"นายกฯ" สั่งจับตาสัปดาห์แรก สถานบันเทิง ดื่มได้ไม่เกินเวลา 23.00 น. ร้านไหนทำผิดปิดหน้าร้าน แอบเปิดหลังร้าน ให้จนท.จับกุม ยึดใบอนุญาต หากพบจนท.รัฐเอี่ยวเจอฟันวินัย ด้านโควิดไทยติดเชื้อใหม่ลดลงเหลือ 6,718 ตาย 12 ราย "อนามัยโลก" วอนทั่วโลกเร่งยุติโควิดระบาดระยะเฉียบพลัน หลังระบาดนานเข้าสู่ปีที่ 3 ขณะที่ ไวรัสมรณะยังลุกลามไม่หยุด พ่นพิษเหยื่อป่วยติดเชื้อสะสมทะลุ 355 ล้านราย ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 25 ม.ค.65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตาม สัปดาห์แรกที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) อนุมัติให้ร้านอาหารที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใน 8 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยวและพื้นที่สีส้ม 25 จังหวัด ที่เปิดให้บริการได้ถึงเวลา 23.00 น. และต้องตรวจสอบต่อไม่ให้มีการเปิดดื่มในร้านหลัง 5 ทุ่ม ย้ำต้องเข้ม COVID Free Setting โดยผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด พร้อมกำชับตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ให้ดูแลสถานประกอบการที่ทำผิด หากเจ้าหน้าที่พบผู้กระทำผิดกฎหมาย หรือเจ้าหน้าที่ทำผิดกฎหมาย ต้องลงโทษทางวินัย ร้านไหนขายเหล้า ร้านไหนลักลอบปิดเกินเวลาที่กำหนด ปิดหน้าร้านบังหน้า แอบเปิดหลังร้าน ขอให้เจ้าหน้าที่สอบสวน จับกุม ยึดใบอนุญาต และหากพบเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องให้เอาผิดทางวินัย ด้าน ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 6,718 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 6,566 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 152 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค.65 มีจำนวน 167,922 ราย หายป่วยกลับบ้าน 7,659 ราย เสียชีวิต 12 ราย รวมเสียชีวิตสะสมตั้งแต่ ปี 2563-ปัจจุบัน จำนวน 22,057 ราย สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผอ.องค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ (ฮู) แถลงเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ร่วมมือกันเพื่อยุติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระยะเฉียบพลัน ในขณะที่ทั่วโลกกำลังเข้าสู่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นปีที่ 3 ซึ่งถือเป็นช่วงระยะเวลารอยต่อที่สำคัญ โดย ดร.กีบรีเยซุส ยังระบุด้วยว่า ทั่วโลกจะต้องไม่ปล่อยให้การแพร่ระบาดของโรคลากยาวต่อไปอีก จนทำให้เกิดความตื่นตระหนก และการเพิกเฉยอย่างไม่จบสิ้น ทางด้าน นางสเวนเนีย ชูลเซอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาของเยอรมนี ซึ่งร่วมแถลงกับ ดร.กีบรีเยซุส ก็ได้เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลก เร่งดำเนินโครงการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยด่วน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่ รัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ เตรียมประกาศขยายพื้นที่การบังคับใช้ภาวะกึ่งฉุกเฉินในพื้นที่ 34 จังหวัด จากจำนวนทั้งหมด 47 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ที่ยังคงลุกลามอย่างหนัก รายงานข่าวแจ้งว่า การขยายพื้นที่ดังกล่าว เพิ่มขึ้นมาจากเดิมอีก 18 จังหวัด รวมถึง จ.เกียวโต จ.โอซากา และจ.เฮียวโงะ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 27 ม.ค. ถึงวันอาทิตย์ที่ 20 ก.พ. โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อบรรเทาภาระหนักในระบบสาธารณสุข และป้องกันปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ที่จำเป็น ซึ่งเป็นผลมาจากผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้น และการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อ ทั้งนี้ จากการบังคับใช้ภาวะกึ่งฉุกเฉินที่จะมีขึ้น ก็จะทำให้บรรดาร้านอาหารต่างๆ ลดเวลาให้บริการลง รวมถึงการให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย เป็นต้น โดยสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในญี่ปุ่น พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่มากกว่าวันละ 4-5 หมื่นราย ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมจำนวน 2,216,829 ราย มากเป็นอันดับที่ 30 ของโลก ส่วนผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวนรวมอยู่ที่ 18,523 ราย และผู้ป่วยที่รักษาหายมีจำนวนสะสม 1,838,915 ราย ขณะที่ สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดฯ ในพื้นที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ปรากฏว่า ยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ล่าสุด มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 355,632,096 ราย ส่วนผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวน 5,623,218 ราย และผู้ป่วยที่รักษาหายมีจำนวนสะสม 282,304,065 ราย โดยสหรัฐฯ พบผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนสะสมอยู่ที่ 72,958,690 ราย มากเป็นอันดับ 1 ของโลก ส่วนผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวน 891,595 ราย มากเป็นอันดับ 1 ของโลกเช่นกัน และผู้ป่วยที่รักษาหายมีจำนวนสะสม 44,828,957 ราย