ตามที่ราษฎรตำบลโคกเจริญ อำเภอโคกเจริญ จังหวัดลพบุรี ได้ขอพระราชทานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ประสบความเดือดร้อนจากภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค รวม 4 อำเภอ คือ อ.โคกเจริญ อ.หนองม่วง อ.สระโบสถ์ และ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี สำนักงาน กปร.พร้อมด้วยผู้แทนกรมชลประทาน กรมป่าไม้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและราษฎรร่วมกันตรวจสอบพื้นที่แนวทางการดำเนินโครงการฯ ตามที่ได้ขอพระราชทาน จึงเห็นควรก่อสร้างฝายบ้านโคกเจริญ โดยจุดที่ตั้งมีสภาพพื้นที่เป็นที่ราบสลับที่ราบเนิน มีห้วยมะเดื่อซึ่งเป็นคลองธรรมชาติไหลผ่าน ซึ่งเมื่อการก่อสร้างฝายแล้วเสร็จจะสามารถเก็บกักน้ำได้ประมาณ 80,000 ลูกบาศก์เมตร และจะส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกในช่วงฤดูฝนประมาณ 1,600 ไร่ ช่วงหน้าแล้งประมาณ 250 ไร่ ประชากร 1,029 ราย มีน้ำเพียงพอในการอุปโภคบริโภค
พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี รองประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคกลาง เปิดเผยในระหว่างการติดตามโครงการฯ ว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่ 10 เป็นล้นพ้นที่พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ รับโครงการนี้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
“ผมเดินทางมาในครั้งนี้เพื่อแจ้งให้กับประชาชนทราบว่า โครงการนี้ได้เป็นโครงการพระราชดำริเรียบร้อยแล้ว ซึ่งพื้นที่แห่งนี้ในช่วงฤดูแล้งจะแล้งมาก ขณะที่ฤดูน้ำหลากน้ำจะท่วมสูงถึงเข่า แต่จะไม่รุนแรงหรือยาวนานจึงเน้นไปที่การหาแหล่งน้ำต้นทุน เพื่อใช้ในการเกษตรกับการอุปโภคบริโภคในช่วงหน้าแล้ง และถ้าทำเกษตรทฤษฎีใหม่ซึ่งใช้น้ำน้อยนั้น เมื่อถึงฤดูแล้งเกษตรกรจะมีรายได้อย่างแน่นอน”
ด้าน นายสมบูรณ์ จำปา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 ต.โคกเจริญ เผยว่า ต่อไปจะมีน้ำเพื่อการเกษตรนอกฤดูการอย่างเพียงพอสามารถเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี และมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งโครงการได้มีการทำประชาคม ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า ต้องการให้สร้างโครงการในพระราชดำริของในหลวง จะเป็นการขุดลอกคลองเปิดทางน้ำ มีคลองส่งน้ำซ้ายและขวา มีการลอกหน้าคลองประมาณ 1 กิโลเมตร พร้อมบดอัดคันคูเพื่อยกคลองให้สูงขึ้นจะสามารถเก็บกักน้ำได้เพิ่มขึ้นทำให้เกษตรกรมีน้ำสูบลงแปลงเพาะปลูกได้ ถ้ามีน้ำหลากก็จะสามารถส่งให้พื้นที่ท้ายคลองได้ โดยคลองฝั่งซ้ายเป็นคลองโคกแสมสารมีความยาว 680 เมตร “เมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เข้ามาส่งเสริมการเกษตรด้านต่างๆ โดยเฉพาะช่วงฤดูแล้ง และจะจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำเพื่อร่วมบริหารน้ำให้ได้รับประโยชน์กันอย่างทั่วถึง”
ส่วน นายสังคม แก้วศรีสูง เกษตรกรผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการฯ เผยว่า ต.ห้วยเจริญขาดแคลนน้ำเพราะไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำ ไม่มีแม่น้ำลำคลองขนาดใหญ่ผ่าน ต้องอาศัยน้ำคลองธรรมชาติซึ่งมีน้ำน้อย ปีนี้ถือว่าเป็นโอกาสดีของราษฎรที่ได้รับโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง ที่ผ่านมาโดยเฉพาะหน้าแล้งต้องออกไปหางานทำข้างนอกหมู่บ้าน แต่เมื่อโครงการฯ นี้แล้วเสร็จ ก็จะมีน้ำเพียงพอในการทำการเกษตรช่วงหน้าแล้งได้ ไม่ต้องออกไปหางานทำที่อื่น ทุกคนได้อยู่กับบ้าน อยู่กับครอบครัว และมีรายได้
“ที่ผ่านมาจะทำนาปลูกข้าวปีละครั้งใช้น้ำฝน ได้ผลผลิตไม่มากเนื่องจากน้ำไม่เพียงพอ พอทราบข่าวว่าจะมีโครงการเกิดขึ้น ราษฎรที่อยู่ในพื้นที่ได้เข้าร่วมทำประชาคมประมาณ 500 คน ไม่มีคนคัดค้าน ทุกคนเห็นชอบที่จะมีแหล่งน้ำที่เพิ่มขึ้น มีน้ำอุปโภคบริโภค และทำการเกษตรเพียงพอ หน้าแล้งก็จะได้ปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ทุกคนจะมีการกินดีอยู่ดีขึ้นด้วย”
อีกไม่นานพื้นที่บ้านโคกเจริญ อ.โคกเจริญ รวมทั้ง อ.หนองม่วง อ.สระโบสถ์ และ อ.โคกสำโรง ก็จะมีน้ำกินน้ำใช้อย่างเพียงพอ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงใยปวงพสกนิกรเสมอมา
พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี รองประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคกลาง เปิดเผยในระหว่างการติดตามโครงการฯ ว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่ 10 เป็นล้นพ้นที่พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ รับโครงการนี้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
“ผมเดินทางมาในครั้งนี้เพื่อแจ้งให้กับประชาชนทราบว่า โครงการนี้ได้เป็นโครงการพระราชดำริเรียบร้อยแล้ว ซึ่งพื้นที่แห่งนี้ในช่วงฤดูแล้งจะแล้งมาก ขณะที่ฤดูน้ำหลากน้ำจะท่วมสูงถึงเข่า แต่จะไม่รุนแรงหรือยาวนานจึงเน้นไปที่การหาแหล่งน้ำต้นทุน เพื่อใช้ในการเกษตรกับการอุปโภคบริโภคในช่วงหน้าแล้ง และถ้าทำเกษตรทฤษฎีใหม่ซึ่งใช้น้ำน้อยนั้น เมื่อถึงฤดูแล้งเกษตรกรจะมีรายได้อย่างแน่นอน”
ด้าน นายสมบูรณ์ จำปา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 ต.โคกเจริญ เผยว่า ต่อไปจะมีน้ำเพื่อการเกษตรนอกฤดูการอย่างเพียงพอสามารถเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี และมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งโครงการได้มีการทำประชาคม ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า ต้องการให้สร้างโครงการในพระราชดำริของในหลวง จะเป็นการขุดลอกคลองเปิดทางน้ำ มีคลองส่งน้ำซ้ายและขวา มีการลอกหน้าคลองประมาณ 1 กิโลเมตร พร้อมบดอัดคันคูเพื่อยกคลองให้สูงขึ้นจะสามารถเก็บกักน้ำได้เพิ่มขึ้นทำให้เกษตรกรมีน้ำสูบลงแปลงเพาะปลูกได้ ถ้ามีน้ำหลากก็จะสามารถส่งให้พื้นที่ท้ายคลองได้ โดยคลองฝั่งซ้ายเป็นคลองโคกแสมสารมีความยาว 680 เมตร “เมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เข้ามาส่งเสริมการเกษตรด้านต่างๆ โดยเฉพาะช่วงฤดูแล้ง และจะจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำเพื่อร่วมบริหารน้ำให้ได้รับประโยชน์กันอย่างทั่วถึง”
ส่วน นายสังคม แก้วศรีสูง เกษตรกรผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการฯ เผยว่า ต.ห้วยเจริญขาดแคลนน้ำเพราะไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำ ไม่มีแม่น้ำลำคลองขนาดใหญ่ผ่าน ต้องอาศัยน้ำคลองธรรมชาติซึ่งมีน้ำน้อย ปีนี้ถือว่าเป็นโอกาสดีของราษฎรที่ได้รับโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง ที่ผ่านมาโดยเฉพาะหน้าแล้งต้องออกไปหางานทำข้างนอกหมู่บ้าน แต่เมื่อโครงการฯ นี้แล้วเสร็จ ก็จะมีน้ำเพียงพอในการทำการเกษตรช่วงหน้าแล้งได้ ไม่ต้องออกไปหางานทำที่อื่น ทุกคนได้อยู่กับบ้าน อยู่กับครอบครัว และมีรายได้
“ที่ผ่านมาจะทำนาปลูกข้าวปีละครั้งใช้น้ำฝน ได้ผลผลิตไม่มากเนื่องจากน้ำไม่เพียงพอ พอทราบข่าวว่าจะมีโครงการเกิดขึ้น ราษฎรที่อยู่ในพื้นที่ได้เข้าร่วมทำประชาคมประมาณ 500 คน ไม่มีคนคัดค้าน ทุกคนเห็นชอบที่จะมีแหล่งน้ำที่เพิ่มขึ้น มีน้ำอุปโภคบริโภค และทำการเกษตรเพียงพอ หน้าแล้งก็จะได้ปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ทุกคนจะมีการกินดีอยู่ดีขึ้นด้วย”
อีกไม่นานพื้นที่บ้านโคกเจริญ อ.โคกเจริญ รวมทั้ง อ.หนองม่วง อ.สระโบสถ์ และ อ.โคกสำโรง ก็จะมีน้ำกินน้ำใช้อย่างเพียงพอ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงใยปวงพสกนิกรเสมอมา