืบสวน ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับเครือข่ายยาเสพติดของนายสมหมาย ทั้งหมด ในความผิดฐาน “สมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดในลักษณะองค์กรอาชญากรรม”