บมจ.ริชี่เพลซ 2002 (RICHY) เตรียมเสนอขายหุ้นกู้มีประกัน 2 ชุด มูลค่ารวมไม่เกิน 875 ล้านบาท โดยชุดที่ 1 หุ้นกู้อายุ 1ปี 9 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2566 มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.8% ต่อปี และชุดที่ 2 หุ้นกู้อายุ 2 ปี 6 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567 มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 7.1% ต่อปี เสนอขายให้กับผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่ระหว่างวันที่ 28 ก.พ.และ 1-2 มี.ค.65 ฟากบิ๊กบอส "ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์"ระบุ การระดมทุนครั้งนี้ จะนำเงินที่ได้ไปใช้เป็นทุนหมุนเวียน และชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนด ช่วยเพิ่มศักยภาพฐานทุนให้แข็งแกร่งเพิ่มขึ้น ผลักดันผลงานในปีนี้เติบโตระดับ 65%จากปีก่อน ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) RICHY เปิดเผยว่าบริษัทฯได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้มีประกันของบริษัท ครั้งที่ 1/2565 ซึ่งมีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนด จำนวน 2 ชุด มูลค่ารวมไม่เกิน 875 ล้านบาท ประกอบด้วย ชุดที่ 1 หุ้นกู้อายุ 1ปี 9 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2566 มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.8% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ และชุดที่ 2 หุ้นกู้อายุ 2 ปี 6 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567 มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 7.1% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ทั้งนี้หุ้นกู้ดังกล่าวจะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ในระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ และวันที่ 1-2 มีนาคม 2565 โดยเสนอขายผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้ำ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซิมิโก้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสทีจำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน),บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์บียอนด์ จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ สยามเวลธ์ จำกัด สำหรับวัตถุประสงค์นำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อใช้ชำระคืนหุ้นกู้ ที่จะครบกำหนดวันที่ 18 มีนาคม 2565 จำนวน 874.87 ล้านบาท โดยส่วนที่เหลือจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน "บริษัทมั่นใจว่าหุ้นกู้ของ RICHY จะได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีศักยภาพในการทำกำไรทุกปี แม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังสามารถรักษาการเติบโตได้ดี และการระดมทุนในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพฐานทุนให้มีความแข็งแกร่ง ผลักดันการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน" ประธานกรรมการบริหาร กล่าวอีกว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทวางเป้าหมายรายได้รวมจะเติบโตเพิ่มขึ้นระดับ 65% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564 บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่ารวม 3,423.25 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ตั้งแต่ปี 2565-2567 ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังตั้งเป้าหมายยอดขาย (Presale) ในปี 2565 ไว้ที่ 4,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อน โดยในปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการ 6,025 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการประเภทแนวราบจำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการริชตัน พัฒนาการ สวนหลวง มูลค่าโครงการ 524 ล้านบาท เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์ยูโรเปี้ยน จำนวน 131 ยูนิต ซึ่งจะเปิดขายในช่วงเดือนมีนาคม 2565 และ 2.โครงการริชตัน ดอนเมือง เพิ่มสิน มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 163 ยูนิต ส่วนอีก 2 โครงการ เป็นโครงการประเภทคอนโดมิเนียม ในทำเลพระราม 9 จำนวน 1 โครงการ และอีก 1 โครงการ ยังอยู่ระหว่างพิจารณา โดยจะทยอยเปิดตัวตามสถานการณ์ในอนาคต