พาไปรู้จักกลุ่มอาชีพพระราชทาน กลุ่มทอกกผสมฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ บ้านม่วง ต.นาโพธิ์ อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินงานพัฒนากลุ่มอาชีพประชาชนในถิ่นทุรกันดารมาตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2538 โดยมีพระราชประสงค์ที่จะช่วยให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น พึ่งตนเองได้ มีความรู้ความสามารถที่จะสร้างความก้าวหน้าให้แก่ตนเอง ส่งผลให้ครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเกิดความมั่นคงทั้งทางด้านอาชีพ สุขภาพอนามัย การศึกษา และการพัฒนาชุมชน ซึ่งปัจจุบันกลุ่มอาชีพในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริฯ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งผู้สนับสนุนการดำเนินงานทั้งภาครัฐและเอกชนมีเป็นจำนวนมาก
นายดุสิต ทองทา สหกรณ์จังหวัดสกลนคร เปิดเผยว่า โครงการในสมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในส่วนของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดสกลนครมี 3 ภารกิจ ประกอบด้วยการส่งเสริมสหกรณ์ในโครงการพระราชดำริ คือ สหกรณ์โคนมวาริชภูมิ จำกัด และสหกรณ์โคนมภูพาน จำกัด การส่งเสริมสหกรณ์นักเรียน และการส่งเสริมกลุ่มอาชีพ ซึ่งมีทั้งหมด 13 กลุ่มอาชีพ หนึ่งในนั้นคือกลุ่มทอกกผสมฝ้ายย้อมสีธรรมชาติบ้านม่วง อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร โดยทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดสกลนครได้สนับสนุนด้านเงินทุนหมุนเวียน การส่งเสริมบริหารจัดการกลุ่ม และให้องค์ความรู้ด้านการผลิตและการตลาด
“โดยปกติกลุ่มอาชีพในโครงการพระราชดำริ จะผลิตสินค้าจากการทอกกผสมผ้าฝ้ายและส่งผลิตภัณฑ์ไปขายที่ ร้านภูฟ้า แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเกิดสถานการณ์โควิด-19 ร้านภูฟ้ารับออร์เดอร์น้อยลง สำนักงานสหกรณ์จังหวัดสกลนครจึงแนะนำให้กลุ่มฯ ขายผลิตภัณฑ์ผ่านตลาดในจังหวัด และเปิดตลาดออนไลน์เพื่อให้สามารถจำหน่ายได้อย่างสม่ำเสมอ” นายดุสิต ทองทา กล่าว
ด้าน นางสาวดวงใจ นามเสาร์ ราษฎรบ้านม่วง ต.นาโพธิ์ อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร รองประธานกลุ่มทอกกผสมฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ บ้านม่วง เผยว่า ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มจะมีเสื่อ ทั้งไซต์เล็ก กลาง ใหญ่ กระเป๋า หมอนขวานไซต์เล็ก ไซต์ใหญ่ ที่ผ่านมาส่งจำหน่ายที่ร้านภูฟ้าแห่งเดียวปีหนึ่งส่งขาย 3-4 ครั้ง มีรายได้ที่ประมาณ 120,000 - 150,000 บาท แต่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาดทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เข้ามาช่วยเหลือด้วยการเปิดช่องทางตลาดออนไลน์ให้จำหน่าย
“รู้สึกดีใจที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ มาส่งเสริมอาชีพให้ รู้สึกดีใจมากๆ เพราะอำเภอกุสุมาลย์ เป็นอำเภอที่แห้งแล้งประชาชนยากจน ดินเป็นลูกรังไม่เหมาะกับการปลูกพืชผัก ทำการเกษตรได้ปีละครั้ง คือช่วงหน้าฝนคือทำนาฤดูแล้งปลูกอะไรไม่ได้ พระองค์มาช่วยเหลือส่งเสริมกลุ่มเราซึ่งเป็นประชาชนตัวเล็กๆ ที่ยากจน ทุกคนรู้สึกดีใจ หลายคนที่อายุมากแล้วได้กลับมาอยู่บ้านอยู่กับลูกกับหลาน ทำอาชีพทอผ้าทอกก มีรายได้ มีงานทำ ทำให้มีกินมีใช้ และมีความสุขอย่างทั่วถึง ทุกคนบอกว่าดีใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทยและพระองค์ไม่ทอดทิ้ง” นางสาวดวงใจ นามเสาร์ กล่าว
สำหรับจังหวัดสกลนครนั้นเป็นอีกหนึ่งจังหวัด ที่มีแผนงานพัฒนากลุ่มอาชีพประชาชนในถิ่นทุรกันดาร โดยเฉพาะอำเภอกุสุมาลย์ มีจำนวน 13 กลุ่ม สมาชิกรวมทั้งสิ้น 477 คน มี 3 กิจกรรม ได้แก่ การทอผ้าและการย้อมสีธรรมชาติ 11 กลุ่ม การตัดเย็บและแปรรูปจากผ้า 1 กลุ่ม และการจักสานและทอกกผสมฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ 1 กลุ่ม ซึ่งถือได้ว่าเป็นความก้าวหน้าของการดำเนินงานที่สามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนและชุมชนในท้องถิ่น โดยมีหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชนให้การส่งเสริม สนับสนุน ดูแล และแนะนำการดำเนินกิจกรรมด้านต่างๆ อาทิ สำนักงานโครงการสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กรมพัฒนาชุมชน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมการปกครอง และหน่ายงานระดับท้องถิ่นอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องตลอดมา
นายดุสิต ทองทา สหกรณ์จังหวัดสกลนคร เปิดเผยว่า โครงการในสมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในส่วนของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดสกลนครมี 3 ภารกิจ ประกอบด้วยการส่งเสริมสหกรณ์ในโครงการพระราชดำริ คือ สหกรณ์โคนมวาริชภูมิ จำกัด และสหกรณ์โคนมภูพาน จำกัด การส่งเสริมสหกรณ์นักเรียน และการส่งเสริมกลุ่มอาชีพ ซึ่งมีทั้งหมด 13 กลุ่มอาชีพ หนึ่งในนั้นคือกลุ่มทอกกผสมฝ้ายย้อมสีธรรมชาติบ้านม่วง อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร โดยทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดสกลนครได้สนับสนุนด้านเงินทุนหมุนเวียน การส่งเสริมบริหารจัดการกลุ่ม และให้องค์ความรู้ด้านการผลิตและการตลาด
“โดยปกติกลุ่มอาชีพในโครงการพระราชดำริ จะผลิตสินค้าจากการทอกกผสมผ้าฝ้ายและส่งผลิตภัณฑ์ไปขายที่ ร้านภูฟ้า แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเกิดสถานการณ์โควิด-19 ร้านภูฟ้ารับออร์เดอร์น้อยลง สำนักงานสหกรณ์จังหวัดสกลนครจึงแนะนำให้กลุ่มฯ ขายผลิตภัณฑ์ผ่านตลาดในจังหวัด และเปิดตลาดออนไลน์เพื่อให้สามารถจำหน่ายได้อย่างสม่ำเสมอ” นายดุสิต ทองทา กล่าว
ด้าน นางสาวดวงใจ นามเสาร์ ราษฎรบ้านม่วง ต.นาโพธิ์ อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร รองประธานกลุ่มทอกกผสมฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ บ้านม่วง เผยว่า ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มจะมีเสื่อ ทั้งไซต์เล็ก กลาง ใหญ่ กระเป๋า หมอนขวานไซต์เล็ก ไซต์ใหญ่ ที่ผ่านมาส่งจำหน่ายที่ร้านภูฟ้าแห่งเดียวปีหนึ่งส่งขาย 3-4 ครั้ง มีรายได้ที่ประมาณ 120,000 - 150,000 บาท แต่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาดทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เข้ามาช่วยเหลือด้วยการเปิดช่องทางตลาดออนไลน์ให้จำหน่าย
“รู้สึกดีใจที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ มาส่งเสริมอาชีพให้ รู้สึกดีใจมากๆ เพราะอำเภอกุสุมาลย์ เป็นอำเภอที่แห้งแล้งประชาชนยากจน ดินเป็นลูกรังไม่เหมาะกับการปลูกพืชผัก ทำการเกษตรได้ปีละครั้ง คือช่วงหน้าฝนคือทำนาฤดูแล้งปลูกอะไรไม่ได้ พระองค์มาช่วยเหลือส่งเสริมกลุ่มเราซึ่งเป็นประชาชนตัวเล็กๆ ที่ยากจน ทุกคนรู้สึกดีใจ หลายคนที่อายุมากแล้วได้กลับมาอยู่บ้านอยู่กับลูกกับหลาน ทำอาชีพทอผ้าทอกก มีรายได้ มีงานทำ ทำให้มีกินมีใช้ และมีความสุขอย่างทั่วถึง ทุกคนบอกว่าดีใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทยและพระองค์ไม่ทอดทิ้ง” นางสาวดวงใจ นามเสาร์ กล่าว
สำหรับจังหวัดสกลนครนั้นเป็นอีกหนึ่งจังหวัด ที่มีแผนงานพัฒนากลุ่มอาชีพประชาชนในถิ่นทุรกันดาร โดยเฉพาะอำเภอกุสุมาลย์ มีจำนวน 13 กลุ่ม สมาชิกรวมทั้งสิ้น 477 คน มี 3 กิจกรรม ได้แก่ การทอผ้าและการย้อมสีธรรมชาติ 11 กลุ่ม การตัดเย็บและแปรรูปจากผ้า 1 กลุ่ม และการจักสานและทอกกผสมฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ 1 กลุ่ม ซึ่งถือได้ว่าเป็นความก้าวหน้าของการดำเนินงานที่สามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนและชุมชนในท้องถิ่น โดยมีหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชนให้การส่งเสริม สนับสนุน ดูแล และแนะนำการดำเนินกิจกรรมด้านต่างๆ อาทิ สำนักงานโครงการสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กรมพัฒนาชุมชน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมการปกครอง และหน่ายงานระดับท้องถิ่นอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องตลอดมา