สำหรับ เซ็นทารา รีเซิร์ฟ รีเซิร์ฟ เป็นลักซูรี่แบรนด์ที่จะมาช่วยให้เครือเซ็นทาราในกลุ่มลักซูรี่โฮเทลมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น สำหรับรีสอร์ตหรูแห่งแรกภายใต้แบรนด์รีเซิร์ฟ ของกลุ่มเซ็นทารา ที่พัฒนาปรับปรุงมาจากโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ บีชรีสอร์ทสมุย ที่สร้างมาแล้วกว่า 20 ปีเป็นรีสอร์ตแห่งใหม่ ด้วยงบลงทุนกว่า 1,200 ล้านบาท มุ่งเน้นในเรื่องดีไซน์ การตกแต่ง ที่ช่วยยกระดับและพัฒนาชีวิตที่ดีขึ้น โดย นายแพททริค มูคาเซล ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเซ็นทารา รีเซิร์ฟ สมุย ได้สะท้อนแผนการดำเนินงานได้อย่างน่าสนใจ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดย นายแพททริค มูคาเซล” ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเซ็นทารา รีเซิร์ฟ สมุย กล่าวว่า เซ็นทารา รีเซิร์ฟ สมุย ประกอบด้วยห้องพักทั้งหมด 184 ห้อง ทั้งประเภทพูลสวีต และพูล วิลล่าติดหาด ที่ออกแบบผสมผสานระหว่างองค์ประกอบแบบไทยและสากลเข้าไว้ด้วยกัน อุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในห้องพักจะมีความเอ็กซ์คลูซีฟ อีกทั้งยังมี เซ็นทารา รีเซิร์ฟ สปา แห่งแรก พร้อมด้วยอาหารและเครื่องดื่มแนวใหม่ไม่ซ้ำใครจากห้องอาหารของโรงแรม ซึ่ง เซ็นทารา รีเซิร์ฟ สมุย เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวคนไทย มีอัตราการเข้าพักในระดับที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างประเทศจากระยะไกล อาทิ เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ อิสราเอล ฝรั่งเศส อังกฤษ สิงคโปร์ เกาหลี เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่จองล่วงหน้าเฉลี่ยประมาณ 7 คืนขึ้นไป บางคนจองยาวถึง 21 คืน ปรับตัวตามสถานการณ์โควิด ทั้งนี้ นายแพททริค ยังกล่าวต่อว่า ได้วางสัดส่วนรายได้จากห้องพักประมาณ 60% ของรายได้ทั้งหมด ขณะที่สัดส่วนรายได้จากอาหารและเครื่องดื่มประมาณ 40% โดยมาจากการบริการห้องอาหารและบาร์ที่มีความโดดเด่นรวม 6 ร้าน คือ Act 5 ห้องอาหารที่เป็นส่วนตัว ให้บรรยากาศเหมือนชมการแสดงเหนือระดับ, Salt Society ร้านอาหารและบีชบาร์, Sa-Nga หรือ สง่า เสิร์ฟอาหารแนวทาปาสสไตล์ไทย, The Terrace เสิร์ฟอาหารนานาชาติจากทั่วทุกมุมโลก, Pool Bar มุมยอดนิยมของรีสอร์ต เหมาะแก่การนั่งผ่อนคลายริมสระพร้อมจิบเครื่องดื่ม และ The Gin Run นำเสนอจินหลากหลายสูตรเฉพาะ อีกทั้งในปี 2565 นี้ตั้งเป้าอัตราการเข้าพักโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 60% โดยจะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 ด้วย เพราะถ้าไวรัสโควิดหายไปก็จะทำให้ตลาดทั่วโลกกลับสู่ภาวะปกติได้เร็วขึ้น แต่ถ้าหากไวรัสโควิดโอมิครอนยังคงอยู่ และประเทศต้นทางยังมีการล็อกดาวน์กันอีกครั้ง ทางโรงแรมก็ต้องปรับตัวตามสถานการณ์ หันมาโฟกัสตลาดภายในประเทศมากขึ้ ทั้งนี้ถ้าสถานการณ์ปกติทั่วไปในช่วงครึ่งปีแรกของตลาดสมุยจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวแถบเอเชีย อย่าง ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ แต่หลังจากเดือนมิถุนายนเป็นต้นไปจะเป็นนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศยุโรป อเมริกา อังกฤษ เป็นต้น ที่หนีหนาวมาหาที่พักในเมืองไทย บริการเหนือความคาดหมาย พร้อมกันนี้ นายแพททริค ยังกล่าวว่า ตามแผนตลาดของผู้บริหารยังตั้งเป้าขยายแบรนด์เซ็นทารา รีเซิร์ฟ นี้ไปอีกหลายจุดหมายปลายทางยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็นการรีแบรนด์โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ กระบี่ มาเป็น เซ็นทารา รีเซิร์ฟ กระบี่ รวมทั้งยังอยู่ระหว่างการศึกษาอีกหลายทำเล ทั้งที่เป็นโรงแรมใหม่และรีโนเวตโรงแรมเดิมที่มีอยู่แล้ว ขณะที่โรงแรมที่จะเป็นแบรนด์เซ็นทารา รีเซิร์ฟ นั้น นายแพททริค กล่าวว่า จะต้องมีความโดดเด่น และมีความเป็นยูนีคในแต่ละจุดหมายปลายทาง เพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ที่มุ่งมั่นให้บริการเหนือความคาดหมาย พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้แก่แขกผู้มาเยือน และมีความหมายในแบบฉบับของแขกแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตามจากแผนการลงทุนระยะ 5 ปี (2564-2568) เซ็นทารา ตั้งเป้าหมายเพิ่มโรงแรมในพอร์ตโฟลิโอเป็น 130-140 แห่งทั่วโลก อาทิ เมืองโอซากา (ญี่ปุ่น), ลาว, มัลดีฟส์, ยุโรป อังกฤษ ฝรั่งเศส ฯลฯ รวมถึงในประเทศไทย ส่วนตลาดในประเทศนั้น ได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ เซ็นทารา รีเซิร์ฟ เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) เป็นแบรนด์ที่ 6 ของเครือ จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 5 แบรนด์ ประกอบด้วย เซ็นทารา แกรนด์, เซ็นทารา, เซ็นทาราบูติก คอลเล็กชั่น, เซ็นทรา บาย เซ็นทารา และโคซี่