เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2565 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือโทนี วู้ดซัม ร่วมเสวนาในคลับเฮาส์ของกลุ่ม CARE คิด เคลื่อน ไทย เรื่อง “การเมืองไทยวิปโยค : การเมืองโลกวิปริต” โดยช่วงตอนท้าย ผู้ร่วมเสวนาได้สอบถามโทนีว่า หลังจากผลการเลือกตั้งหลักสี่ออกมาแล้ว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ได้กล่าวว่า Enemy of my enemy is my friend ว่า enemy แรกคือพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ แล้วโทนีคิดว่าใครเป็นเพื่อน โดยโทนี กล่าวว่า ต้องถาม ร.อ.ธรรมนัสเองจะตอบได้ดีกว่า ก็ไม่รู้หมายถึงใคร เป็นศัตรูของศัตรูแก และเป็นเพื่อนแก ถามว่าตนคงไม่ใช่ เพราะตนกับประยุทธ์ไม่ใช่ศัตรูกัน “คุณประยุทธ์เป็นเตรียมทหารรุ่นน้อง ตอนที่ผมเป็นนายกฯ ผมเป็นคนเซ็นรับสนองพระบรมราชโองการให้เขาเป็นนายพล แต่การเมืองมีการแข่งขัน ลูบคมกัน เป็นธรรมดาของการเมือง แต่ไม่ใช่ศัตรู ถ้าถามตอนนี้ ผมก็ไม่ใช่ศัตรูของคุณประยุทธ์ และธรรมนัส เขาก็เป็นรุ่นน้อง รุ่นน้องเยอะเลย แล้วก็เคยอยู่เพื่อไทยด้วย เป็นคนเหนือด้วย ก็รู้จักกันดี” ทั้งนี้โทนี ได้สอบถาม รศ. สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ ร.อ.ธรรมนัส นับเป็นศัตรูกันหรือเปล่า หรือเป็นละครฉากหนึ่ง ซึ่ง รศ.สิริพรรณ ตอบว่าไม่แน่นอน คุณธรรมนัส ทำงานภายใต้พล.อ.ประวิตรชัดเจน ที่คุณธรรมนัสออกมา วันรุ่งขึ้นมีการอัดคลิปและพูดว่า ผมออกมาแล้ว ก็ยังเป็นห่วงพี่น้องในพลังประชารัฐ เพราะคนดูแลในพรรคมีแต่ผมกับพล.อ.ประวิตร คิดว่าความสัมพันธ์ หรือความรักจงรักภักดีต่อพล.อ.ประวิตรยังชัดเจน ไม่ได้ขับออก แต่ถูกขับออก โทนี กล่าวต่อว่า ตนเห็นแล้วตกใจ รวดเร็วทันใจมาก การเมืองก็คือการเมือง ในที่สุดคุณธรรมนัสก็ต้องทำสวนกล้วยของเขาเอง และในที่สุดพลังประชารัฐก็จะมีสวนกล้วยเล็กๆน้อยๆของเขาเอง ช่วงท้ายของการสนทนา โทนี ได้เอ่ยถึงกระแสการรัฐประหารว่า ไม่น่าจะมีปฏิวัติ แต่ไม่คิดว่า นายกฯประยุทธ์ จะได้อยู่ยาวนานขนาดนั้น การเมือง ไม่เกินกลางปีต้องเลือกตั้ง แต่จะเลือกแบบไหนคิดว่า สนิมเกิดจากเนื้อในตน โอกาสที่จะเกิดเลือกตั้งใหม่ อย่างช้า กลางปีน่าจะจบ