วันที่ 31 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนถนนสายสี่เลนบายพาส เขตเทศบาลเมือง จังหวัดสตูล รูปปั้นตุ๊กตาเด็กกับการละเล่นพื้นเมืองที่มีการสร้างไว้บริเวณเกาะกลางถนน เพื่อแสดงอัตลักษณ์ของวิถีการละเล่นท้องถิ่น ได้ถูกเปลี่ยนสภาพเป็นที่พึ่งทางใจให้กับชาวบ้านผู้พบเห็น บ้างก็นำเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้ตามเทศกาล บ้างก็นำน้ำแดงมาตั้งไว้ให้ดื่มกิน โดยเชื่อว่าเด็กๆอาจจะเล่นจนเหนื่อยและกระหายน้ำ บ้างก็นำลูกอมมาวางไว้ให้ ตามความเชื่อหลังหลายคนที่เชื่อสิ่งลี้ลับเหล่านี้ได้ดังใจหมายนำเครื่องเซ่นไหว้มาตั้งไว้ให้เพื่อแก้บน ส่งผลให้รูปปั้นประติมากรรมเด็กกับการละเล่นที่สวยงาม กลายเป็นความหลอนของผู้ใช้ยวดยานพาหนะผ่านไปมาโดยเฉพาะในยามค่ำคืน อีกทั้งหลายสายตาก็ยังมองว่ามีความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย
นางสาวบัวบาน มุจินา อายุ 53 ปี แม่ค้าอาหารตามสั่งซึ่งอาศัยอยู่บริเวณนั้นมานานกว่า 20 ปี เล่าว่า รูปปั้นเด็กๆบนเกาะกลางอยู่เหมือนมีชีวิต มีความน่ารักน่าสงสาร มีชีวิตชีวา สร้างรอยยิ้มให้คนสัญจรผ่านไปมาในตอนกลางวัน สำหรับรูปปั้นตุ๊กตาเด็ก ๆ บนเกาะกลางอยู่มาก่อนตนเสียอีก ส่วนตัวไม่เคยคิดลบหลู่และหลายครั้งก็จะนำน้ำแดง ลูกอมไปวางให้โดยเชื่อว่าเด็ก ๆ อาจจะร้อน และทุกครั้งที่นำไปให้ก็จะบนขอจากเด็ก ๆ ให้ค้าขายรายได้ดีซึ่งทำไปแล้วก็รู้สึกสบายใจ บางคนก็มาขอโชคลาภและก็ได้โชคลาภกลับไป เคยเห็นบางคนก็นำเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้ตามเทศกาล อย่างเทศกาลสงกรานต์ก็นำเสื้อผ้าลายดอกมาเปลี่ยนให้ และช่วงนี้เทศกาลตรุษจีนก็นำเสื้อผ้าสีแดงมาเปลี่ยนให้
คนที่มาค้าขายบนถนนเส้นนี้โดยเฉพาะขาจร เคยเล่ากันว่า เด็กกลุ่มนี้ได้เคยไปเข้าฝันโดยแต่ละคนก็มีชื่อเรียกบางคนชื่อโก๊ะ ยิ่งสร้างความน่าเชื่อได้ว่าน้องมีจิตวิญญาณาจริง ส่วนตัวก็ไม่อยากเห็นเพราะกลัว แต่ก็ไม่ลบหลู่
นางสาวขวัญใจ เจ้าของร้านซักอบรีด ยอมรับ รูปปั้นตุ๊กตาซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามหน้าบ้าน ก็จะเห็น บางคนขับรถยนต์บางคนมากับรถจักรยานยนต์ นำน้ำแดงและเสื้อผ้ามาไหว้ตุ๊กตาบ่อยครั้ง ซึ่งก็เป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคลแต่ในส่วนของตนนั้นไม่เคยเห็นและไม่ลบหลู่หรือเชื่อในสิ่งเหล่านี้
นางน๊ะ หนึ่งผู้ใช้เส้นทางบอกว่า วิ่งถนนสายนี้อยู่เป็นประจำ บอกว่า ที่บ้านมีเด็กอ่อนเด็กบางคนหลอนเห็นรูปปั้นถึงกับกรีดร้อง แต่ตนก็เห็นรูปปั้นตุ๊กตาเด็กดูแล้วก็สวยงามดี แต่ที่ดูผิดแปลกแตกต่างไปคือมีการนำน้ำแดงและนำชุดมาเปลี่ยนให้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่อยากจะลบหลู่ในความคิดของคนอื่น ส่วนตัวตามหลักศาสนาไม่เชื่อเรื่องนี้อยู่แล้ว โดยเห็นว่าการนำน้ำแดงเสื้อผ้ามาเปลี่ยนและสิ่งของมาวางที่รูปปั้นตุ๊กตาเด็ก จะยิ่งสร้างความความน่ากลัวไม่น่าดู และเสียทัศนียภาพในการมองมากกว่า
ด้านร้านของชำที่ขายน้ำแดงบริเวณถนนดังกล่าว ก็ยอมรับว่า น้ำแดงและขนมเด็กจะขายดี โดยมีบางคนที่เห็นเด็กมาวิ่งเล่นและเชื่อว่าเป็นเด็กจากรูปปั้นดังกล่าวก็จะมาซื้อน้ำแดงไปให้กินและขอโชคลาภให้กับตนเองมีชีวิตที่ดีขึ้นการทำให้ร้านขายน้ำแดงดีและหมดเร็วทุกครั้ง
อีกมุมหนึ่งด้านเทศบาลเมืองสตูล เจ้าของประติมากรรมตุ๊กตาการละเล่นพื้นเมือง ที่มีการวางตลอดถนนดังกล่าวกว่า 6 จุด โดยทางฝ่ายประชาสัมพันธ์เทศบาลเมืองสตูลระบุว่า เป็นการสร้างขึ้นเพื่อปรับภูมิทัศน์ให้ถนนสวยงามด้วยการละเล่นพื้นเมืองของเด็กๆ ไทยพุทธ อิสลาม จีน อย่างการละเล่นอีมอสซ่อนผ้า งูกินหาง ม้าก้านกล้วย แต่กลับพบว่า มีชาวบ้านบางคนที่เชื่อในสิ่งลี้ลับ และเห็นว่ารูปปั้นตุ๊กตาเด็กเหล่านี้ ได้ให้โชคให้ลาภจากการบนบานศาลกล่าว ก็มาแก้บนด้วย แขวนพวงมาลัย นำน้ำแดงมาตั้ง นำเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ซึ่งทางเทศบาลก็เคยประชาสัมพันธ์ไปแล้วว่าอย่าทำ แต่ด้วยความเชื่อไม่สามารถจะห้ามได้ และมีบางคนมาขอใช้สถานที่แก้บน แต่ทางเทศบาลก็จะมีการเก็บกวาด และทำความสะอาดอยู่ตลอด เพื่อไม่ให้มีการมาตั้งอีก แต่ก็ยังพบมีการมาตั้งน้ำแดง วางพวงมาลัย เปลี่ยนเสื้อผ้าซ้ำ เพราะความเชื่อกับสิ่งลี้ลับ ก็ไม่สามารถที่จะหยุดให้พวกเขาที่ศรัทธาได้
นางสาวบัวบาน มุจินา อายุ 53 ปี แม่ค้าอาหารตามสั่งซึ่งอาศัยอยู่บริเวณนั้นมานานกว่า 20 ปี เล่าว่า รูปปั้นเด็กๆบนเกาะกลางอยู่เหมือนมีชีวิต มีความน่ารักน่าสงสาร มีชีวิตชีวา สร้างรอยยิ้มให้คนสัญจรผ่านไปมาในตอนกลางวัน สำหรับรูปปั้นตุ๊กตาเด็ก ๆ บนเกาะกลางอยู่มาก่อนตนเสียอีก ส่วนตัวไม่เคยคิดลบหลู่และหลายครั้งก็จะนำน้ำแดง ลูกอมไปวางให้โดยเชื่อว่าเด็ก ๆ อาจจะร้อน และทุกครั้งที่นำไปให้ก็จะบนขอจากเด็ก ๆ ให้ค้าขายรายได้ดีซึ่งทำไปแล้วก็รู้สึกสบายใจ บางคนก็มาขอโชคลาภและก็ได้โชคลาภกลับไป เคยเห็นบางคนก็นำเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้ตามเทศกาล อย่างเทศกาลสงกรานต์ก็นำเสื้อผ้าลายดอกมาเปลี่ยนให้ และช่วงนี้เทศกาลตรุษจีนก็นำเสื้อผ้าสีแดงมาเปลี่ยนให้
คนที่มาค้าขายบนถนนเส้นนี้โดยเฉพาะขาจร เคยเล่ากันว่า เด็กกลุ่มนี้ได้เคยไปเข้าฝันโดยแต่ละคนก็มีชื่อเรียกบางคนชื่อโก๊ะ ยิ่งสร้างความน่าเชื่อได้ว่าน้องมีจิตวิญญาณาจริง ส่วนตัวก็ไม่อยากเห็นเพราะกลัว แต่ก็ไม่ลบหลู่
นางสาวขวัญใจ เจ้าของร้านซักอบรีด ยอมรับ รูปปั้นตุ๊กตาซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามหน้าบ้าน ก็จะเห็น บางคนขับรถยนต์บางคนมากับรถจักรยานยนต์ นำน้ำแดงและเสื้อผ้ามาไหว้ตุ๊กตาบ่อยครั้ง ซึ่งก็เป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคลแต่ในส่วนของตนนั้นไม่เคยเห็นและไม่ลบหลู่หรือเชื่อในสิ่งเหล่านี้
นางน๊ะ หนึ่งผู้ใช้เส้นทางบอกว่า วิ่งถนนสายนี้อยู่เป็นประจำ บอกว่า ที่บ้านมีเด็กอ่อนเด็กบางคนหลอนเห็นรูปปั้นถึงกับกรีดร้อง แต่ตนก็เห็นรูปปั้นตุ๊กตาเด็กดูแล้วก็สวยงามดี แต่ที่ดูผิดแปลกแตกต่างไปคือมีการนำน้ำแดงและนำชุดมาเปลี่ยนให้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่อยากจะลบหลู่ในความคิดของคนอื่น ส่วนตัวตามหลักศาสนาไม่เชื่อเรื่องนี้อยู่แล้ว โดยเห็นว่าการนำน้ำแดงเสื้อผ้ามาเปลี่ยนและสิ่งของมาวางที่รูปปั้นตุ๊กตาเด็ก จะยิ่งสร้างความความน่ากลัวไม่น่าดู และเสียทัศนียภาพในการมองมากกว่า
ด้านร้านของชำที่ขายน้ำแดงบริเวณถนนดังกล่าว ก็ยอมรับว่า น้ำแดงและขนมเด็กจะขายดี โดยมีบางคนที่เห็นเด็กมาวิ่งเล่นและเชื่อว่าเป็นเด็กจากรูปปั้นดังกล่าวก็จะมาซื้อน้ำแดงไปให้กินและขอโชคลาภให้กับตนเองมีชีวิตที่ดีขึ้นการทำให้ร้านขายน้ำแดงดีและหมดเร็วทุกครั้ง
อีกมุมหนึ่งด้านเทศบาลเมืองสตูล เจ้าของประติมากรรมตุ๊กตาการละเล่นพื้นเมือง ที่มีการวางตลอดถนนดังกล่าวกว่า 6 จุด โดยทางฝ่ายประชาสัมพันธ์เทศบาลเมืองสตูลระบุว่า เป็นการสร้างขึ้นเพื่อปรับภูมิทัศน์ให้ถนนสวยงามด้วยการละเล่นพื้นเมืองของเด็กๆ ไทยพุทธ อิสลาม จีน อย่างการละเล่นอีมอสซ่อนผ้า งูกินหาง ม้าก้านกล้วย แต่กลับพบว่า มีชาวบ้านบางคนที่เชื่อในสิ่งลี้ลับ และเห็นว่ารูปปั้นตุ๊กตาเด็กเหล่านี้ ได้ให้โชคให้ลาภจากการบนบานศาลกล่าว ก็มาแก้บนด้วย แขวนพวงมาลัย นำน้ำแดงมาตั้ง นำเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ซึ่งทางเทศบาลก็เคยประชาสัมพันธ์ไปแล้วว่าอย่าทำ แต่ด้วยความเชื่อไม่สามารถจะห้ามได้ และมีบางคนมาขอใช้สถานที่แก้บน แต่ทางเทศบาลก็จะมีการเก็บกวาด และทำความสะอาดอยู่ตลอด เพื่อไม่ให้มีการมาตั้งอีก แต่ก็ยังพบมีการมาตั้งน้ำแดง วางพวงมาลัย เปลี่ยนเสื้อผ้าซ้ำ เพราะความเชื่อกับสิ่งลี้ลับ ก็ไม่สามารถที่จะหยุดให้พวกเขาที่ศรัทธาได้