วันที่ 6 ก.พ.65 จากกรณีคนร้ายออกอาละวาด ทำทีเป็นผู้โดยสารโบกรถแท็กซี่ให้ไปส่ง ก่อนพาไปซอยเปลี่ยวใช้อาวุธข่มขู่คนขับบังคับเอาทรัพย์สินก่อนหก่อนหลบหนีไป ล่าสุด เวลา 15.30 น. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.คันนายาว พ.ต.ท.อำนาจ ฉ่ำชะเอม รอง ผกก.สส.สน.คันนายาว พร้อม พ.ต.ต.เลิศศักดิ์ ปิ่นละออ สวย.สส.สน.คันนายาว เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.คันนายาว สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ไว้ได้ ทราบชื่อนายธนพล อายุ 23 ปี พร้อมของกลางมือถือ 3 เครื่อง พระเครื่อง 1 องค์ โดยจับกุมได้บริเวณห้องน้ำในตลาดนัดสี่แยกพระพรหมคลองสอง ถนนเลียบคลองสอง แขวง บางชัน เขตคลองสามวา กทม. เบื้องต้นมีผู้เสียหายเป็นโชเฟอร์แท็กซี่ จำนวน 5 คน เดินทางเข้าชี้ตัวผู้ต้องหาที่ สน.คันนายาว นายสมศักดิ์ ลือชา อายุ 73 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ เขียวเหลือง ทะเบียน 1 มข 8963 กทม. เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.20 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ คนร้ายได้เรียกตนจากถนนหทัยราษฏร์ ให้ไปส่งที่ตลาดถนอมมิตร ทีแรกตนปฏิเสธไปเพราะไม่ทราบเส้นทาง แต่คนร้ายบอกว่าจะบอกเส้นทางให้ โดยคนร้ายนั่งอยู่บริเวณเบาะหลังซ้าย เมื่อมาถึงตลาดถนอมมิตร คนร้ายให้ตนเลี้ยวซ้ายเข้าไปบริเวณใต้ทางด่วน ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีรั้วกั้นไปต่อไม่ได้ คนร้ายได้บอกว่าจะเดินไปเอง จากนั้นคนร้ายเปลี่ยนที่นั่งมาตรงกลางก่อนจะเอ่ยปากขอเงินไปกินข่าว และนำวัตถุคล้ายอาวุธปืนออกมา ตนจึงหยิบเงินให้ไป 200 บาท แต่คนร้ายบอกให้ส่งเงินทั้งหมด พร้อมบอกว่าไม่อยากจะทำร้าย ตนจึงหยิบเงินจำนวน 1,000 ให้ไปแต่คนร้ายไม่พอใจจึงหยิบโทรศัพท์มือถือตนไปด้วย ก่อนหลบหนีไป ซึ่งตอนที่ตนรับขึ้นรถคนร้ายไม่มีทีท่าว่าจะเป็นคนร้ายแต่อย่างใด ขณะที่ นายสุวรรณ สุวรรณมาโจ อายุ 46 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ เขียว-เหลือง หมายเลขทะเบียน 1 มก 7332 กรุงเทพมหานคร ผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ขณะที่ตนกำลังขับรถออกหาผู้โดยสารบริเวณซอยกีบหมู ซ.สุเหร่าคลองหนึ่ง คนร้ายเป็นชายได้เรียกตนให้ไปส่งที่ตลาดมารวย จนมาถึงเส้นทางเลียบมอเตอร์เวย์คนร้ายได้บอกให้หยุดรถและดับเครื่องยนต์ ตนคิดว่าคนร้ายจะจ่ายเงินจึงเปิดไฟภายในรถและหันกลับไป ก็พบว่าคนร้ายถือวัตถุคล้ายอาวุธมีดไว้ แต่คนร้าวไม่ได้บังคับอะำร ตนเห็นท่าไม่ดีจึงบอกว่าไม่มีเงิน เนื่องจากเป็นลูกค้ารายแรกของวัน คนร้ายจึงขอดูเงินในบัญชีของตน ซึ่งมีอยู่เพียง 8 บาท จึงนำเงินสดให้ไปจำนวน 200 บาท และควร้าวได้หยิบพระที่อยู่หน้ารถไป 1 องค์ รวมถึงโทรศัพท์มือถือ ตนจึงตะโกนขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในบริเวณดังกล่าว จนทำให้คนร้ายหลบหนีไป ถ้าเจอคนร้ายอีกครั้งก็คิดว่าน่าจะจำได้ รายงานข่าวระบุว่าการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากภรรยาผู้เสียหายรายหนึ่งได้ติดต่อไปยังมือถือที่คนร้ายนำไป เพื่อขอซิมมือถือคืน ซึ่งคนร้ายได้โทรกลับพร้อมระบุว่าให้นำเงินจำนวน 2,000 บาท มาไถ่คืน แต่ผู้เสียหายมีเงินไม่พอ คนร้ายจึงยอมลดให้เหลือ 1,000 บาท ซึ่งขณะนั้นผู้เสียหายได้ประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนไว้แล้ว โดยคนร้ายได้นัดให้ภรรยาผู้เสียหายไปพบที่วัดพระยาสุเรนทร์ และระบุให้มาคนเดียวรอนานกว่าครึ่งชั่วโมง คนร้ายได้โทรมาเปลี่ยนที่นัดหมายเป็นห้องน้ำในตลาดนัดสี่แยกพระพรหมคลองสอง เมื่อผู้เสียหายได้มือถือคืนมา เจ้าหน้าที่ที่ติดตามไปจึงได้เข้าชาร์จตัวได้สำเร็จ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ทั้งนี้ในเวลา 11.00 น.วันที่ 7 ก.พ. จะมีการแถลงข่าวในรายละเอียดอีกครั้ง