ที่ผ่านมาแม้จะมีการรณรงค์ ไม่ให้รับจ้างเปิดบัญชี หรือ บัญชีม้า เพื่อเลี่ยงการถูกนำบัญชีไปกระทำความผิด แต่ดูเหมือนว่า ปัญหานี้จะยังมีมาให้เห็นอยู่ต่อเนื่อง ภัยทางการเงินต่างๆเช่น แก๊งคอลเซนเตอร์ ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ที่หลอกล่อให้เหยื่อโอนเงินออกไป จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีบัญชีที่จะรอรับเงินที่หลอกมาจากเหยื่อ มิจฉาชีพจึงต้องหาชื่อใครสักคนใช้เปิดบัญชีเพื่อให้ยากต่อการสืบหาและมีเวลาในการหลบหนี หรือที่เรียกว่าบัญชีม้า บัญชีม้าในเฟซบุ๊กเพจ PCT Police ได้สรุปคำว่า บัญชีม้า ให้เข้าใจง่ายๆคือ การโกงเงินบนโลกออนไลน์ ที่ต้องใช้บัญชีธนาคาร หรือการซื้อขายของผิดกฎหมายอย่างเช่นยาเสพติด ตัวการที่แท้จริง มักจะไม่ใช้บัญชีของตัวเอง เพราะกลัวหลักฐานจะมาถึงตัวเอง จึงต้องใช้บัญชีคนอื่นมาทำธุรกรรมแทน และทำให้เป็นที่มาของการหลอกให้เปิดบัญชี และซื้อขายบัญชี การหลอกให้เปิดบัญชี อาจแอบอ้างเรื่องต่างๆ นานา เช่น ให้รับเงินเยียวยา ให้รับค่าโน่นนี่นั่น แล้วให้บุคคลอื่น เปิดบัญชี แล้วตัวเองเอาบัญชีธนาคารไปใช้ ส่วนถ้ามีผลตอบแทนให้ ก็จะเข้าข่ายของการซื้อขายบัญชีไป ซึ่งปกติพบว่า ซื้อขายกันอยู่แค่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน เวลามีคดีอะไรเกิดขึ้น แล้วเจ้าหน้าที่ไล่เส้นทางการเงินไป ก็มักจะพบว่าเป็นบัญชีม้า ไม่ใช่ตัวการที่แท้จริง คนมีชื่อในบัญชี อาจไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิดในคดีเลย (แต่ผิดเรื่องเปิดบัญชีแทนนั้นชัดเจนอยู่แล้ว) หลายคดีที่พยานหลักฐานไปต่อได้ยาก เพราะอาจมีการเปลี่ยนมือผู้ถือบัญชีไปหลายทอด ทำให้คดีไม่คืบหน้าอย่างที่หวังเอาไว้ สำหรับการรับจ้างเปิดบัญชี หรือให้ผู้อื่นใช้บัญชีนั้น อาจมีความผิดได้หลายอย่าง เช่น ความผิดฐานร่วมกันกระทำความผิด,เป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด หรือเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด,ความผิดฐานฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 เจ้าของบัญชีนั้นอาจเข้าข่ายความผิดเรื่องการฟอกเงินได้ เพราะถือว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าไม่อยากติดร่างแห อย่ายอมให้คนอื่นเอาบัญชีเราไปใช้ เจ้าของบัญชีเจอทั้งคุก-ปรับ ขอขอบคุณข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยและPCT Police