ชัยภูมิ - ดีป้า ร่วมกับ วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ และหน่วยงานภาคการศึกษา เปิดศูนย์การเรียนรู้ด้าน Coding, STEM, IoT และ AI เดินหน้าขับเคลื่อน 4 โรงเรียนนำร่องภาคอีสานสู่การเรียนรู้เทคโนโลยีวิทยาการคอมพิวเตอร์ เปิดโอกาสเด็กไทยเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล มุ่งยกระดับโรงเรียน และพัฒนาห้องเรียนสู่ศตวรรษที่ 21 เตรียมความพร้อมกำลังคนและบุคลากรดิจิทัลของประเทศให้มีทักษะที่จำเป็นรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ประเทศที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
นายชัยวัฒน์ ตั้งพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชัยภูมิ กล่าวว่า ในฐานะผู้แทนเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ ดีป้า และ วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ ร่วมส่งเสริมและสนับสนุนการยกระดับโรงเรียนสู่การเรียนรู้ด้าน Coding, STEM, IoT และ AI ผ่านการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ฯ ที่จะทำให้การศึกษาไทย โดยเฉพาะนักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ในสังกัดของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ มีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อพัฒนาห้องเรียนสู่ศตวรรษที่ 21 พร้อมคาดหวังว่า ในอนาคตประเทศไทยจะสามารถเป็นเจ้าของเทคโนโลยีได้ด้วยความสามารถของคนไทย ซึ่งศูนย์การเรียนรู้นี้จะผลิตนักเรียนที่มีคุณภาพ และสามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความมั่นคงของประเทศในอนาคต
ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ดีป้า กล่าวว่า ที่ผ่านมาดีป้ามุ่งส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนประเทศสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลรอบด้าน โดยเฉพาะภาคการการศึกษา ผ่านการเพิ่มศักยภาพแก่นักเรียน โดยเปิดโอกาสการเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล และนั่นจึงเป็นที่มาของความร่วมมือกับ วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ ในการส่งเสริมและสนับสนุนการยกระดับโรงเรียนสู่การเรียนรู้ด้าน Coding, STEM, IoT และ AI ในครั้งนี้ โดยการร่วมส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานห้องเรียนดิจิทัล พร้อมด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผ่านมาตรการช่วยเหลือหรือการอุดหนุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐเกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาทักษะสำคัญแห่งโลกอนาคต ควบคู่กับการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ตลาดภาครัฐ
"ดีป้า ตระหนักเป็นอย่างยิ่งว่า โรงเรียนคือสถานที่ตั้งต้นสำคัญสำหรับการพัฒนาทักษะและเพิ่มพูนองค์ความรู้ให้กับเยาวชน เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัล ซึ่งภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ทำให้เกิดโรงเรียนนำร่อง 4 แห่งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย โรงเรียนบ้านห้วยบง และ โรงเรียนบ้านวังโรงใหญ่สามัคคี จังหวัดนครราชสีมา โรงเรียนบ้านยางเกี่ยวแฝก และ โรงเรียนเทพสถิตวิทยา จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งศูนย์การเรียนรู้ฯ ทั้งหมดจะเป็นส่วนช่วยสำคัญในการพัฒนาศักยภาพและทักษะด้านดิจิทัลให้กับน้อง ๆ เยาวชนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา จำนวน 2,300 คนต่อปี ก่อนยกระดับโรงเรียนสู่ห้องเรียนแห่งศตวรรษที่ 21 เตรียมความพร้อมกำลังคนและบุคลากรดิจิทัลของประเทศให้มีทักษะที่จำเป็นรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ประเทศที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลต่อไป"
ขณะที่ นายณัฐพศิน เชฎฐ์อุดมลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ กล่าวว่า วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการศึกษาเด็กไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและนวัตกรรมของประเทศ ด้วยการพัฒนาการศึกษาด้านสะเต็มศึกษา ภาษาต่างประเทศ และทักษะอาชีพ ซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักในการพัฒนาชุมชนที่เราเข้าไปดำเนินงาน จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกับ ดีป้า ซึ่งมีเป้าหมายเดียวกัน
ดร.พรณภัทร์ พงษ์วรัชญ์พร ผู้อำนวยการโรงเรียนเทพสถิตวิทยา กล่าวว่า ในนามของตัวแทนกลุ่มโรงเรียนที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการดังกล่าว ทั้ง 4 โรงเรียนขอขอบคุณ ดีป้า และ วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ ที่ให้การสนับสนุนและส่งเสริมการเรียนรู้เทคโนโลยีดิจิทัล วิทยาการคอมพิวเตอร์ และยกระดับโรงเรียนในการพัฒนาห้องเรียนสู่ศตวรรษที่ 21
สำหรับความร่วมมือในการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ด้าน Coding, STEM, IoT และ AI ครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการผลักดันให้เกิดการส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงวิทยาการคอมพิวเตอร์ เพื่อยกระดับโรงเรียนสู่ห้องเรียนแห่งศตวรรษที่ 21 ซึ่ง ดีป้า พร้อมทำงานเพื่ออนาคตของคนไทย และเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลไทยให้อยู่ในระดับชั้นนำของโลก ตามวิสัยทัศน์ We work smart every day to build a world-class digital economy and to help people perform better, think faster and live better.