วันที่ 24 ม.ค. 2565 ที่บริเวณตลาดสดเทศบาล 1 ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายชัยรัตน์ บุญส่ง พาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ได้ออกติดตามการจำหน่ายเนื้อหมู ไก่ ไข่ เพราะเนื้อหมู ไข่ ไก่ มีการปรับราคาสูงขึ้นตามกลไกของตลาด ซึ่งประชาชนจำเป็นต้องซื้อสินค้าจำพวกอาหารเพื่อบริโภคทุกวัน สำหรับราคาหมูขณะนี้ทางกระทรวงพาณิชย์ได้เปิดจุดเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคในราคาหมูแดงกิโลกรัมละ 150 บาท จนถึงวันที่ 31 ม.ค. 2565 เพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยใช้เงินของทางราชการชดเชยราคาลงไปในส่วนของพ่อค้าที่จำหน่ายราคาปกติกิโลกรัมละ 200 บาท พ่อค้าต้องมาจำหน่ายหมูแดงในราคากิโลกรัมละ 150 บาทมีส่วนต่าง 50 บาทที่ภาครัฐจะต้องชดเชยลงไป และในแต่ละร้านอาจจะจำหน่ายราคาเนื้อหมูไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับต้นทุนของแต่ละราย ในส่วนของ จ.ศรีสะเกษ มีจุดบริการจำหน่ายจำนวนทั้งสิ้น 7 จุด ด้วยกัน ซึ่งกระจายอยู่ในเขตอำเภอเมือง 1 จุด อ.กันทรารมย์ 3 จุด อ.กันทรลักษ์ 1 จุด อ.ขุนหาญ 1 จุด และ อ.อุทุมพรพิสัยอีก 1 จุด
พาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวต่อว่า ต้องขอความร่วมมือจากผู้บริโภคที่มาซื้อหมูในจุดจำหน่ายให้ช่วยลงชื่อ นามสกุล เพื่อซื้อหมูได้คนละไม่เกิน 2 กิโลกรัม เพื่อจะได้เป็นการตรวจสอบว่าทางร้านมีการจำหน่ายเนื้อหมูราคานี้จริงหรือไม่ ปกติแล้วราคาเนื้อหมูจะจำหน่ายปลีกในราคากิโลกรัมละ 180 บาท เพราะฉะนั้นเมื่อเราให้เขาขาย 150 บาทก็จะมีส่วนต่างอยู่ 30 บาทในต่อวัน ถ้าเราให้เขา 3,000 บาทต่อวัน เขาก็จะได้ 100 กิโลกรัม แต่ถ้าบางร้านในต่างอำเภอไปก็จะขายกิโลกรัมละ 200 บาท แสดงว่าจะต้องมีส่วนต่าง 50 บาท จำนวนเงิน 50 บาทก็อาจจะได้ 60 กิโลกรัมก็จะต้องทำเอกสารหลักฐานไปเพื่อประกอบการเบิกจ่ายเงินให้กับพ่อค้าต่อไป ซึ่งปรากฏว่าได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการด้วยดี
ซึ่งขณะนี้ทางพาณิชย์ก็พยายามจะหาร้านเข้าร่วมโครงการเพิ่มเติมเพื่อเปิดจุดจำหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภคเพิ่มขึ้นในจุดที่ใกล้บ้าน และขอฝากถึงพ่อค้าแม่ค้าในการที่จำหน่ายสินค้าไม่ว่าจะเป็นหมูไข่ไก่หรือสินค้าต่าง ๆ ขอให้จำหน่ายในราคาที่เหมาะสม ราคาอาจจะสูงขึ้นก็ขอให้เป็นไปตามกลไกของตลาด และขอให้มีการติดป้ายราคาที่ชัดเจนซึ่งในส่วนของผู้บริโภคเมื่อไปซื้อสินค้าก็ขอให้ดูป้ายราคาด้วย หากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ขอให้แจ้งสายด่วน 1569 ได้ในส่วนนี้ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมกับผู้ซื้อหากมีการขายสินค้าเกินราคส กรือผู้ขายจงใจจำหน่ายให้สูงกว่าราคา ทางราชการมีมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปีและปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
พาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวต่อว่า ต้องขอความร่วมมือจากผู้บริโภคที่มาซื้อหมูในจุดจำหน่ายให้ช่วยลงชื่อ นามสกุล เพื่อซื้อหมูได้คนละไม่เกิน 2 กิโลกรัม เพื่อจะได้เป็นการตรวจสอบว่าทางร้านมีการจำหน่ายเนื้อหมูราคานี้จริงหรือไม่ ปกติแล้วราคาเนื้อหมูจะจำหน่ายปลีกในราคากิโลกรัมละ 180 บาท เพราะฉะนั้นเมื่อเราให้เขาขาย 150 บาทก็จะมีส่วนต่างอยู่ 30 บาทในต่อวัน ถ้าเราให้เขา 3,000 บาทต่อวัน เขาก็จะได้ 100 กิโลกรัม แต่ถ้าบางร้านในต่างอำเภอไปก็จะขายกิโลกรัมละ 200 บาท แสดงว่าจะต้องมีส่วนต่าง 50 บาท จำนวนเงิน 50 บาทก็อาจจะได้ 60 กิโลกรัมก็จะต้องทำเอกสารหลักฐานไปเพื่อประกอบการเบิกจ่ายเงินให้กับพ่อค้าต่อไป ซึ่งปรากฏว่าได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการด้วยดี
ซึ่งขณะนี้ทางพาณิชย์ก็พยายามจะหาร้านเข้าร่วมโครงการเพิ่มเติมเพื่อเปิดจุดจำหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภคเพิ่มขึ้นในจุดที่ใกล้บ้าน และขอฝากถึงพ่อค้าแม่ค้าในการที่จำหน่ายสินค้าไม่ว่าจะเป็นหมูไข่ไก่หรือสินค้าต่าง ๆ ขอให้จำหน่ายในราคาที่เหมาะสม ราคาอาจจะสูงขึ้นก็ขอให้เป็นไปตามกลไกของตลาด และขอให้มีการติดป้ายราคาที่ชัดเจนซึ่งในส่วนของผู้บริโภคเมื่อไปซื้อสินค้าก็ขอให้ดูป้ายราคาด้วย หากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ขอให้แจ้งสายด่วน 1569 ได้ในส่วนนี้ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมกับผู้ซื้อหากมีการขายสินค้าเกินราคส กรือผู้ขายจงใจจำหน่ายให้สูงกว่าราคา ทางราชการมีมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปีและปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ