แม่ค้าขายอาหารอีสานบุรีรัมย์สุดช้ำ จอดรถยนต์ไว้ริมถนนหน้าบ้าน เจอมือมืดปาก้อนอิฐใส่กระจกกลางดึกแตกเสียหาย เชื่อเจตนาปาแต่ไม่รู้จุดประสงค์หรือชนวนเหตุ เพราะไม่เคยมีเรื่องกับใคร หากทำอะไรให้ไม่พอใจโดยไม่รู้ตัวก็น่าจะมาบอก ชี้โควิดก็ขายของยากลำบากยังต้องมาเสียเงินซ่อมรถอีก ทั้งต้องอยู่อย่างหวาดระแวงเพราะไม่รู้ฝีมือใคร แต่เชื่อเวรกรรมมีจริงใครทำอะไรต้องได้รับผลแบบนั้น (28 ม.ค.65) น.ส.เด่นนภา อพรรัมย์ หรือตั๊ก อายุ 40 ปี แม่ค้าขายอาหารอีสานริมถนนหลักเมือง ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ต้องทำมาหากินด้วยความหวาดระแวง หลังจากมาเช่าบ้านอยู่แถวถนนหลักเมือง ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ใกล้กับที่ทำการไปรษณีย์ เพื่อขายอาหารอีสาน และเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีมือมืดซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร ใช้ก้อนอิฐขนาดใหญ่ปาใส่รถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ก สี่ประตูสีส้ม หมายเลขทะเบียน 1 ขฬ-5198 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของ น.ส.เด่นนภา ที่เพิ่งซื้อดาวน์และผ่อนได้ยังไม่ถึงปี เพื่อไว้สำหรับขับไปซื้อของและขนของไปขายตามตลาด จนกระจกด้านหลังแตกเสียหายเป็นรูขนาดใหญ่ ทั้งเศษกระจกยังกระเด็นไปโดนเบาะและประตูเป็นรอยอีกด้วย คาดว่าค่าซ่อมน่าจะเป็นหมื่นแต่ยังเคราะห์ดีที่รถยังมีประกันชั้น 1 แต่เบื้องต้นทางประกันแจ้งว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่อุบัติเหตุ เกิดจากการกระทำและไม่มีคู่กรณี เจ้าของรถจะต้องเสียค่าส่วนต่างเองด้วย น.ส.เด่นนภา ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. คืนวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่าน ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวกลับจากขายของที่ตลาด มาจอดไว้ที่ริมถนนหน้าบ้านเช่าเป็นปกติเหมือนทุกวัน กระทั่งประมาณเที่ยงคืนกว่าได้ยินเสียงดัง และมีเสียงหมาเห่า แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะปกติกลางคืนจะมีรถไปรษณีย์ขนพัสดุขึ้นลงประจำ กระทั่งรุ่งเช้าตื่นมาเจอกระจกรถแตกเป็นรูปขนาดใหญ่ก็ตกใจ พอเดินไปดูใกล้ๆ ก็พบว่ามีก้อนอิฐขนาดใหญ่ตกอยู่บนที่วางเท้า และเศษกระจกกระจายเกลื่อนเต็มรถ ถึงรู้ว่ามีคนร้ายปาก้อนอิฐใส่กระจกรถของตนเอง แต่ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใครเพราะกล้องวงจรปิดที่ร้านใกล้เคียงก็ส่งมาไม่ถึงจุดที่รถจอด จึงทำให้ไม่เห็นคนก่อเหตุ แต่ก็อยากจะรู้ว่าเป็นฝีมือใครแล้วทำแบบนี้เพื่ออะไร เพราะที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร น.ส.สุพัชร สมบูรณ์ อายุ 47 ปี พี่สาวผู้เสียหาย บอกว่า ส่วนตัวมั่นใจว่าไม่ใช่อุบัติเหตุหรือความคึกคะนองของกลุ่มวัยรุ่น เชื่อว่าคนก่อเหตุเจตนาหรือเจาะจงปาก้อนอิฐใส่รถของน้องสาวแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใครหรือทำแบบนี้เพื่ออะไร เพราะที่ผ่านมาทั้งน้องสาวและคนในครอบครัว ก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร แต่หากไปทำอะไรให้ใครไม่พอใจโดยไม่รู้ตัว ก็น่าจะมาบอกกันดีๆ ไม่น่าจะมาทำลายทรัพย์สินกันแบบนี้ ทุกวันนี้ขายของก็ยากลำบากอยู่แล้ว ยังต้องมาเสียเวลาและเสียค่าซ่อมรถอีก ตอนนี้ทั้งน้องสาวและคนในครอบครัวก็อยู่กันแบบหวาดระแวง เพราะไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใครและทำเพื่ออะไร แต่ก็อยากฝากถึงคนที่ทำหากเห็นข่าวแล้วรู้สึกสำนึกผิด ก็อยากให้กลับมาขอโทษก็พร้อมให้อภัย แต่หากรู้ตัวว่าเป็นคนกระทำแต่ไม่ยอมมาขอโทษ ก็เชื่อว่าเวรกรรมมีอยู่จริงใครทำอะไรก็ต้องได้แบบนั้น