วันที่ 20 ม.ค.65 เวลา 11.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.ณัฎฐธิดา หรือแหวน มีวังปลา พยาบาลอาสา ที่ถูกดำเนินคดี ม.112 และ ถูกทหารควบคุมตัว เมื่อปี 2558 พร้อมพวกประกอบด้วย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นางมัทนา อัจจิมา นาย มนัส แกล้ววิกย์กิจ น.ส.กัลยามน หรือมิ้น สุนันท์รัตน์ นายเอกชัย หงส์กังวาล เข้าเรียกร้องให้ กสม.เข้ามาตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีต่อ นักกิจกรรมทางการเมือง โดยเฉพาะผู้ต้องขังหญิง ที่ถูกดำเนินคดีทางการเมืองซึ่ง มักถูกละเมิดสิทธิ และอนาจาร ภายในเรือนจำ จึงอยากให้ เจ้าหน้าที่ กสม.เข้ามาตรวจสอบ และ เรียกร้องไปยังหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น เจ้าหน้าที่ ตร. ทหาร หรือ ฝ่ายความมั่นคง หยุดการกระทำที่ละเมิดต่อสิทธิมนุษยชนทึกรูปแบบ จึงขอยื่นข้อเรียกร้องต่อ กสม.ดังนี้ 1.ขอให้ กสม.เยียวยาทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ ให้แก่ นักกิจกรรมทางการเมืองทุกคน 2.การที่น.ส.ณัฎฐธิดา หรือแหวน มีวังปลา ถูกจับกุมเข้าค่ายทหารและถูกกระทำอนาจาร กสม. ต้องเชิญทั้งฝ่ายทหารและตำรวจรวมทั้งตัวของจำเลย มานั่งหาข้อสรุปในที่ประชุมพร้อม ให้ทั้งสองฝ่ายมีทนายและผู้ไว้วางใจเข้าร่วมรับฟังเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่ายด้วย 3.กสม. ต้องเป็นกลางยืนอยู่ข้างความถูกต้อง อนึ่งในเคสของนักกิจกรรมที่ถูกทำร้ายจนแขนหักอย่าง นายเอกชัย หงส์กังวาน แม้เคยไปแจ้งความแม้เคยหาหลักฐานต่างๆมาประกอบคดีหากแต่ถูกรัฐเพิกเฉย กสม.หรือรู้หรือไม่ 4.ในเคสของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ก็เคยมีการคุกคามและจับตัวบุตรสาว ของนายสมยศ เข้าในค่ายทหาร ซึ่งเป็นการบังคับข่มขู่คุกคาม กสม. ต้องมีมาตรการปกป้องประชาชน ด้วยการออกมาตรการคุ้มครองประชาชนอย่างจริงจัง โดยมีกลุ่มทะลุฟ้า นำโดย นายจิตตริน พล้าก้านตง เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อเรียกร้องให้ กสม.เป็นกลางและอยู่เคียงข้างประชาชน พร้อมยื่นข้อเรียกร้องให้ กสม. ตรวจสอบ การจับกุมคุมขังนักกิจกรรมทางการเมือง ที่ไม่รับสิทธิ์การประกันตัวด้วย โดยนายวสันต์ ชี้แจ้ง 1 ใน 3 ประเด็นที่ผู้ร้องมามีการละเมิดสิทธิฯ ที่เหลือนอกนั้นพิจารณาแล้วไม่มีการละเมิดสิทธิฯ ในประเด็นที่ตรวจสอบแล้วพบว่ามีการละเมิดสิทธิฯ ทาง กสม.ได้ทำหนังสือถึง ผบ.ตร.และ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ถึงผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน จากผู้ร้องกล่าวอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวเมื่อ 11-17 มี.ค.2558 โดยเจ้าหน้าที่ทหารมีการลวนลามแบะปฏิบัติไม่เหมาะสมขณะผู้ร้องถูกควบคุมตัว นอกจากนี้ผู้ร้องถูกควบคุมตัวในฑัณทสถานหญิงกลางเป็นเวลานานโดยไม่ดำเนินคดีใดๆ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิฯ ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้วเห็นว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชน จึงให้เสนอแนะมาตรการในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชน ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองทัพไทย (กองบัญชาการสูงสุด) เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ภายใน 60 วันนับแต่วันที่ได้รับรายงาน ตาม รธน.อาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ม.247(1) และ พรป.รธน.ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 2560 ม.20(1) ประกอบ ม.36 ในส่วนของทางตำรวจมีการอายัดตัวไว้ แต่มีคดีอื่น เมื่อมีการปล่อยตัวแล้วกลับไปเริ่มดำเนินคดีอีก แทนที่จะดำเนินการคู่ขนานไปด้วยกันได้ จึงแจ้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับไปดำเนินการ