จากกรณีน้องสาว “นก อุษณีย์ วัฒฐานะ” นักแสดงชื่อดัง ได้เข้าร้อง “หมอปลา มือปราบสัมภเวสี” ขอให้ช่วยพี่สาว โดยเชื่อว่าพี่สาวโดนทำของใส่จนสุดท้ายตัดขาดครอบครัว ติดต่อไม่ได้ 1 เดือน อีกทั้งยังเผยว่านกหวาดผวากลัวถูกคนทำร้าย กลัวถูกคนลอบยิง รวมทั้งหย่าขาดอดีตสามีเพราะถูกคนใกล้ตัวเป่าหู รายการโหนกระแสวันที่ 1 ก.พ. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ นก อุษณีย์ เคลียร์ทุกประเด็นร้อน โดยมาพร้อม ทนายเดโช ตอนนี้อยู่กรุงเทพฯ หรือเปล่า? นก : ตอนนี้กลับมาอยู่กรุงเทพฯ แล้วค่ะ แต่ก่อนหน้านี้เรามีเดินทางไปอยู่โคราชบ่อยๆ มีช่วงนึงไปอยู่ระยะยาว ไปทำบุญ ปฏิบัติธรรมค่ะ วันนี้เปิดใจเคลียร์ให้สิ้นสงสัย นกเคยไปออกรายการคุยแซ่บโชว์และมีประเด็นอีก? นก : ไม่ต้องกลัวว่าหนูจะเป็นเหมือนรายการคุยแซ่บโชว์นะคะ (หัวเราะ) มันมีประเด็นที่หนูไม่เคยพูดเหมือนกัน ขอพูดได้มั้ยคะ คือการที่เราไปออกรายการ เราตกลงกันแล้วว่าเราจะคุยกันเรื่องอะไร พอถึงหน้างาน เราไม่ได้รับคำถามที่เตี๊ยมมา มันมีนอกสคริปต์ มันมีคำถามที่เราบอกแล้วว่าเราไม่พูดเรื่องนี้ แล้วมันเป็นรายการสด เราต้องพยายามสะกดอารมณ์ เหมือนเราโดนรังแก ทำไมคุณใช้ความเป็นรายการสดมาทำแบบนี้ ตอบแทนคนทำรายการสด ไม่ได้เข้าข้างนะ ในบางคำถาม พิธีกรก็อยากรู้ อยากแคะ พี่ก็เป็น แต่นี่เราไม่ได้คุยมาก่อนว่าจะคุยเรื่องอะไร วันนี้เราจะคุยกันให้เคลียร์ให้สิ้นสงสัย คุณนกมันเกิดอะไรขึ้น น้องสาวคุณเขาเป็นห่วง เขาบอกคุณไปโดนของหรือเปล่า? นก : นกตลกมากกว่า มองว่าเรื่องนี้ไร้สาระมาก เราไม่ได้ลบหลู่เรื่องนี้ เรารู้ตัวทุกอย่าง มีสติสัมปชัญญะครบถ้วนดีไม่ว่าจะทำอะไร ไม่ได้มีช่วงแบลงก์วูบหายจำไม่ได้ อย่างพี่หนุ่มเป็นสายมูเตลู น่าจะดูออก คนโดนของจะเป็นแบบนี้เหรอคะ (หัวเราะ) ใช่มั้ย ยืนยันว่าไม่ได้โดนของ? นก : ไม่โดนค่ะ ไม่มีค่ะ สิ่งที่คนกังวลใจ คือคุณกำลังหลงไปในคำพูดคนข้างตัว เหมือนพูดเป่าหูให้คุณมีความเชื่อแปลกๆ? นก : ถามว่าโดนเป่าหูมั้ย นกโดนเป่าหูเรื่องทำบุญค่ะ (หัวเราะ) จะบอกว่าเมื่อก่อนไม่ใช่คนแบบนี้เลย ไม่ใช่คนเข้าวัด ทำบุญบ่อยๆ เยอะๆ จนกระทั่งมาได้รู้จักเพื่อนสายบุญกลุ่มนี้ แล้วด้วยความก่อนหน้านี้เรามีข่าวรู้สึกว่าดวงตกจังเลย มีการทำบุญเยอะขึ้น บ่อยขึ้น พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเราคือการไปปฏิบัติธรรมครั้งแรก (หัวเราะ) ไปวัดบ่อยๆ จนตอนนี้เราทำบุญทุกวันพระแล้วค่ะ ทางฝั่งน้องสาวคุณไปออกรายการคุณปอเปี๊ยะ คุยทะลุดราม่า มีบางคำถามที่ เล็ก น้องสาวคุณ เขาพูดออกมา อย่างเช่นเรื่องอดีตสามี เป็นชาวต่างชาติ ? นก : เอ่ยชื่อก็ได้ เดี๋ยวเขาคิดว่ามีหลายคน (หัวเราะ) เขาว่าคุณไปขอหย่าอดีตสามี เพราะว่าคนข้างตัวคุณที่เป็นอดีตผู้จัดการกับแฟนคลับนักแสดงสาวท่านนึงที่เคยมีปัญหากับคุณ ไปเป่าหูคุณว่าสามีคุณมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นและมีคลิปด้วย คุณเลยตัดสินใจไปหย่ากับเขาทั้งที่ไม่เคยเห็นคลิป จริงมั้ย? นก : อันนี้ไม่จริงค่ะ นกมองว่าน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดมากกว่า การที่ไมได้รู้จริงในข้อมูลของเขา (น้องสาว) จะมีใครรู้เรื่องส่วนตัวดีมากไปกว่าเราสองคนที่อยู่ด้วยกัน การหย่า นกไม่ได้อยากพูดถึง เพราะตอนเราจด เราก็จดแบบเงียบๆ เราต้องการรักษาความเป็นส่วนตัว ตอนหย่าก็ไม่ได้อยากออกมาพูด เพราะมีเหตุผลส่วนตัวหลายๆ เหตุผล เป้าหมายในชีวิตต่างกัน ถึงจุดนึงต้องแยกย้ายค่ะ ยืนยันว่าไม่มีเรื่องการถูกเป่าหู แล้วเขาไปมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น? นก : ถ้าแค่นั้นคงไม่.. มีคนบอกมั้ยว่าอดีตสามีคุณไปมีอะไรกับคนอื่น แล้วเขาถ่ายคลิปไว้? นก : เอาจริงๆ เรื่องความเจ้าชู้หรืออะไร นกว่ามันอยู่ในผู้ชายทุกคน เพราะฉะนั้นไม่ได้เป็นประเด็นหลักค่ะ ตกลงมีคนมาพูดเรื่องนี้มั้ย? นก : นกบอกแล้วว่าเป็นปกติ เรื่องมีโน่นนั่นนี่ ยอมรับว่ามี แต่ฝั่งสามีคุณบอกว่าเขาไม่มีใครเลย คุณถูกเป่าหูมาและไปเชื่อเขา? นก : ไม่ใช่เรื่องนี้ นกหมายถึงมันเป็นเรื่องปกติเวลาเราคบใคร ก็ต้องมีคนมาบอกว่าคนนี้เจ้าชู้ ที่แน่ๆ คุณยอมรับว่าคุณเลิกรากับอดีตสามี? นก : ไม่ใช่สาเหตุนี้ค่ะ เป็นเรื่องของทัศนคติและเป้าหมายในชีวิตที่มันต่างกัน คือเราแก่แล้วไง เราเดินทางมาถึงจุดที่เรารู้ว่าจะใช้ชีวิตบั้นปลายยังไง อย่างที่เราพูดไปก่อนหน้านี้ว่าเราไม่อยากมีลูก เขาอยากมีลูก ถึงวันนึงก็แยกย้ายกันไป อันนี้ก็ส่วนนึง มีเรื่องถึงขั้น คุณเองกังวลใจเรื่องถูกตามฆ่า เขาบอกคุณกลัวมาก เพราะก่อนหน้านี้คุณมีปัญหากับนักแสดงสาวท่านนึง มีคนเป่าหูคุณว่าสามีนักแสดงคนนั้น ส่งคนตามฆ่าคุณ คุณเลยกลัว แล้วพยายามหลบ จนต้องหนีไปหลบที่โคราช แล้วไปฟังแฟนคลับ ก. ซึ่งเป็นแฟนคลับคนเก่านักแสดงสาวท่านนั้น เขาบอกคุณไปอยู่เพราะเขาสามารถเสกมนต์อำพรางบ้าน ไม่ให้คนตามไปยิงคุณได้? นก : (หัวเราะ) เอางี้ แยกเป็นสองประเด็นก่อน ประเด็นแรกที่นกไปอยู่โคราช ถามว่าไปทำไม ช่วงก่อนหน้านี้เป็นช่วงโควิด สองคือเราไม่ได้ถ่ายละครพอเป็นโควิด แล้วเรามีเรื่องคดีความด้วย เราไม่สบายใจ พออยู่กรุงเทพฯ ไม่ได้มีงาน เราก็เดินทางไปทำบุญ ไปต่างจังหวัด จริงๆ ไปมาหลายที่ ก่อนหน้านั้นไปจังหวัดอื่นจนพอมาโคราชก็รู้สึกสบายใจที่จะอยู่ตรงนั้น มีเพื่อนคนรู้จักให้การต้อนรับดูแลอย่างดีจากชาวโคราช ก็เลยตัดสินใจอยู่ตรงนั้น พออยู่แล้วมันมีช่องทางทำมาหากิน นกมีรายได้ มีงานที่นั่น พอช่วงนึงเราได้กลับมาถ่ายละคร ก็ปิดกล้องไปแล้ว ถ่ายเสร็จไปแล้ว มีช่วงนึงไปๆ มาๆ ตอนนี้กลับกรุงเทพฯ แล้วค่ะ ยืนยันว่าไม่มีเรื่องนี้? นก : ไม่มีค่ะ ส่วนประเด็นมือปืน ต้องบอกก่อนว่าตอนแรก ช่วงแรกๆ ที่มีข่าวตั้งแต่ปีที่แล้ว เราก็เดินไปปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งที่ชัยภูมิ นกไปเจอจีพีเอส ติดอยู่ใต้ท้องรถ โดยบังเอิญ คือตอนแรกเหมือนเราทำของหล่น แล้วเป็นรถเก๋งเตี้ยๆ เราคลานไปเก็บ เราเห็นอะไรวะอยู่ตรงท้ายรถ ประหลาดๆ เป็นกล่องสี่เหลี่ยม เราก็หยิบออกมาแล้วไปถามเขา เขาบอกว่าเป็นจีพีเอส คำถามคือใครเอาพีจีเอสมาติดรถเรา เราไมได้ติดเองแน่นอน เราก็ปรึกษาตร.ที่มาปฏิบัติธรรมด้วยกัน เขาแนะนำให้ไปแจ้งความ ลงบันทึกประจำวัน เราก็เกิดความไม่สบายใจเนอะ เพราะเราไม่รู้หรอกเรื่องมือปืน แต่เรารู้ว่ามีใครสักคน ติดจีพีเอสเรา ก็ลงบันทึกประจำวันเพื่อความสบายใจ และใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทค่ะ มีการระมัดระวังตัวเป็นปกติ คุณคิดว่าคนติด ผู้ไม่หวังดี คู่กรณี? นก : เอางี้ดีกว่า นกไปปฏิบัติธรรมอยู่เดือนนึงที่วัดนั้น อยู่มาประมาณอาทิตย์นึงเพิ่งเจอจีพีเอส คุยกับตร.ท่านนี้ผ่านไปประมาณ 3-4 วัน หลายวัน เราก็จะเอาจีพีเอสอันนี้ไปแจ้งความ คุณพี่ตร.ก็บอกว่าให้เอาไปวางไว้ที่เดิมที่เราเจอ แล้วถ่ายรูปเพื่อเป็นหลักฐานว่าเราเจอตรงนี้ ระหว่างถือจีพีเอส และคลานไปใต้รถเพื่อวางไว้ที่เดิมเพื่อถ่ายรูป เจออีกอันค่ะ แล้วใครมันจะพยายามขนาดนั้น ในเมื่อเราอยู่ปฏิบัติธรรมในวัดในป่า ไปกับใคร? นก : ตอนมีเรื่องใหม่ๆ ก็ไปกับอาบีค่ะ ตอนแรกๆ ที่เป็นข่าว เราก็เกิดความทุกข์ด้วยกันทั้งคู่ อาบีเป็นสายบุญ เขาก็ชวนไปปฏิบัติธรรม เราก็ไปกับเขา นี่แหละค่ะคือจุดเริ่มต้น คุณไปป่าลึกมั้ย? นก : รอบๆ เป็นไร่มันสำปะหลัง คนไปได้ต้องรู้ค่ะ ก.ไปมั้ย? นก : ไม่ได้อยู่ค่ะ ขอถามแบบคนโง่ อาบีติดเองได้มั้ย? นก : ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ไม่ได้กล่าวหาอาบีนะ แค่อยากรู้? นก : เรื่องนี้เป็นหน้าที่เจ้าหน้าที่ตร. เขาไปสืบว่าเป็นซิมใคร มีรอยนิ้วมือใครมั้ย ซึ่งมัน 2 ครั้งแล้ว คงไม่หวังดีแล้ว เพราะไม่งั้นคงไม่พยายามสองครั้ง ทนาย : ไม่รู้ติดเมื่อไหร่ ที่ไหน ไม่สามารถเช็กรายละเอียดได้ คำถามย้อนกลับมา เป็นอาบีได้มั้ยเป็นไปได้หมด แต่เราไม่ทราบ เพราะไม่มีข้อมูล ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องถามให้สิ้นสงสัย ถ้าถามลอยๆ แล้วบอกว่าเป็นคู่กรณี อีกมุมอาจถามว่าเป็นอาบีก็ได้ไง? นก : เราไมได้ปรักปรำใคร แต่การโดนสองครั้งที่เราเจอ มันทำให้เราไม่สบายใจ เราใช้ชีวิตก็ต้องไม่ประมาท เอฟซีฝั่งโน้น มาอยู่กับคุณและอาบี สนิทสนมกัน ชื่อ ก. คนนี้เขามักบอกเสมอว่าวิญญาณจั๊กจั่นเข้าร่างเขา? นก : เขาตายแล้วเหรอคะ เขาบอกวิญญาณนักแสดงเข้าร่างเขา มาอยู่ในฝันเขา และบอกว่าจะตามฆ่าคุณ พยายามเอาตัว ก. ไปเป็นพวกให้ได้ ถ้าเป็นพวกเมื่อไหร่คุณถูกจับทันที ทาง ก. พยายามบอกว่าคุณต้องช่วยเขา ปลุกเขาตลอด อย่าให้วิญญาณนักแสดงคนนั้นมาเรียกเขา คุณก็ต้องนั่งเฝ้าเขา จริงมั้ย? นก : ถามกลับพี่หนุ่ม พี่หนุ่มว่ามันเป็นจริงได้มั้ย มันเป็นไปได้เหรอ (หัวเราะ) ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ค่ะ คือเอาเป็นว่าที่นกไปอยู่โคราช หนึ่งในแก๊งทำบุญคือน้องคนนี้ด้วย และมีทีมอื่นๆ อีกหลายคน พี่ๆ อสม. ผู้นำชุมชน เป็นแก๊งใหญ่ที่เราทำโรงทาน ถุงยังชีพค่ะ กรณีที่เกิดทั้งหมด มีการลือกันถึงขั้นที่ว่า ฝั่ง ก. บอกให้คุณถ่ายอุจจาระใส่ถุง แล้วบอกให้เอามาให้เขา เพื่อเขาจะไปปานักแสดงคนนั้นในฝัน เพื่อไม่ให้มาวุ่นวายกับคุณ คุณเคยทำมั้ย? นก : (หัวเราะหนักมาก) นกว่ามันไร้สาระมาก เราไม่คุยเรื่องนี้ดีกว่า นกว่ามันไม่มีประโยชน์ สงสารผู้ชมต้องมาเสพข่าว มันมีคำแบบนี้จริงๆ ที่เขาพูดมา ที่ลือกันมา ว่าคุณเชื่อเรื่องแบบนี้มาก? ทนาย : เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดกับคุณนกมั้ย นก : นกไม่ทราบนะคะ ถ้ามีหลักฐานล่ะ เช่นการที่คุณพูดคุยกับคนๆ นั้นถึงเรื่องนี้ ถ้าหลุดออกมาจะทำยังไง? นก : ถ้าเราพูดคุย อาจเป็นการคุยเล่นกัน เราคิดว่ามันไร้สาระมาก เราอาจคุยกันเล่นๆ ตลกๆ ก็ได้ วันนี้คุณอาจพูดว่าไร้สาระ แต่ถ้ามีหลักฐานหลุดมาจริงๆ ทำยังไง? ทนาย : ลองนึกว่าเรื่องแบบนี้เคยเกิดกับเรามั้ย เคยพิมพ์แชตมั้ย คุณอาจเคยเชื่อมาก่อน แต่วันนี้คุณอาจไม่เชื่อแล้วก็ได้ วันนี้ไม่อยากให้บอกว่าไม่ใช่ๆ แล้วสุดท้ายมีหลักฐานมาตู้ม จบเลยนะ? นก : นกว่ามันไร้สาระมากเลยค่ะ ทนาย : คุณนกตอบประเด็นนี้ก่อน มีเรื่องนี้จริงมั้ย นก : พูดเล่นอาจมี เหมือนเป็นการพูดไร้สาระเล่นกันมากกว่า แหม พูดไปเดี๋ยวก็เป็นคดี บางทีเราโกรธใครเราก็อยากเอาขี้ไปขว้างใส่เขา (หัวเราะ) แต่เป็นเรื่องไปขว้างในฝันเพื่อไม่ให้ดารามาวุ่นวายในฝัน? นก : นกว่าเป็นความเข้าใจผิดมากกว่าที่เอาสิ่งที่พูดเล่นไปคิดเป็นจริงเป็นจัง ถ้าปาจริงก็โดนแจ้งความจับสิคะ ทนาย : เราฝันเรื่องอะไรมันกำหนดได้เหรอครับ ผมมีไลน์ที่พูดคุยกันระหว่าง ก. แฟนคลับฝั่งโน้น เขาแปรพักตร์แล้ว แยกมาอยู่กับคุณ เขาอ้างว่าเขาโดนวิญญาณนักแสดงคนนั้นมาทำของใส่ จนมาเข้าร่าง และเขาคุยกับคุณผ่านไลน์ มีอันนี้อยู่นะ? นก : (หัวเราะ) อยากเห็นมั้ย? นก : (หัวเราะ) ไม่ทราบค่ะ แล้วแต่ค่ะ ทนาย : มันมีข้อมูลแบบนี้จริงมั้ย เดี๋ยวขึ้นให้ดูแล้วกัน คุณบอกว่าใช่หรือไม่ใช่ พรุ่งนี้ห้ามกอด ห้ามพูด อย่าลืมนะมึงไว้ใจสำคัญแล้ว อีอุษ อีโง่ คนที่พิมพ์ คือไลน์คนๆ นึงที่เป็นแฟนคลับทางฝั่งโน้น เขาอ้างว่าวิญญาณฝั่งโน้นมาเข้าร่างเขา และมาคุยกับคุณ นี่คือไลน์คุณ นี่คือคุณกับเขามั้ย? นก : พิมพ์ไม่ค่อยรู้เรื่องเลยนะคะ (หัวเราะ) ทนาย : จำได้มั้ยว่าคุยแบบนี้จริงมั้ย นก : ก็มีเคยคุยกันค่ะ เขาอ้างว่าเป็นวิญญาณคนโน้นมาเข้าร่างเขา? นก : เท่าที่คุยก็เห็นอยู่ว่าตัวเขามาคุยกับนก หมายถึง ตัววิญญาณมาเข้า แล้วคุยกับคุณ? นก : เอ่อ นกไม่ทราบค่ะ ถ้าอย่างนั้น (หัวเราะ) มีข้อมูลอีกเยอะมาก ต้องพูดให้ชัดๆ ถ้าหลุดทั้งยวงจะวุ่นวาย ต้องเอาให้ชัดแล้วเคลียร์กัน? นก : นกไม่ทราบหรอกค่ะ มันเป็นเรื่องพิสูจน์ไม่ได้ ทนาย : ข้อมูลที่ขึ้นเมื้อกี้ จริงมั้ย นก : ที่นกเห็น เป็นข้อความที่มีคนส่งมาด่าๆ แบบนี้ แค่นั้นค่ะ นกไม่สามารถไปบอกได้ว่าเป็นวิญญาณใครหรืออะไร ยอมรับว่ามีส่งมาหาคุณ? นก : มีคนส่งมาด่าเรา คนส่ง คือ ก. ถูกมั้ย? นก : ค่ะ ทนาย : สาเหตุที่หายไปปฏิบัติธรรมเกี่ยวกับเรื่องนี้มั้ย หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น เอามาเป็นประเด็นหลักมั้ย นก : ไม่ค่ะ ไม่ได้เกี่ยวค่ะ ถามว่าคนที่รู้จักกัน สนิทกัน ก็อาจมีบ้างทะเลาะกัน ผิดใจกัน มีการคุยด้วยภาษาที่อาจดูรุนแรงนิดนึง แต่ท้ายที่สุด ไม่ได้หมายความว่าเราเกลียดกันค่ะ เขาบอกคุณหายตัวไปเลย ไม่ติดต่อแม่เลย? นก : เรื่องหายตัวไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างที่บอกอยู่ในกรุงเทพฯ ไม่มีงาน ถ่ายไม่ได้มีโควิด แล้วเรื่องคดีอีก เราไม่สบายใจที่จะอยู่ตรงนี้ เราเลยไปทำบุญ ไปไหนๆ ที่ต่างจังหวัด วันนี้คุณมากับคุณแม่ ที่เขาบอกนกหายไปจากแม่ จริงมั้ย? แม่รัตนา : ปกติเราอยู่กันคนละมุมอยู่แล้ว เพราะงานเขาเป็นงานนักแสดง งานแม่เป็นงานสวนทุเรียน ต้องแยกกันอยู่ อยู่แล้ว อยู่กันคนละมุม แต่เราก็โทรคุยกันตลอด ว่าเป็นยังไงบ้าง แม่เชื่อมั้ยว่าวันนี้ลูกสาวแม่กลัวถูกคนตามฆ่า? แม่รัตนา : ถ้าปัญหาตรงนี้ อย่างที่เขาบอกต้องระวังตัวมันก็ถูก มันไม่ได้แปลกค่ะ เขาก็ระวังตัวของเขาอยู่ เรื่องการหายตัว คือเราอยู่คนละจังหวัด เมื่อก่อนอยู่ด้วยกัน แต่ปี 54 น้ำท่วมแม่กลับไปทำสวนทุเรียน เรื่องคุย เราคุยกันอยู่แล้ว ไม่ได้ห่างหายไปไหน นกส่งเสียแม่ตลอด? แม่รัตนา : ค่ะ ติดต่อกันตลอด ไม่วาจะวันสำคัญหรือไม่สำคัญเราติดต่อกันตลอด คุยกันตลอด กับน้องสาวสนิทมั้ย? นก : สนิทมากค่ะ คุยกันครั้งสุดท้ายประมาณ 2 อาทิตย์ ทำไมเขาถึงไปร้องหมอปลาบอกว่านกเปลี่ยนไป ทำไมไปหาหมอปลาแบบนี้? นก : อย่างแรกนกคิดว่าน่าจะเกิดจากความเข้าใจผิดกัน อาจคิดเองเออเองสรุปไปเอง จากสิ่งที่เห็นแต่ไม่ได้รู้ลึกรู้จริง สองคือนกไม่ทราบว่าอาจจะเป็นห่วงด้วยหรือเปล่า แต่มันไม่ใช่สาเหตุที่มันมีประเด็นตรงนี้ สาเหตุเกิดจากสิ่งที่เขาทำก่อนหน้านั้น ซึ่งนกคงไม่ขอลงรายละเอียด แต่ก็อยากให้เขาลองย้อนไปทบทวนดีกว่า ว่าเขาทำอะไรกันบ้าง คุณทะเลาะอะไรกันมั้ย? นก : (เงียบ) คุณดูไม่มั่นใจ? นก : ไม่ใช่ค่ะ กำลังมองว่าควรให้พี่เดโชพูดหรือเปล่า ทนาย : ถามว่าต้นสายปลายเหตุเกิดจากอะไร เชื่อว่ามีการกระทบกระทั่งกันอยู่ การที่น้องเขาออกมาอย่างนี้อาจหวังดีว่าพี่สาวโดนอะไรหรือเปล่า แต่ทางคุณนกยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากเรื่องเหล่านั้นตามที่เขาสงสัยกัน ก็อยากฝากคุณเล็ก ในเมื่อคุณนกชี้แจงชัดเจนแล้ว ว่าเหตุที่หายไป ไม่ได้เกิดตามสิ่งที่คุณเล็กสงสัย ก็อยากให้ยุติเรื่องนี้ ในการเดินสายไปออกโน่นนี่นั่น เพราะบางคำพูดไปพาดพิงบุคคลที่ 2 3 4 มันเสี่ยงอันตราย อาจไม่เอ่ยชื่อโดยตรง แต่ถ้าลักษณะการไประบุแบบนี้ แล้วทำให้ประชาชนรู้ได้ว่าหมายถึงใคร อย่างนี้ก็จะมีความผิดฐานหมิ่นประมาท ตรงนี้อาจมีปัญหาในภายหน้าได้ มีโอกาสคุยกันได้มั้ย เขาบอกว่าคุณไม่ได้คุยกันตั้งแต่ก่อนสิ้นปี? ทนาย : ตามข่าว 25 ธ.ค. แต่คุณนกบอกว่าหลังสุดเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้วมีการคุยกัน นก : คุยกันตลอด พอช่วงม.ค. มีความเข้าใจไม่ตรงกัน ไม่ได้หายไปเลย นกไม่อยากพูดถึงรายละเอียด แต่แค่อยากให้เขาถามตัวเองดีกว่า กว่าจะมาถึงจุดนี้เขาทำอะไรไว้บ้างและสร้างความเสียหายอะไรบ้าง ให้ไปคิดทบทวนดู ถามว่านกโกรธเกลียดมั้ยก็ไม่อยู่แล้ว เรื่องเคลียร์ให้เป็นเรื่องอนาคต คือถ้าเขาทบทวน และเห็นว่าเขาทำอะไรผิดพลาดพร้อมคุยกันก็มีโอกาสเคลียร์แต่ถ้าเขาไม่ยอมรับตรงนี้ นกก็มองว่าเราแยกย้ายกัน ต่างคนต่างดูแลชีวิตตัวเอง แม่ว่ายังไง? นก : แม่เขาก็เครียดอยู่แล้ว เขาก็อยากให้ลูกรักกัน จะถามทำไมล่ะพี่ เรื่องบางเรื่องก็ต้องใช้เวลา แม่รัตนา : สองคนนี้ต่างกัน น้องนกเป็นคนหวานๆ น้องสาวจะอารมณ์รุนแรงหน่อย ถ้าน้องขอคุยด้วย โดยไม่ต้องมีอาบี ก. อยู่ด้วย เคลียร์สองคนได้มั้ย? นก : นกว่าควรไปคุยกันในครอบครัว ไม่มีคนอื่น ไม่ออกสื่อค่ะ ก็เป็นเรื่องอนาคตค่ะ ทนาย : ทางคุณเล็กบอกว่าติดต่อไม่ได้เลย เป็นเดือนๆ แล้ว เกรงว่าจะไปเจอเรื่องโดนคุณไสยอะไรต่างๆ เข้าใจว่าเป็นห่วง แต่ในความป็นจริงคุณแม่ติดต่อคุณนกตลอดเวลา คุณแม่รับทราบว่าคุณนกทำอะไรที่ไหนยังไง ฉะนั้นการบอกว่าติดต่อ ไม่ได้เลย อาจเป็นเพราะคุณนกมีปัญหาส่วนตัวกับเขา แล้วถึงขั้นไม่อยากรับสาย อาจเป็นจุดนี้หรือเปล่า ทำให้เข้าใจผิดว่าคุณนกโดนของอย่างโน้นอย่างนี้ จะเจอหมอปลามั้ย? นก : ไม่รู้จะเจอทำไม หนึ่งเรามั่นใจว่าเราไม่ได้โดนของ สองเราไม่ใช่ศาล ที่หมอปลาจะมาทุบอะไรเรา (หัวเราะ) แกเป็นคนมีของ น่าจะมองรู้ว่านกโดนของมั้ย คุณอาจโดนเป่าหูเหมือนถูกสะกดจิตทุกวัน นักแสดงฝั่งโน้นจะฆ่านะ สามีจะฆ่าเธอนะ พูดกรอกหูทุกวัน ทำให้คุณเชื่อ? นก : ไม่มีใครทำให้เราเชื่อค่ะ ทนาย : ผมก็เคยถามคำนี้ ยังหาเหตุผลไม่ถูกเลยว่าจะเป่าหูทำไม ทำเพื่ออะไร แล้วเขาได้ประโยชน์อะไร ถ้าปั่นแล้วใครได้ประโยชน์ เพราะคดีก็ต่างคนต่างเดิน คดีคุณจั๊กจั่น ตอนนี้โอกาสเจรจาเป็นไง? ทนาย : ก็มีโอกาส เมื่อ 27 ที่ผ่านมา ได้ไกล่เกลี่ยกัน ได้เจอผู้รับมอบอำนาจอีกฝั่ง เป็นนิมิตหมายที่ดี รอแค่ดีเทลแค่บางส่วน ศาลนัดอีกที 5 เม.ย. ซึ่งคาดว่าน่าจะไกล่เกลี่ยจบด้วยดี มีการยอมหรือเยียวยาก็ว่ากันไป แล้วมีการถอนฟ้องไม่ดำเนินคดีกัน ได้คุยกับจั๊กจั่นมั้ย? นก : ยังไม่ได้คุยค่ะ ทนาย : วันนั้นผมติดศาลอีกที่นึง มีพี่ทนายอีกท่านมาเจรจาตรงนี้ แต่ทีมเดียวกันสามารถพูดคุยและรับทราบข้อเท็จจริงตรงนี้ เงื่อนไขที่เราเสนอ ฝั่งโน้นรับไปก็โอเค นก : วันนั้นนกไป แต่ทางนั้นเขาไม่ได้มาค่ะ เขามีแค่ตัวแทน คุณอยากให้จบ? นก : อยากให้จบสิคะ (หัวเราะ) ทนาย : ทางเราอยากให้ไกล่เกลี่ย ถ้ามองจริงๆ ไม่ได้ร้ายแรง คุยกันได้ ยิ่งเป็นเพื่อนกันมาก่อน น่าจะคุยกันได้ เพียงแต่ไม่มีเวทีให้คุยกัน ทำไมไม่ติดต่อจั๊กจั่น เคลียร์ให้จบไปเลย ถ้าไม่คุยกันตัวต่อตัว ปัญหาถูกโยงไปคนโน้นที คนนี้ที เรื่องไม่เหมือนการคุย เหมือนการฝาก ทำไมไม่ติดต่อไปคุย ทุกเรื่องที่เกิดขึ้น? นก : ถ้าในคดี ตอนแรกที่เกิดข่าว นกมีการคุยไปแล้วนะคะ แต่เขาไม่ยอม? นก : ใช่ค่ะ เวลาช่วยได้ วันนี้น่าจะลองคุยนะ โทรไปเลย เราจบเลิกแล้วต่อกัน อะไรไม่ดีเราขอโทษ ผมว่ามันเคลียร์? นก : ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนของศาลอยู่แล้ว นอกรอบ? ทนาย : อันนี้ผมเห็นด้วยกับคุณหนุ่ม เหมือนการแสดงเจตนา หลังจากนี้ ถ้าเรามีเจตนาที่ดีจะจบเรื่อง ผมว่ามันไปได้ แค่นั้นเอง เป็นไปได้มั้ย ลูกมานั่งคุยกันในครอบครัว ให้จบไปก่อน? แม่รัตนา : ก็เป็นไปได้ค่ะ ปัญหาอยู่ตรงที่ตอนนี้เขาอยู่กันคนละที่ เล็กน่าจะห่วงด้วย และคงคิดมากด้วยว่าพี่สาวไปอยู่ไกล น่าจะเป็นปัญหาตรงนี้มากกว่า เขาเลยคิดไปคนเดียว เป็นไปได้มั้ย แม่ติดต่อแล้วให้คุยในเร็ววัน? แม่รัตนา : น่าต้องทำอย่างนั้นแล้วล่ะค่ะ ไม่งั้นคิดกันไปคนละอย่าง ไปกันคนละทาง มันจะไม่จบ กังวลมั้ยเรื่องนี้? นก : ไม่ค่อยนะคะ เพราะอย่างที่บอก สุดท้ายเป็นเรื่องภายในครอบครัว อันที่จริงนกไม่ได้อยากให้เป็นข่าวด้วยซ้ำ ทนาย : เรื่องนี้อยากให้แม่เร่งคุยไม่รู้คุณเล็กมีเจตนายังไง อาจหวังดี แต่มันจะพาดพิงคนอื่น เราไม่รู้ผู้เสียหายเหล่านั้นจะคิดยังไง จะมีผลทางคดีด้วย ถ้าปรับความเข้าใจกันได้อย่างเร็วจะเป็นประโยชน์มากกว่า มุมคดีความ ณ วันนี้ดูให้อาบีด้วย ? ทนาย : ถูกต้องครับ ไปถึงไหนแล้ว? ทนาย : เคสคุณนกมีการไกล่เกลี่ย นัดแรก 27 ก.พ. เบื้องต้นเป็นไปในทางที่ดี ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ก็มอบเงื่อนไขไป คิดว่าน่าจะทำกันได้ 2 ฝ่าย 5 เม.ย. คาดว่าคดีจะเสร็จ อันนี้คดีคุณนก มีการไกล่เกลี่ย ถ้าตกลงกันได้ตามเงื่อนไขสองฝ่ายเสนอกันมา ก็จะมีการถอนคำร้องทุกข์ก็ว่ากันไป ถ้าไกล่เกลี่ยไม่ลง จะไปมุมไหนต่อ? ทนาย : อันนี้ขออนุญาตไม่กล่าวถึงดีกว่าเดี๋ยวจะมีผลต่อรูปคดี แต่ใจผมถ้าคุยกันได้ ยอมความได้ คดีไม่ได้ร้ายแรง ก็อยากให้จบตรงนั้นมากกว่า ถ้าอีกมุมของอาบี อดีตผู้จัดการจั๊กจั่น จะไปจบตรงไหน? ทนาย : เบื้องต้นก่อน พนักงานอัยการศาลแขวงดอนเมือง นัดวันที่ 14 ยังไม่ได้ยื่นฟ้องเลยครับ คดีนั้นยังไม่ได้ยื่นฟ้อง มีการเลื่อนมาหลายครั้ง อาจมีการสอบข้อเท็จจริงไม่สมบูรณ์ ยังไม่เสร็จสิ้น ล่าสุด 14 ก.พ. มีการนัดส่งตัวให้อัยการ แต่เรายังไม่เห็นคำฟ้องต่างๆ นก : พี่หนุ่มต้องจ้างอาบีมาต่างหาก และมาพร้อมทนาย พี่หนุ่มจะยิงนัดเดียวได้นกสองตัวไม่ได้ (หัวเราะ) ทนาย : ดีเทลคดีอาบีขอยังไม่กล่าวถึงดีกว่า เพราะรอดูทิศทางสำนวนว่าเป็นยังไง เพราะตอนนี้ยังไม่มีการส่งฟ้อง นัดอีกที 14 ก.พ. อยากพูดอะไรกับน้องสาว? นก : อย่างที่เคยพูดค่ะ ทุกอย่างเป็นเรื่องในครอบครัว ไม่ได้อยากให้เป็นข่าวตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ฉะนั้นตอนนี้ปัญหาอะไรในครอบครัวก็ขอให้เป็นเรื่องในครอบครัว ให้มันอยู่แค่นั้น ยืนยันว่าไมได้โดนของ? นก : ไม่ได้โดนของค่ะ ไม่ได้กลัวเรื่องถูกตามฆ่า หรือมีบ้าง? นก : มีความไม่สบายใจ ในความไม่รู้ ก็เลยพยายามใช้ชีวิตโดยไม่ประมาท ตอนนี้กลับมาอยู่กรุงเทพฯ แล้วตอนแรกที่หลบไปอยู่โคราช หนีไปอยู่โคราช หนีมือปืน? นก : หนีโควิดค่ะ ไปทำบุญ เรื่องความไม่สบายใจในเรื่องคดี ยังคุยกับอาบีอยู่มั้ย? นก : น้อยมากค่ะ 2-3 เดือนเจอกันครั้งนึงในงานบุญค่ะ กับ ก. ล่ะ? นก : จริงๆ ตอนอยู่โคราช มีเพื่อนแก๊งใหญ่ทำบุญด้วยกัน น้องคนนี้คือหนึ่งในนั้น แล้วเป็นคนที่เรามีการทำงาน ทำธุรกิจด้วยกันที่นั่น ที่บอกว่าเราอยู่โคราชเรามีรายได้ เราเลยไมได้กลับมากรุงเทพฯ ทิศทางคดีน่าจะดี ทนายคิดเองหรือเปล่า? ทนาย : ไม่ครับ เราผ่านกระบวนการไกล่เกลี่ยมาชั้นนึงแล้ว เรามีทิศทางแล้ว ส่วนเรื่องอาบียังไม่มีการยื่นฟ้อง จะพูดกับนักข่าวอีกมั้ย? นก : ไม่ค่ะ จริงๆ ไมได้อยากออกมาพูด เราเงียบมาตลอดอยู่แล้ว แต่โหนกระแสติดต่อมา เราเลยตัดสินใจมาคุยที่นี่ที่เดียว ขอบคุณพี่หนุ่มด้วยค่ะ