วันที่ 22 ม.ค.65 นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครส.ส. กทม. เขตเลือกตั้งที่ 9 หลักสี่-จตุจักร พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายสรวงศ์ เทียนทอง อดีตรมว.สาธารณสุข นายอนุสรณ์ ปั้นทอง สส.กทม. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล และนายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ อดีตส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งในชุมชนหลังกรมวิทยาศาสตร์ ชุมชนพหลโยธิน 46 และชุมชนวัดบางบัว โดยมีพี่น้องประชาชนในชุมชนให้การสนับสนุน ชูป้ายให้กำลังใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีผู้สูงอายุมานั่งรอให้กำลังใจอยู่หน้าบ้านเป็นระยะๆ
โดยมีคุณป้าท่านหนึ่งกล่าวว่า เห็นสุรชาติมาตั้งแต่ 10 กว่าปีที่แล้วโน้น สมัยที่มาลงการเมืองใหม่ๆ เป็นคนที่มีความตั้งใจ และในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วประหลาดใจมากที่สุรชาติ ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ซึ่งในครั้งนี้ป้าก็ให้กำลังใจเต็มที่และจะออกไปเลือกนายสุรชาติให้ได้เป็นผู้แทนของเรา
ด้านนายสุรชาติ ได้กล่าว ในขณะเยี่ยมเยียนผู้สูงอายุในบ้านหลังหนึ่ง ที่อยู่ในชุมชนพหลโยธิน 46 ว่าปัญหาเรื่องผู้ป่วยสูงอายุและผู้ติดเตียงในชุมชนก็เป็นปัญหาสำคัญและมีปัญหาเรื่องนี้ในทุกชุมชน เพราะผู้สูงอายุไม่สามารถเดินทางไปหาหมอที่โรงพยาบาลได้โดยสะดวก และการไปหาหมอในแต่ละครั้งก็มีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากการใช้บริการบัตรสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกโรค เช่นค่าเดินทางที่จะต้องเดินทางไปหาหมอ ยกตัวอย่างคุณลุงท่านนี้ เป็นโรคมือบวมขาบวม จะต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลภูมิพลเป็นประจำ เมื่อต้องเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะก็เสียค่าใช้จ่ายหลักร้อย หรือถ้าเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ก็ยังมีราคาค่อนข้างสูง เราจึงควรที่จะทำให้ราคาค่าโดยสารของรถโดยสารสาธารณะในกรุงเทพฯอยู่ในอัตราที่เหมาะสมกับรายได้ของผู้ใช้แรงงานในชุมชน เพราะในวันนี้แค่เบี้ยยังชีพเดือนละ 700 บาทก็น้อยจนไม่สามารถจะทำอะไรได้แล้ว
ขณะที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอฝาก 1 เสียงของนายสุรชาติ ที่จะสะท้อนถึงความทุกข์ยากลำบากของพี่น้องวันนี้ เข้าไปยังสภาผู้แทนราษฎร ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่หนึ่งเสียง แต่จะเป็นเสียงที่ดังก้องสะท้อนแทนความต้องการของคนทั้งประเทศที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงในบ้านเมืองนี้
โดยมีคุณป้าท่านหนึ่งกล่าวว่า เห็นสุรชาติมาตั้งแต่ 10 กว่าปีที่แล้วโน้น สมัยที่มาลงการเมืองใหม่ๆ เป็นคนที่มีความตั้งใจ และในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วประหลาดใจมากที่สุรชาติ ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ซึ่งในครั้งนี้ป้าก็ให้กำลังใจเต็มที่และจะออกไปเลือกนายสุรชาติให้ได้เป็นผู้แทนของเรา
ด้านนายสุรชาติ ได้กล่าว ในขณะเยี่ยมเยียนผู้สูงอายุในบ้านหลังหนึ่ง ที่อยู่ในชุมชนพหลโยธิน 46 ว่าปัญหาเรื่องผู้ป่วยสูงอายุและผู้ติดเตียงในชุมชนก็เป็นปัญหาสำคัญและมีปัญหาเรื่องนี้ในทุกชุมชน เพราะผู้สูงอายุไม่สามารถเดินทางไปหาหมอที่โรงพยาบาลได้โดยสะดวก และการไปหาหมอในแต่ละครั้งก็มีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากการใช้บริการบัตรสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกโรค เช่นค่าเดินทางที่จะต้องเดินทางไปหาหมอ ยกตัวอย่างคุณลุงท่านนี้ เป็นโรคมือบวมขาบวม จะต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลภูมิพลเป็นประจำ เมื่อต้องเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะก็เสียค่าใช้จ่ายหลักร้อย หรือถ้าเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ก็ยังมีราคาค่อนข้างสูง เราจึงควรที่จะทำให้ราคาค่าโดยสารของรถโดยสารสาธารณะในกรุงเทพฯอยู่ในอัตราที่เหมาะสมกับรายได้ของผู้ใช้แรงงานในชุมชน เพราะในวันนี้แค่เบี้ยยังชีพเดือนละ 700 บาทก็น้อยจนไม่สามารถจะทำอะไรได้แล้ว
ขณะที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอฝาก 1 เสียงของนายสุรชาติ ที่จะสะท้อนถึงความทุกข์ยากลำบากของพี่น้องวันนี้ เข้าไปยังสภาผู้แทนราษฎร ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่หนึ่งเสียง แต่จะเป็นเสียงที่ดังก้องสะท้อนแทนความต้องการของคนทั้งประเทศที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงในบ้านเมืองนี้